หลังจากตั้งไข่กันมาหลายเดือน “พี่แอ๊พ” ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว “Life SUKHUMVIT 62” กันสักที

ต้องยอมรับว่าโครงการนี้ถูกจับตามองกันข้ามปีเลยทีเดียว

วันนี้ผมเลยจะพามาตะลุยย่าน “บางจาก” ซึ่งเป็นทำเลทองแห่งใหม่ของชาวคอนโด

เพราะอะไรทำเลนี้ถึงเป็นทำเลทองแห่งใหม่น่ะหรอ?
ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน “อ่อนนุช” นั้น “แน่นมาก” แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดถนนใหญ่ (สุขุมวิท) แทบไม่มีที่ให้ขึ้นแล้ว ยังผลให้ราคาคอนโดที่ติดถนนใหญ่และใกล้ “BTS อ่อนนุช” ก็จะเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะคอนโดใหม่

และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้คอนโดใหม่ “ไหล” มาทาง “บางจาก” มากขึ้น

เพราะ “BTS บางจาก” เป็นสถานีที่ถัดมาจาก “อ่อนนุช” เพียง 1 สถานี

นอกจากนั้นแล้ว พื้นที่ย่านบางจากยังคงเป็นแหล่งรวมของคนทำงาน สำนักงานต่างๆ
ถึงแม้จะไม่มากขนาดเป็น CBD ใจกลางเมือง แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะครับ
จากที่ผมได้ทำการสำรวจพื้นที่โดยรอบแล้ว เป็นทำเลที่มีความครึกครื้นน่าดู
แต่ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ในความเงียบสงบแอบซ่อนอยู่เหมือนกัน
ซึ่งก็คงจะถูกใจหลายคนที่อยากพักผ่อนในพื้นที่ที่ไม่ไกลจากความเป็นเมืองมากเกินไปด้วย

วันนี้ผมเดินทางมาด้วยรถประจำตัวของชาวคอนโด นั่นก็คือรถไฟฟ้า BTS นั่นเอง

เพราะจากการที่วางแผนการเดินทางก่อนมา เส้นทางนี้ถือว่าเป็นเส้นทางรถสาธารณะที่สะดวกที่สุด เพราะห่างจากตัวโครงการเพียง 200 กิโล เอ้ยยย 200 เมตรเท่านั้นเองง (ไม่ได้แซวใครน้า อิอิ)

เมื่อเราเดินทางมาถึงสถานีบางจากก็จะพบกับป้ายบอกเส้นทางไปจุดสำคัญต่างๆในย่านสถานีนี้ครับ
โดยตัว “Life 62” ที่เราเดินทางมาชมกันในวันนี้ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 62 ซึ่งต้องออกทางออก 4 นะครับ

ภายในสถานีก็จะมีตู้ ATM ไว้บริการนะครับ เผื่อใครอยากกดเงินก่อนไปทำงาน หรือไว้ซื้อของเข้าคอนโดก็สะดวกสบายสุดๆ

แต่ที่สังเกตก็คือ ตัวสถานียังไม่ค่อยมีความครึกครื้นของร้านค้า ร้านเครื่องดื่มต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสถานีที่คนใช้เยอะๆ แต่หลังจากที่โครงการโดยรอบสถานีแล้วเสร็จ คงจะต้องมีมาแน่นอน

เส้นทางเดินบนตัวสถานีมีการเชื่อมต่อให้เป็น sky walk ออกไปนิดหน่อยครับ ไม่ได้ไกลอย่างที่ทุกคนคิดนะครับ เท่าที่เห็นตามภาพเลย

แต่ที่ผมอยากมาเล่าให้ทุกคนฟังเพราะผมเองชอบที่มันเป็นแบบนี้ ดีกว่าให้เราไปเดินบนฟุตบาทด้านล่าง ซึ่งทั้งอันตรายและต้องเจอกับฝุ่นควันด้วย

 

เรียกได้ว่าเหมือนราชรถมาเกยถึงปากซอยคอนโดกันเลยทีเดียว

“ซอยสุขุมวิท 62” เป็นซอยที่หลายคนรู้จักในฐานะที่เป็น “ทางขึ้นทางด่วน” นะครับ

ซึ่งระหว่างทางในซอยสุขุมวิท 62 ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว และอาคารสำนักงานขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่

ดังนั้นเมื่อ “Life 62” ถูกสร้างแล้วเสร็จ ก็จะเป็นอาคารที่พักอาศัยขนาดสูงที่สุดในซอยนี้เลย
หมดห่วงเรื่องการถูกปิดกันวิวโดยรอบอาคาร ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่ทำเลอื่นหาได้ยากขึ้นทุกที

บรรยากาศภายในซอยระหว่างเดินไปโครงการ ผมก็สังเกตได้ว่า เออ.. มันก็สงบดีแฮะ
มีร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ บ้างประปราย ซึ่งก็ถือว่าก็ครบครันในการใช้ชีวิตประจำวันเลยแหละ

