(แอบ)ดูคอนโดที่ญี่ปุ่น

(แอบ)ดูคอนโดที่ญี่ปุ่น

Home   /   ติดดอยล้อมวงเล่า

โซน : 21 May 2018   17:26
 
        ในที่สุดก็ถึงเวลาเอานิ้วกระแทกแป้น พิมพ์บทความนี้ซะที หลังอู้มานาน 555
 
        เป็นสิ่งที่ผมไปเก็บเกี่ยวมาได้จากทริปที่ทาง "Origin" ได้พาไปดูคอนโดของทางพาร์ทเนอร์เขาอย่าง "Nomura" นั่นเองครับ
 
        ส่วนว่าทำไมผมถึงใช้คำว่า "แอบ" ไว้ลองบทความดูนะ จะเข้าใจ อิอิ
 
        เอาล่ะ มาเริ่มกันเล้ย!!! 
 
        - เข้าใจก่อนนะ ว่าเป็นข้อมูลคอนโดจากทางภูมิภาคคันไซ เพราะฉะนั้น ในโตเกียวก็อาจจะแตกต่างบ้าง โดยเฉพาะราคาที่แพงกว่าร่วมเท่าตัว
 
        - ในญี่ปุ่นไม่มีคำว่า "คอนโด" จะใช้คำว่า "แมนชั่น" แทน แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความเข้าใจง่าย ในบทความนี้ผมก็จะยังเรียกว่า "คอนโด" เข้าใจตรงกันนะ
 
        - โดยส่วนใหญ่จะนิยมสร้างสูงไม่เกิน 10 ชั้น ถ้าเกิน 15 นี่ถือว่าเป็น "เรื่องใหญ่" หรือ "Big Project" ละ
 
        - ในบ้านเราจะเรียก คอนโดที่สูงๆว่า "High rise" ที่ญึ่ปุ่นจะเรียกว่า "Tower Mansion" เขาบอกมาว่าต้องสูง 20 ชั้นขึ้นไป แต่ผมคิดว่าบางทีอาจจะกำหนดจากความสูงหรือเปล่านะ
 
        - ประเทศที่ขึ้นว่า "ชาตินิยม" สูงมากอย่างญี่ปุ่น คนต่างชาติกลับสามารถซื้อคอนโดได้โดยที่ไม่มีสัดส่วน
 
        - ในขณะที่บ้านเรา จะสามารถถือครองได้ไม่เกิน 49% แถมบางที มานั่งนึกๆดู ถ้าในอนาคตมีใครสักคนแก้กฏให้ไม่มีสัดส่วน ก็อาจโดนว่า "ขายชาติ" ก็เป็นได้นะ 555 
 
        - เพดานห้องที่นี่สูงราว 2.4 ม.เอง ขนาดว่าเป็นระดับ Luxury แล้วนะ 
 
        - Sales Gallery ที่นี่จะมีห้องที่เอาไว้ชม VDO Present เยอะมาก แถมมีหลายขนาดเพื่อรองรับหลายรูปแบบของผู้เข้าชม เหมาะล่อลวงเป็นหมู่คณะ อิอิ
 
        - ทุกที่จะมีโมเด็ลตึกขนาดใหญ่ไว้ให้ดูทั้งนั้น บางที่จะมีหลายขนาดให้ดูด้วย อันนี้ดีครับ เพราะเราสามารถจินตนาการถึงความเป็นจริงก่อนสร้างเสร็จได้มากขึ้น ทำซะผมนึกว่าเป็นมิวเซี่ยมได้เลยนะ 555
 
        - ห้องตัวอย่างที่นี่ บางทีจะสร้างมาแค่บางส่วนของห้องมาให้ดูเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด (แต่มีพื้นที่สร้างห้อง VDO ได้นะ 555)
 
        - ที่ญี่ปุ่น Developer ต้องได้รับใบอนุญาตก่อสร้างก่อน จึงจะเริ่มขายได้ แต่บ้านเรา บางทียังไม่ได้ที่ดิน 100% เลย ก็อาจขายรอบ VVVVIP แล้ว อิอิ 
 
        - แวะโฆษณานิด อิอิ ตอนนี้"ติดดอย" กำลังจะมีทำเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินมานะครับ "Fit by Tiddoi" ช่วยอุดหนุนเป็นค่าข้าวกลางวันผมด้วยนะ จะเริ่มจากโครงการ "Life อโศก" นี่เลย 
 
        - ระเบียงที่นี่ จะมีขนาดกว้างกว่าที่บ้านเรามาก น่าจะ 2 เท่าได้เลย อันนี้ชอบจัง ปูเสื่อนั่งเล่นป๊อกเด้ง เอ้ย ตากลมสบาย อิอิ
 
