ในช่วง 1- 2 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ากระแสคอนโดระดับไฮเอนด์นั้นมาแรงจริงๆ
ดังจะเห็นได้จากดีเวลลอปเปอร์แทบทุกเจ้า ต้องเข้ามาเล่นในตลาดนี้กันหมด
ไม่เว้นแม้แต่ในรายที่ไม่ถนัดของแพงอย่าง พฤกษา และ ศุภาลัย ก็ตาม
ก็อย่างที่ผมเคยวิเคราะห์เหตุผลไว้นั่นแหละครับ ว่าจริงๆ คนไทยที่ “รวย” ยังมีอีกเยอะ และรวยเงินสดด้วย
แต่ไม่รู้จะเอาเงินสดไปลงที่ไหนดีเพื่อให้แข็งขันกับ “เงินเฟ้อ” ได้
มองไปที่ "หุ้น" ก็แกว่งเหลือเกิน ออกไปทางเสียกันมากกว่าได้ (ถ้าคุณไม่เจ๋งจริง)
"ทอง" และ "น้ำมัน" ที่เคยขึ้นชื่อว่า "มูลค่ามีแต่ขึ้น" เพราะเป็นทรัพยากรที่หมดลงไปทุกวัน
แต่กลายเป็นว่า มูลค่ากลับรูดลดลง จน "ดอย" กันถ้วนหน้า
ผมเองก็ "ดอย" ทองกับเขาเหมือนกันครับ 555 T-T
เมื่อมองซ้าย ขวา ก็มีแต่ความไม่แน่นอนเท่าไร
หวยจึงมาออกกับ "อสังหาริมทรัพย์" ของที่ทุกคนมีความเชื่อเช่นกันว่า "มูลค่ามีแต่ขึ้น"
เอ... คุ้นๆว่าคล้ายๆอะไรข้างบนหว่า? 555
อสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีความ "ซื้อง่ายขายคล่อง" เลยเป็นคำตอบ
กระแสของการลงทุนในคอนโดนั้น จึงมาแรงเหลือเกินในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ดีเวลลอปเปอร์ ทั้งหลายก็รับรู้ถึง "คลื่นความรู้สึก" นี้ เลยต่างดำเนินยุทธศาสตร์ ขอไปล้วงกระเป๋าคนรวยออกมาใช้ซะหน่อย
ทีนี้ พอไปล้วงกันเยอะๆ มันก็ต้องมีฝืดเคืองกันบ้างสิ
ในปี 2559 นี้ ก็เลยมีบางเจ้า ถอยหลังกลับมาเล่นตลาดกลาง และล่างกันตามเดิม
แต่ก็ยังมีดีเวลลอปเปอร์บางเจ้าที่มีจุดยืนชัดเจนว่า “ยังไงก็ต้องไฮเอนด์” ไว้ก่อน
หนึ่งในนั้นได้แก่ SC Asset เจ้าของโปรเจคต์ “ศาลาแดงวัน” อันลือลั่นเมื่อปีก่อน
คำว่าลือลั่นนี่หมายถึงทั้ง “ราคา” และ “สินค้า” เรียกได้ว่า “แรง” ทั้ง 2 อย่าง อิอิอิ
สำหรับจุดยืนในปีนี้ของค่าย SC Asset ทางคุณพงศ์เอง (ผู้บริหาร) ก็ได้ออกมาพูดแล้วว่า
ยังไงตลาดบนก็ยังเป็นเป้าหมายหลัก และก็เป็นของถนัดของค่ายนี้เค้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้านตระกูล Boulevard หรือคอนโดแบรนด์ The Crest
แต่หลังๆ มานี้ ทาง SC ได้ให้กำเนิดชื่อแบรนด์คอนโดใหม่ๆ ออกมา
ซึ่งจะว่าไปก็คล้ายกับหลายเจ้านะ ที่พยายามตั้งชื่อใหม่ออกมา เพื่อลบภาพความทรงจำของโครงการเก่าที่ใช้แบรนด์เดียวกัน