แต่ถ้าอยากไป ”ซุปเปอร์มาเกตขนาดใหญ่” ก็ต้องไป “Lotus อ่อนนุช” ซื่งก็ BTS ไปได้ 1 สถานี หรือขับรถไปก็แป๊ปเดียว
 

เมื่อเดินมาซักพักเราก็จะพบกับตัวสำนักงานขายแล้วครับ ซึ่งไม่ได้ไกลเลยนะ

สำหรับผมใช้เวลาเดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึง ระยะทางประมาณ 200 เมตรจาก “BTS บางจาก”

ตัวอาคารสำนักงานขายเนี่ย เป็นส่วนหนึ่งที่ผมชอบดูเวลามาเยี่ยมชมโครงการต่างๆครับ

เพราะทำไมน่ะหรอ เพราะมันบอกความเป็นตัวตนของโครงการนั้นๆ ได้เป็นอย่างดีเลย

อย่างโครงการ “Life 62” นี้ ตัวอาคารดูเป็นอาคารหรู แต่เค้าซ่อนจุดขายไว้ตรงที่ทางเข้า ที่ทำให้ดูลึกลับๆ เหมือนเรากำลังจะเข้าถ้ำ ฮ่าฮ่าฮ่า

แต่พอก้าวเข้าไปแล้วก็เข้าใจแนวคิดเค้าเข้ามาได้ทันทีโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

เหมือนเข้าสู่ธรรมชาติที่สงบแล้วก็สวยงาม ซึ่งภายนอกเมื่อกี้ยังเป็นสังคมที่วุ่นวายอยู่เลย

ซึ่งนอกจากจะไม่ไกลจาก BTS แล้ว เมื่อมาถึงหน้าโครงการจริงๆ ผมสังเกตเห็นว่ามันมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าโครงการเลยด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งออปชั่นในการเดินทาง

ก่อนเราจะเข้าชมห้องตัวอย่าง มาชมบรรยากาศภายในสำนักงานขายกันก่อน

โถงกลางของสำนักงานขายเราก็จะพบกับโมเดลจำลองอาคารครับ เห็นแล้วก็หล่อใช้ได้เลย

ด้วยความที่จำนวนยูนิตของอาคารไม่ได้มาก แค่ 438 ยูนิต ทำให้ตัวอาคารไม่ได้ดูแออัดหนาแน่นจนเกินไป ซึ่งชั้นที่พักอาศัยจะอยู่ตั้งแต่ชั้นที่ 5 ขึ้นไปนะครับ

 

ผมว่าก็โอเคเลยนะ เหมือนมีสวนอยู่หลังบ้าน บรรยากาศดีไปอีกแบบ

“Life 62” เป็นโครงการ 24 ชั้น จำนวน 438 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต ที่จอดรถประมาณ 40% โดยยกสิ่งอำนวยความสะดวกไปไว้ชั้นบนสุดที่ชั้น 23-24 (คอนโดไฮๆ ก็จะเป็นแบบนี้)

แบบห้องมี 3 แบบหลักๆ คือ Studio 25 ตร.ม., 1-Bedroom 30-35 ตร.ม., 1-Bedroom Plus 38 ตร.ม., 1-Bedroom Extend 39 ตร.ม. และ 2-Bedroom 45-60 ตร.ม.

โดยห้องแบบ 1-Bedroom จะมีจำนวนเยอะที่สุด

ลงแบบละเอียดๆ ก็ตามนี้เลย

STUDIO ขนาด 25 ตร.ม. จำนวน 91 ยูนิต

1BR / 1 BT ขนาด 30 ตร.ม. จำนวน 169 ยูนิต

1BR / 1 BT ขนาด 35 ตร.ม. จำนวน 62 ยูนิต

1BR+ / 1 BT ขนาด 38 ตร.ม. จำนวน 34 ยูนิต

1BR+terrace / 1 BT ขนาด 39 ตร.ม. จำนวน 10 ยูนิต

2BR / 1 BT ขนาด 45 ตร.ม. จำนวน 17 ยูนิต

2BR / 2 BT ขนาด 50 ตร.ม. จำนวน 38 ยูนิต

2BR / 2 BT ขนาด 68 ตร.ม. จำนวน 17 ยูนิต

ส่วนกลางที่จัดมา อาจจะไม่ได้ดู “เยอะ” แต่ก็ “ครบ” และดู “มีระดับ” ทั้ง สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space, ห้องซาวน่า และสวน ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาอยู่บนชั้นบนสุด ซึ่งทำให้สามารถต่อท้ายด้วยคำว่า “ลอยฟ้า”

สิ่งที่ “Life 62” พยายามที่จะนำเสนอก็คือ ความเป็นส่วนตัว ด้วยยูนิตที่ไม่เยอะ การคัดเลือกใช้สิ่งที่ดีที่สุดจากแบรนด์ “Life” ในอดีต มาปรับใช้ใน “Life 62” ทั้งหมด

มาดูห้องตัวอย่างกันครับ

เริ่มต้นด้วยห้อง 1-Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ซึ่งเป็นแบบที่มีจำนวนมากที่สุด 169 ยูนิต