        - ที่สำคัญพื้นที่ระเบียงจะไม่เอามานับในการขายด้วย จะนับว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลาง อันนี้ยิ่งชอบกว่าข้อที่แล้ว 555
 
        - ที่บ้านเรานั้น เมื่อก่อนผมเคยรู้มาว่า พื้นที่ระเบียงจะสามารถเอามารวมเป็นพื้นที่การขายได้ครึ่งหนึ่ง
 
        - ต่อมา Ananda ในยุคหนึ่งก็ได้ออกคอนโดแบบใหม่ที่ระเบียงก็มีกระจกกั้นอีกชั้น จึงสามารถคิดพื้นที่เต็มจำนวนได้
 
        - แต่มาในภายหลัง ผมได้ยินมาว่า พื้นที่ระเบียงสามารถเอามาคิดรวมได้ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ไม่สามารถดัดแปลงตามใจชอบได้ ต้องผ่านการเห็นชอบเสียก่อน (เออ มันก็ดูแย้งๆกันนิดๆมะ 555) ตอนนี้ก็เริ่มไม่แน่ใจละว่ากฏหมายจริงๆ สามารถเอาระเบียงมาคิดได้หรือไม่ ใครรู้วานบอกด้วยนะครับ แหะๆ
 
        - Developer ที่นี่มักจะมีบริษัทย่อยที่รับบริหารอาคารด้วย ที่เราเข้าใจกันว่า "นิติ" นั่นแหละ โดยถ้าลูกบ้านโหวตไม่เอาเกิน 3 ใน 4 ก็จะสามารถเปลี่ยนได้
 
        - คอนโดที่นี่ ส่วนกลางจะมีแค่พวก Lobby , Guest room , Party room เท่านั้น พวกสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ผมยังไม่เห็นเลยสักที่ ขนาดว่าเป็นระดับ Luxury แล้วนะ ช่างต่างกับบ้านเรายิ่งนัก แสดงว่าคอนโดในไทยเราเดินมาผิดทางละ 555
 
        - ที่จอดรถมี แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แสดงว่า LPN มาถูกทาง อิอิ 
 
        - เอาเข้าจริง ก็คงจะเป็นที่ไลฟ์สไตล์นั่นแหละครับ ที่นี่คนทำงานกันหนักมาก เสร็จแล้วก็ยังต้องมาปาร์ตี้กันต่อ กว่าจะกลับบ้านก็ดึกดื่น ไม่มีเวลาไปใช้งานกัน อีกอย่าง สระว่ายน้ำจะค่อนข้างมีเสียงรบกวนมาก อาจจะไม่เหมาะกับชาติที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงอย่างคนญี่ปุ่น และก็เป็นการลด Cost ที่ไม่จำเป็นต่างๆได้อีกด้วย
 
        - ที่ไทยเรา เอาจริงๆผมก็ไม่ค่อยเห็นคนใช้สระว่ายน้ำเท่าไรนะ โครงการหลังๆ จึงเริ่มเห็นมันหดลงทุกที เน้นแช่เอา 
 
        - คอนโดระดับ Luxury ที่นี่ จะมาเน้นที่คุณภาพ วัสดุก่อสร้างใช้อย่างดี การจบงานที่ดี วัสดุหลายอย่างเราสามารถเลือกได้ อย่างเช่น ชนิดและสีของไม้ที่ทำประตู ภายในอาคารก็ทำได้ดีอย่างกับโรงแรมเลย 
 
        - สิ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือความเป็นส่วนตัว หลายโครงการจะยกขึ้นไปสูงเกือบเป็นชั้น 2 ของบ้านทั่วไปเลย ยิ่งออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวมาก ก็ยิ่งแพงมาก
 
        - และเพราะความเป็นส่วนตัวนับว่ามีมูลค่ามาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมต้องใช้คำว่า "แอบดู" นี่แหละครับ ต้องรีบดูรีบไป เดินเข้าไปด้านในไม่ได้เลย 555 ถ้าลูกบ้านไม่พอใจ สามารถโทรแจ้งตำรวจได้เลย "นิติ" ก็จะโดนดีไปด้วย สุดยอด!!! 
 
