"

เอาจริงๆด้วยความที่แถวนั้นยังโล่งมากๆ แทบไม่มีใครมาบังวิวเลย ตึกสูงๆน้อยมาก ในแง่ของการโดนบังวิว ณ ปัจจุบันนี้ก็คงไม่มีปัญหาแน่

"

ในเมื่อวิวภายนอก อาจจะดูไม่ค่อยมีความต่างกันมากนัก เราก็ต้องหันมาดูที่วิวภายในละ หรือก็คือพวกส่วนกลางอย่าง สระว่ายน้ำ สวน นั่นเอง ยูนิตที่มีวิวพวกนี้อยู่ จะมีความแตกต่างแน่นอนครับ โดยเฉพาะชั้นที่ไม่สูงจากส่วนกลางมากนัก ราคาอาจจะแพงกว่ายูนิตอื่นที่ไม่มีวิวพวกนี้ แต่เวลาขายก็จะมีโอกาสขายได้กำไรที่ดีกว่าไปด้วย เอาล่ะ ผมจะมาอธิบายให้เป็นชั้นๆกันไปเลยแล้วกัน พยายามดูภาพประกอบตามไปด้วยนะครับ

ผมว่าที่นี่ออกแบบแปลนห้องมาได้ดีนะครับ ตึกที่ดูเหมือนจะยาวๆ แต่จริงๆมันคือ2ตึกที่มาเชื่อมกัน ที่มีบันไดหนีไฟมาแบ่งกั้นตึกไว้ให้อย่างชัดเจน มันทำให้รู้สึกเหมือนยูนิตน้อยๆไงไม่รู้ 555 ทั้งที่ๆมันก็เท่าเดิมนั่นแหละเนอะ ห้องเจ้าปัญหาอย่างห้องมุมวงในตึก ก็แก้ด้วยการเอาลิฟท์มาอยู่แทน จะทำให้เราไม่ต้องระวังมากนักว่าห้องอีกมุมที่อยู่ใกล้ๆ จะมาเห็นกิจกรรมเข้าจังหวะของเราหรือเปล่า อย่างร้องเพลงคาราโอเกะ โยคะเป็นต้น 555 อย่าคิดลึกนา

ส่วนกลางหลักอย่างสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งมียูนิตอยู่อาศัยด้วย ในชั้นนี้นั้น วงในตัวตึกผมว่าเอาได้หมด สำหรับคนที่ชอบชิดติดส่วนกลาง ส่วนวงนอกผมก็ว่าเอาได้หมดเช่นกัน แม้ไม่ได้วิว แต่ได้เพิ่มในแง่ของความส่วนตัว คนที่มาใช้ส่วนกลางก็จะไม่เห็นเรา และยังสามารถเดินไปใช้งานส่วนกลางได้อย่างสบายๆ สำหรับรอบนอก ห้องทิศเหนือตำแหน่ง 14-20 ได้วิวสวนพักผ่อนริมคลองสำโรงชั้น Ground กันด้วย

สำหรับชั้นที่ 7-35 พวกชั้นไม่เกิน 20 สำหรับวงในผมว่ายังถือว่าดีอยู่นะครับ เป็นระยะที่เรายังมองสระว่ายน้ำได้ดี ส่วนชั้น 20 ขึ้นไป ก็ยังถือว่าดีกว่าไม่มีให้เห็นนะ ถึงจะเริ่มเห็นคนเล็กเป็นมดแล้วก็เถอะ 555 แต่มันจะไปมีดีในเรื่องวิวภายนอกแทนละครับ เป็นวิวพวกตัวเมืองตอนกลางคืนก็สวยดีนะ ส่วนตัวแล้ว ผมเป็นชอบอยู่ชั้นสูงๆนะ มันดูโปร่งๆเห็นอะไรได้ไกลดีครับ ลมก็โกรกมากกว่าชั้นล่างๆ