เมื่อเข้ามาให้ห้องจะพบกับห้องนั่งเล่นก่อนเลยครับ ซึ่งสามารถเชื่อมไปถึงห้องครัวและห้องนอนได้

ภายในห้องเลือกใช้เป็นไฟ downlight ทั้งหมดนะครับ ซึ่งทำให้ห้องดูหรูหราขึ้น

พื้นที่ใช้สอยภายในดูกว้างขวางไม่อึดอัดเกินไป ความสูงพื้นถึงเพดาน 2.6 เมตร

พื้นที่ส่วนระเบียงอาจจะดูพื้นที่น้อยไปหน่อย แต่ก็กว้างขวางเพียงพอเลยครับ สำหรับการใช้ชีวิต 1-2 คน

เพราะเป็นระเบียงที่เชื่อมต่อจากห้องครัว ไม่ได้ใช้สำหรับการชมวิวทิวทัศน์เท่าไหร่

อีกห้องตัวอย่างคือ แบบ 2-Bedroom ขนาด 50 ตร.ม. โดยทั้งโครงการมีจำนวน 38 ยูนิต ห้องนี้ส่วนตัวผมชอบเลยนะ เพราะมีการจัดพื้นที่ได้อย่างลงตัวและสมดุลกันทั้งสองห้อง ไม่ได้เน้นให้ห้องใดห้องหนึ่งเป็นห้องนอนหลัก

เปิดห้องมาส่วนแรกก็จะเป็นครัวเปิดขนาดใหญ่ ซึ่งระบบชุดครัวอยู่ด่นติดผนังฝั่งหนึ่งครับ

ส่วนอีกฝั่งก็เป็นโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร 4 ที่นั่ง และเชื่อมต่อไปสู่พื้นที่ห้องนั่งเล่น

ซึ่งข้อดีของการออกแบบแบบนี้ ผมว่ามันทำให้เราได้ย้ายพื้นทีส่วนนั่งเล่นออกไปให้อยู่ใกล้ชิดกับระเบียงมากยิ่งขึ้น

ซึ่งระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่น ก็จะเป็นโถงทางเดินไปสู่ห้องนอนทั้งสองห้องครับ

อย่างที่ผมบอกไปว่าผมชอบที่สองห้องนอนมีขนาดใกล้เคียงกันมาก เหมือนเป็นการ mirror กลับด้านเท่านั้นเอง

สังเกตได้จากขนาดของเตียงนอนทั้งสองห้องครับ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ใกล้เคียงกันเลย

ที่ผมชอบอีกส่วนหนึ่งก็คือระบบของห้องน้ำในโครงการ “Life 62” นี้

มีการใช้เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปยกมาติดตั้งครับ สังเกตได้จากพื้นของห้องน้ำที่จะสูงกว่าระดับพื้นห้อง

ซึ่งมันสะดวกสบายมากๆ หากอนาคตมีการซ่อมแซมหรือปรับปรุงห้องน้ำขึ้นมาใหม่

จะสามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องทุบ รื้อ ให้เป็นการวุ่นวายครับ สามารถแยกส่วนทำเฉพาะจุดได้เลย ไม่ต้องไปขอห้องเพื่อนบ้านเพื่อเข้าไปซ่อมอีกด้วย (เรื่องนี้คือปัญหาคลาสสิคของคนอยู่คอนโดเลย)

หลังจากที่ชมห้องตัวอย่างเสร็จ ผมได้วางแผนว่าจะกลับอีกเส้นทางนึง ซึ่งถือว่าเป็นสุดเด่นหลักอีกอย่างหนึ่งของโครงการนี้

ท้ายซอยสุขุมวิท 62 เป็นจุดขึ้น-ลงทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยห่างจากโครงการเพียง 500 เมตร

ซึ่งทำเลในการก่อสร้างคอนโดมิเนียมสมัยนี้มีเพียงไม่กี่ที่นะครับ ที่จะมีแบบนี้

ทั้งใกล้ทางด่วนเพียง 500 เมตร และใกล้กับรถไฟฟ้าเพียง 200 เมตรเท่านั้น

ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา ทั้งเรื่อง “ทำเล” และ “Product” จึงไม่แปลกใจที่ “พี่แอ๊พ” จะมั่นใจว่า “ชีวิต 62” ตัวนี้จะ “โซวเอ้าท์” อย่างแน่นอน

ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คิดว่าอยากไปใช้ “ชีวิต 62” ด้วย ก็เตรียมนิ้วกันไว้ (บัตรเครดิตด้วย อิอิ) เค้าจะเปิดให้จองแบบ “Online Booking” ในวันที่ 27 มีนาคม 2561 นี้ ตั้งตาเวลา 19.00-21.00 น.

โครงการ “Life SUKHUMVIT 62” เค้าจะเปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้านบาท หรือประมาณ 120,000 บาท/ตร.ม

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นราคาที่แท้จริงอีกหรือปล่าว เพราะ “พี่แอพ” ชอบมี “ลูกเขย” เอ้ย...”สะใภ้” เอ้ย......”เซอร์ไพรส์” ….. เอ้ย ถูกแล้ว (มุกเดิมนี่หว่า อิอิ)