        - อีกอย่างที่สำคัญเกี่ยวเนื่องกันมาก็คือสภาพแวดล้อม ต้องดูสงบ เป็นส่วนตัว ดูปลอดภัย เป็นสังคมคุณภาพ มีวิวพวกแม่น้ำ ภูเขา หรือของธรรมชาติยิ่งแพง (อันนี้เหมือนเรา)
 
        - ไหนๆก็เขียนถึงแม่น้ำแล้ว เลยขอขยายซะหน่อย แม่น้ำที่นี่จะมีการออกแบบอย่างดี คล้ายเหมือนเป็นน้ำตก และสวนไปในตัว มีการทำทางเดินข้างๆไว้ ผมเห็นมีคนญี่ปุ่นไปวิ่งริมแม่น้ำเยอะทีเดียว อันนี้ผมชอบนะ 
 
        - คอนโดที่นี่หลังจากเข้าห้องแล้ว จะมี Step ขึ้นมาอีกขั้น ผมเดินสะดุดทุกรอบเลย 555 ห้องเก็บรองเท้าจะทำแบบซ่อนไว้ เปิดไปแล้วตกใจ ใหญ่มาก คนมีรองเท้าเยอะ น่าจะชอบ
 
        - ค่าส่วนกลางที่นี่ โครงการที่ผมไป เก็บอยู่ปีละประมาณ 1 หมื่นบาท/เดือน 70 กว่าตร.ม. ก็เอาเรื่องอยู่ แต่ถ้าลองมาแจงดู พบว่าไม่ต่างกันมาก ทั้งค่าครองชีพที่แตกต่าง และที่สำคัญคือส่วนหนึ่งจะเป็นค่าบำรุงรักษาอาคาร 
 
        - ทุกๆ 5-12 ปี คอนโดที่ญี่ปุ่น จะต้องมีการซ่อมแซม ตกแต่ง ทั้งภายใน และภายนอกอาคารให้อยู่ในสภาพที่ดี คอนโดที่ผมไปดูอายุ 13 ปีแล้ว แต่ยังดูดีอยู่เลย อย่างกับเพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน การซ่อมแซมนั้นบางครั้งมีค่าใช้จ่ายร่วม 100 ล้านเยนเลยทีเดียว นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ต้องมีการเก็บเป็นรายเดือนสะสมเอาไว้ ข้อนี้ผมว่าดีนะ 
 
        - ไก่ทอดที่ Familymart อร่อยมาก อร่อยกว่า KFC บ้านเราอีก  
 
        - คอนโดระดับ Luxury ที่นี่ ราคาเริ่มต้นในปีนี้จะอยู่ที่ช่วง 250K-400K อาจจะดูไม่ต่างกับบ้านเรามาก แต่เรตราคานั้นแค่คันไซนะ ถ้าโตเกียวโดดไปอีกเยอะ
 
        - คอนโดที่นี่ จะมีการสร้างให้ไปในทิศทางใกล้เคียงกัน ตามสภาพแวดล้อมของที่นั้นๆ อย่างเช่นมีโครงการที่ทำกำแพงหินสูงขึ้นมา โครงการอื่นๆ ก็จะทำคล้ายๆกัน คล้ายจนบางทีผมนึกว่า Developer เจ้าเดียวกันเลย 555 
 
        - รูปลักษณ์ภายนอกของโครงการที่นี่จะเน้นเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด เพราะยิ่งเด่นมาก ฉูดฉาดมาก ค่าบำรุงก็ยิ่งสูงเป็นเงาตามตัว อ๋อ จริงๆแล้ว Noble ก็คิดแบบนี้ใช่ไหม อิอิ 
 
        - คอนโดที่นี่ ทิศที่ขายดีถือทิศโดนแดด เช่น ตอ. ตต. เหมือนจีน ก็อย่างว่าเนอะ บ้านเขาหนาวกว่าบ้านเรา โดนแดดแล้วพอกลับมาบ้าน ก็จะอุ่นกำลังดี
 
        - คนญี่ปุ่นที่มาทำงานที่ไทยครั้งแรก หลายคนก็เลือกทิศพวกนี้ ซึ่งเมื่อครบสัญญา ก็มักจะเปลี่ยนห้องนะ 555 
 
        - การซื้อโครงการที่นี่ จะมีการแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจ่ายเพื่อจองโครงการประมาณ 5-10% ที่เหลือก็คือตอนสร้างเสร็จพร้อมโอน
 
        - สัดส่วนการดาวน์อาจไม่ต่างกับบ้านเรามาก แต่ที่แตกต่างอย่างมากคือการจ่ายที่ไม่สามารถแบ่งชำระได้ คือต้องจ่ายก้อนเดียวเลย!!! 
 
        - ไม่มีการ pre-approve ถ้าถึงเวลาแล้วไม่สามารถโอนได้ ก็จะโดนยึดเงิน 
 
        - ไม่สามารถเปลี่ยนมือได้จนกว่าจะโอนไปแล้ว พวกเล่นใบจองแบบบ้านเราหมดสิทธิ์ ข้อนี้ไม่ต้องเอาอย่างก็ได้นะ อิอิ 
 
        อาจจะมีตกหล่นไปบ้างนะครับ นึกออกได้แค่นี้ 555 ถ้าใครมีอะไรสงสัยก็ถามได้เลยครับ ตอบได้เปล่าอีกเรื่อง
 
        ข้อมูลบางอย่างอาจมีคลาดเคลื่อนบ้าง เพราะการถามตอบต้องผ่านไกด์อีกทีนะจ๊ะ ถ้าใครว่าข้อมูลผิด แย้งผมได้เลยน้า
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

Tag :


ติดดอยล้อมวงเล่า ก่อนหน้า
Just do it… คอนโดสวยด้วย (มือ) เรา

ติดดอยแนะนำ

ติดดอยรีวิว

"Cooper Siam" คอนโด Loft ของแทร่ ที่ถึงบรรทัดทอง เยาวราชของคนรุ่นใหม่ ได้ใน 1 นาที!!

ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว

ทำไม "Supalai Premier สามเสน-ราชวัตร" ยังไงก็ขายหมด

เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก

หนึ่งในคอนโดที่ปล่อยเช่าดีมาก ตอนเช้าย้ายออก ตอนบ่ายย้ายเข้าเลย

จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย


ติดดอยโร้ดทู

“Lumpini SeaView Cha-am" คอนโดใหม่ใกล้หาดชะอำแค่ 200 เมตร!!!

หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก

"KLOS Ramintra - Fashion" คอนโดที่มี Fashion Island เป็นเพื่อนบ้าน

หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ

"MUSE สะพานใหม่" ลงจอยทำเลสุดฮอต จองที่ติดรถไฟฟ้า

นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ


ติดดอยสไตล์

“คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) ชวนทุกคนมาลิ้มลอง 3 ความอร่อยใหม่ได้แล้ววันนี้

คิดจะพักคิดถึงคิทแคท แต่ถ้าคิดถึงโดนัทอร่อยๆ ก็ต้องคิดถึงคริสปี้ ครีม ดิค้าบบ ไปลองกันยัง “คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) กับ 3 โดนัทหน้าพิเศษสุดฟิน!!

ใครๆก็ขายบ้านได้กับ "SC Affiliate Wealth Partner Program ใครๆก็รวยได้" รับค่าตอบเเทนสูงสุดถึง 1,300,000 บาท*

แต่ก่อนผมคิดนะว่า การจะซื้อบ้านทีก็ต้องไปดูถึงโครงการ ไปดูให้เห็นกับตาแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ด้วยอากาศแบบนี้ บางทีก็แอบส่องผ่านทาง Social เอาก่อน น่าจะดีกว่านะ 5555

แอบไปส่อง "สถาปนิก’67" งานคูล ๆ ที่ไม่ต้องเป็นสถาปนิกก็ไปได้

เมื่อวันก่อนได้ไปเดินเล่นที่งาน "สถาปนิก’67" เป็นอีกงานที่ผมประทับใจแล้วอยากให้เพื่อน ๆ ตามไปกันมาก ๆ เลยนะ

ผังเมืองใหม่ส่งผลแล้ว! ที่ดินทำเลบ้าน 100 ตร.วา เบนเข็มสู่บ้านแฝด-ทาวน์โฮม

ผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองตอนผ่านไปโซน ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางแค บางบอน บางขุนเทียน นะว่ามองไปทางไหน ทำไมถึงมีแต่โครงการบ้าน 100 ตร.วาขึ้นไปเท่านั้น!

The Center for Arts & Innovation ศูนย์ศิลปะและนวัตกรรมในรัฐฟลอริดา มาพร้อมจุดเด่น เรียนรู้ต่อสู้กับ AI

ล่าสุดทางด้าน RPBW ได้ทำการเปิดตัวการออกแบบศูนย์ศิลปะและนวัตกรรมในเมืองโบกา ราตัน รัฐฟลอริดา ซึ่งความน่าสนใจก็คือเค้าไม่ได้เป็นแค่ศูนย์ศิลปะธรรมดา แต่ที่นี่ยังเป็นเวทีสำหรับแนวคิดใหม่ๆ โอกาสในการโต้ตอบกับ AI อีกด้วย

คิดว่าโฆษณาขายบ้านจะเป็นสี ‘ขาวดำ‘ ได้มั้ย? จะเป็นการ์ตูนได้หรือเปล่า?

Art แค่ไหนเรียก Pop? บางเจ้าอาจจะสงสัยแต่ไม่กล้าลอง แต่ที่พูดมาทั้งหมด ‘แสนสิริ’ ทำมาหมดแล้ว!


© 2018 CONDOTIDDOI

ME ESTATE CO.,LTD
92/21 HOLLYWOOD STREET CENTER
PHAYATHAI RD. RACHATEVEE
BANGKOK 10400 THAILAND

02-656-6776
condotiddoi@gmail.com

CONTACT US

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

085-546-4694

info.condotiddoi@gmail.com

Copyright www.condotiddoi.com © 2018
web design & programming by www.smilephp.com