นัยว่าจะสร้างมาตรฐานโครงการขึ้นมาใหม่นั่นแหละ
อย่างปีที่แล้วก็ ศาลาแดงวัน นั่นเอง
ในปี 2559 นี้ เราได้ยินมาคร่าวๆ แล้วล่ะว่าจะมีโครงการในย่านที่ “แพงแน่ๆ” ของบริษัทนี้ออกมาเปิดตัวกัน เช่น ชิดลม หรือ ทองหล่อ เป็นต้น
ซึ่งในที่สุด Beatniq 32 ก็กลายเป็นตัวเปิดหัวของปีนี้ (ถึงแม้จะแอบขายมาตั้งแต่ปลายปีก่อนแล้วก็เหอะ)
แวบแรกที่เห็นโมเดล ตรงชั้นที่จอดรถ นึกถึงแผงสล็อตใส่ CPU เลยครับ 555
Beatniq 32 ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 32 ตามชื่อของมันเลย ที่ดินเดิมเป็นของ Rex Hotel มาก่อน
โดยถ้าจะอิงจาก BTS ก็จะใกล้ไปทาง BTS ทองหล่อ มากกว่า
โดยวัดได้จากตีนบันไดที่ใกล้ที่สุดประมาณ 250 เมตร
อันนี้ถือว่าได้อานิสงค์จาก Skywalk ที่เชื่อมต่อมาทางคอนโด Noble Remix, Keyne และ The Crest
ส่วนถ้าวัดจาก BTS พร้อมพงศ์ ก็เดินเหนื่อยหน่อยกับระยะทางประมาณ 700 เมตร
บางคนบอกผมว่า ดีจังเดินไป Em District ได้เลยนะ
สำหรับคนอื่นแล้ว ผมไม่แน่ใจ
แต่สำหรับผมแล้ว ทุกวันนี้ แค่ 7-Eleven ระยะไม่ถึง 100 ม. ผมยังให้คนงานเดินไปซื้อของให้เลยครับ 555
เพราะฉะนั้น ถ้าผมอยู่ที่นี่ กับระยะประมาณ 700 ม.ถึง Em District
ถ้าไม่ใช่วันที่อากาศดีๆ ลมฟ้าอากาศเป็นใจบวกอารมณ์ปิ๊ดปี๊ปิ๊ด อยากเดินออกกำลังกาย
ก็คงต้องอาศัยยานพาหนะทุกประเภท อัญเชิญร่างผมไปห้างละครับ อิอิ
สำหรับเรื่องทำเลของโครงการนั้น ก็คงต้องยอมรับว่าไม่สามารถสู้กับคอนโด 3 ตัวหลัก ตรงตีน BTS ทองหล่อ ที่ใกล้ที่สุดได้เลย
ไม่ว่าจะเป็น Noble Remix, Keyne หรือ The Crest ซึ่งก็เป็นโครงการของ SC Asset เอง
แต่เอาล่ะ บางคนอาจจะบอกว่าย่านนี้ทั้งย่าน ก็ถือเป็นทำเลที่ดีทั้งหมดนั่นแหละ
อันนั้นก็พูดถูกครับ
แต่ถ้าโครงการไหนมันยิ่งใกล้ BTS มากกว่า มันก็น่าจะดีกว่าใช่ไหมล่ะครับ?
ผมว่าตัว SC เองก็รู้ข้อนี้ดี Beatniq เลยมีที่จอดรถเกือบ 100% เพื่อชดเชยเรื่องความห่างจาก BTS
ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่มากกว่าอีก 3 โครงการข้างต้น
เรื่องปากท้อง ก็ถือว่ามีที่ให้ฝากท้องในระยะไม่เกิน 200 ม. ได้อยู่
แถวนั้นมี Mall เล็กๆ "Rain Hill" ให้เดินเล่น หาซื้อของกินของใช้ได้ด้วย
7-Eleven ก็แค่เดินข้ามถนนไปเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ประเด็นนี้ถือว่า ซาบาย...