ส่วนพวกห้องรอบวงนอกของช่วงชั้นนี้ ผมว่าไม่ค่อยต่างกันเท่าไรนะ จะมีก็ตรงทิศใต้ อาจจะเลี่ยงหน่อยเพราะในอนาคตจะมีโครงการของทาง Origin เองขึ้นมา อาจมีการบังกันบ้างแต่เชื่อว่าคงไม่บังมิด ห้องตำแหน่ง 14-20 ก็ยังถือว่าเป็นพระเอกสำหรับโซนนี้ พวกชั้นล่างได้วิวสวนพักผ่อนริมคลองสำโรงชั้น Ground ส่วนชั้น 20 ขึ้นไป จะได้วิวเมืองก็ยังถือว่าน่าสนใจอยู่เอาเป็นว่าให้เลือกจากห้องทิศเหนือก่อน ตามด้วยตะวันออก แล้วค่อยมาใต้

สำหรับชั้นที่ 36-38 จะพิเศษใส่ไข่ ไม่ใส่ตับหน่อย(ผมไม่ชอบตับ แฮ่) เพราะตัวตึกเหลือแค่ครึ่งเดียวแล้ว ทำให้มุมมองนั้นกว้างขึ้น แถมยังมี Skyline Roof Garden มาให้ยลสำหรับคนวงในอีกต่างหาก ตำแหน่งห้อง 40-42 ก็จะได้เห็นสวนกันเต็มๆ สำหรับด้านนี้ ตำแหน่ง 40 จะชนะเลิศ เพราะได้มุมมองที่กว้างกว่าแถมไม่อยู่ติดกับใครอีกต่างหาก ตำแหน่ง 1-5 ก็เห็นแบบเอียงๆหน่อย ไม่เป็นไรเพราะตรงนี้จะมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบเห็นไกลๆหน่อย เอาน่า ดีกว่าไม่เห็นไรเลยนะ 555 แค่มีกล้องส่องทางไกลก็ช่วยได้เยอะละ ในช่วงตำแหน่งห้องของวงใน ชั้น 36-38 จะดีกว่า 32-35 แน่ๆครับ เพราะขึ้นมาอีกนิดก็จะได้วิวที่ดีกว่าแล้ว แน่นอนราคาก็จะแพงกว่าด้วย แลกๆกันไป ส่วนห้องวงนอก ตำแหน่ง 27-39 เหมือนๆกับช่วงชั้นก่อนห้าครับ อาจจะไม่ต่างกันเท่าไรนัก แต่มีดีที่สูงขึ้นได้เห็นอะไรไกลขึ้นนั่นเอง

ก็ผ่านกันไปสำหรับการแนะนำห้อง ผมไม่ค่อยอยากเจาะจงตำแหน่งห้องแบบเป๊ะๆมากนะครับ เพราะความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงจะแนะในวงกว้างๆหน่อย

สำหรับคนที่ยังสนใจโครงการนี้อยู่ ผมได้ข่าวมาว่ามี Grand Opening วันที่ 26 – 27 สิงหาคม 2560 ที่สำนักงานขาย มีโปรลดสูงสุด 100,000 บาท รู้สึกว่ายอดขายตอนนี้จะประมาณ 70% ห้องที่ยังเหลืออยู่ถ้าให้ผมเดา ก็น่าจะเป็นพวกยูนิตชั้นกลางๆ ที่ต้องเรียกว่ามีความโดดเด่นน้อยกว่าชาวบ้านเขา แต่ในมุมมองผม ผมว่ามันก็ยังน่าสนใจนะ โดยเฉพาะสำหรับการอยู่อาศัยเอง หรือซื้อมาเพื่อปล่อยเช่า เพราะราคาจะไม่แพงมากนั่นเอง และข้อดีอีกข้อคือ ราคาแต่ละชั้นสำหรับตำแหน่งห้องเดียวกัน ไม่ได้ห่างกันมาก รู้สึกว่าการผ่อน แต่ละชั้นอัตราผ่อนจะต่างกันแค่หลักร้อยเอง ใครสนใจก็เตรียมไปรูดได้เลย ไม่แน่ว่างานนี้อาจจะหมดเลยก็ได้นะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Kensington Sukhumvit-Theparak