Beatniq เป็นอาคาร Hi Rise 34 ชั้น จำนวน 197 ยูนิต แบ่งเป็น ห้องแบบ 1 BR: 42-58 ตร.ม. , 2 BR: 79-82 ตร.ม. , 2 BR plus: 107-120 ตร.ม. , 2 BR duplex: 94-95 ตร.ม. และ 3 BR: 160-204 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 12 ล้านบาท ตก 2.8 แสนบาท/ตร.ม.
แรงใช่ไหมครับ ฮ่าฮ่าฮ่า
ผมขอข้ามในแง่ของโปรดักส์ไปก่อนเลย เพราะรู้ว่า SC ทำห้องแจ่มมากจริงๆ
Beatniq นี่ก็มี Concept ที่ชัดเจนมากเลย หน้าตึกมีการอ้างอิงจาก Rex Hotel (ประมาณว่ามีการเคารพประวัติศาสตร์ของพื้นที่ด้วย)
ความหรูหราหายห่วง (ไปหาเสพรายละเอียดโครงการได้จาก
Click ได้เลย)
ของเรามาว่าเรื่องการลงทุนดีกว่า เพราะเราคือเพจของนักลงทุนนี่เนอะ 555
เรื่องของตลาดปล่อยเช่า ผมขอตัดทิ้งก่อนเลย ฮ่าฮ่าฮ่า
ผมว่าคงไม่ต้องอธิบายมาก คนทั่วๆ ไปก็คงมองออกว่า แบบ 1 ห้องนอน ราคา 12 ล้าน เราจะให้เช่าคุ้มหรือไม่?
ห้องราคา 12 ล้าน ขนาด 42 ตร.ม. เราต้องการค่าเช่า 60,000+ บาท/เดือน เพื่อให้ได้ยิลด์ประมาณ 6%
ผมว่าเหนื่อย และอย่าลืมว่านี่คือห้องที่ถูกที่สุดแล้วนะ!!!!
โครงการ The Crest ทองหล่อ ที่เป็นของ SC เอง ตอนนี้ถ้าจ่ายค่าเช่าราคา 60.000 บาท ได้ห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำเลยนะครับ
ในเรื่องราคา ต้องยอมรับว่าด้วยทำเลแล้ว ราคา 2.8 แสน/ตร.ม. คือราคาที่ “เพดาน” จริงๆ
เราอาจจะบอกว่า Marque แห่งค่าย Major ราคา 3 แสน/ตร.ม. หรือ The Diplomat แห่งค่าย KPN ราคา 2.8 แสน/ตร.ม.
แต่อย่าลืมว่านั่นคือย่านพร้อมพงศ์ และก็ใกล้ BTS มากกว่ามาก (ถ้าอิงจาก BTS พร้อมพงศ์)
ทาง SC พยายามจะชูเรื่องโปรดักส์เป็นพิเศษ และผมก็เชื่อว่ามันจะออกมาแจ่มที่สุดในทำเลนั้นจริงๆ
แต่ในฐานะนักลงทุน ยังไงเราก็ต้องมอง “ทำเล” และ “ราคา” มาก่อน
ถ้าผมชอบทำเลนี้และผมมีเงินมากพอ ผมคงเริ่มจาก The Crest ก่อน
แม้ว่าราคาโดยเฉลี่ยที่เจอในตลาดจะอยู่ที่ 2 แสนบาท/ตร.ม.
แต่ถ้าคุณขยันพอ ยังพอหาราคาประมาณ 1.7 แสน/ตร.ม.ได้บ้าง
ผมว่าซื้อเก็บยาวๆ ได้ ระหว่างทางหาคนเช่ามากล้อมแกล้ม
ยิลด์อาจจะไม่มาก แต่ระยะยาวน่าจะทำกำไรได้พอสมควร (ยิ่งมี Beatniq มาเปรียบเทียบด้วยแล้ว)
ถ้าถามผมว่า คนซื้อ Beatniq ควรจะเป็นใคร?
คนที่ชอบทำเลนี้จริงๆ มีเงินมากพอ และชื่นชอบในโปรดักส์ของโครงการ ที่นำเสนอออกมานั่นแหละครับ
ขอพูดถึงห้องขนาด 108 ตร.ม. ที่มีแค่ชั้นละ 1 ห้องหน่อยละกันครับ ตรงหัวมุม
เพราะมันเป็นห้องที่ผมชอบที่สุดแล้ว
จุดเด่นที่ทำให้ผมชอบก็คือ ห้องนี้จะมีห้อง Semi-Outdoor ที่ไม่ใช่แค่ระเบียงทั่วไปๆอยู่ด้วย
แต่มันมีขนาดที่ถือว่าเป็นห้องเล็กๆห้องหนึ่งได้เลยทีเดียวครับ
ตรงโซนนี้นั้น จะมีแอร์แยกต่างหากให้ด้วย ถ้าเราเกิดร้อนขึ้นมาก็เปิดแอร์ได้
ไม่ต้องไปพะวงกับห้องอื่นๆ
เราสามารถจัดเฮฮาปาร์ตี้เล็กๆ เมาท์มอยกับเพื่อนได้ โดยไม่ต้องรบกวนคนอื่นในครอบครัว
และจุดเด่นอีกอย่างของห้องก็คือ วัสดุกรุผนังนี่แหละครับ
ไม่ใช่แค่ผนังปูนฉาบเรียบ แต่เป็น Natural Stone สี Portoro Gold ซึ่งผมว่ามันสวย ดูหรูหราดีครับ
ชอบนะ แต่ไม่มีเงินซื้อ 555
สรุปตามสไตล์คอนโดติดดอย
สำหรับการอยู่เอง ถ้าคุณชื่นชอบทำเลแถวนั้น และโปรดักส์ที่ทาง SC Asset นำเสนอ โดยไม่จำเป็นต้องคิดว่ามันแพงหรือไม่ คุณก็จัดได้เลยครับ เพราะของเขาดีอยู่แล้ว
สำหรับการเล่นสั้น ผมว่าลำบาก โครงการจะขายหมดเองเมื่อไร ก็ยังไม่รู้เลย มีบางห้องเท่านั้นละ ที่พอเล่นได้ จึงไม่แนะนำดีกว่า
สำหรับการปล่อยเช่า อาจจะพอหาคนเช่าได้ ในคนที่ชอบโครงการนี้จริงๆ แต่โดยรวม ยังมีโครงการอื่นที่ปล่อยเช่าได้ง่ายกว่านี้ ในเรทลงทุนเท่านี้ครับ
สำหรับการเก็บระยะยาว ถ้าของมันดี ยังไงราคามันก็ต้องขึ้นสักวันแหละครับ แต่คงต้องรอนานหน่อย เพราะราคาถือว่าเลยกว่ามาตรฐานของตลาดไปอยู่พอควร จึงจำเป็นต้องรอ หลังคอนโดสร้างเสร็จสัก 3-4 ปี ก็พอขายทำกำไรได้ครับ
Beatniq สุขุมวิท 32 ถือเป็นโครงการที่เหมาะกับอยู่อาศัยเอง สำหรับคนที่ชอบทำเลแถวนั้น และชอบโปรดักส์ แต่อาจไม่ค่อยเหมาะกับการลงทุนเท่าไรนัก นอกจากเก็บไว้ระยะยาวๆ
นึกถึงลงทุนคอนโด นึกถึงคอนโดติดดอย ^0^