พาลุยรอบสถานี MRT เปิดใหม่

พาลุยรอบสถานี MRT เปิดใหม่

Home   /   ติดดอยลั้ลลา

โซน : 10 Aug 2019   16:37
 
        หลังจากที่รถไฟฟ้ามหานครเค้าประกาศเปิดให้บริการสำหรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ ที่เค้าเคลมว่านี่เป็น 5 สถานีที่สวยที่สุดด้วยนะ เอ้ออออ แต่ประเด็นของเราวันนี้ไม่ได้อยู่ภายในสถานีหรอก เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปทัวร์รอบสถานีนั่นเองงง ไหนๆช่วงนี้เค้าก็เปิดให้บริการฟรีแล้วอ่ะเนอะ เราลองมาดูกันซิว่า มีอะไรให้สำรวจบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปลุยกันเล้ยยย
 
        สถานีวัดมังกือ เอ้ย สถานีวัดมังแกว เอ้ย สถานีวัดมังกร เอ้ย ถูกแล้ว!!
 
        เริ่มจากสถานีแรกคือสถานีวัดมังกรก่อนเลย ซึ่งตามชื่อสถานีเลยก็คือ สถานีนี้ตั้งอยู่ใกล้กับวัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่นั่นเอง ซึ่งวัดมังกรเนี้ย ก็ตั้งอยู่ในกลางเยาวราชอีกที มา ตามอั๊วะมาสำรวจกันเลยยย(แปลงร่างเป็นชาวจีนแป๊ป อิอิ)
 
        เริ่มจากการแนะนำบริเวณข้อมูลทางออกกันก่อนเลย โดยพี่หมีคิดว่า ไปทางออก 3 ดีกว่า ซึ่งทางออก 3 ที่ทาง MRT เค้าแนะนำมามี 5 ที่นั่นก็คือวัดมังกรกมลาวาส ถนนเสือป่า วัดคณิกาผล โรงพยาบาลกลาง และ ศาลเจ้าไต้ฮงกง หรือ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนั่นเอง
 
        โดยที่เริ่มจากพระเอกของสถานีนี้กันดีกว่า เพราะนอกจากจะเป็นชื่อของสถานีแล้ว วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ยังเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่ที่คนไทยเชื้อสายจีนในเยาวราชจะให้ความเคารพนับถือแล้ว วัดนี้ยังเป็นสถานที่ที่ใครเป็นปีชงก็ต้องแห่แหนมาสักการะและแก้กันที่นี่แหละ (เราเองก็เคยมาแก้กับเค้าเหมือนกันนะ)
 
        ต่อไปเราจะขอเรียกสั้นๆว่าวัดมังกรแล้วกัน วัดมังกร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2414 ซึ่งที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว โดยใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุหลัก โดยชื่อ “วัดมังกรกมลาวาส” ยังเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ ร.5 อีกด้วย
 
 
        โดยรอบวัดมังกรจะมีของขายเยอะมาก โดยส่วนใหญ่ที่เราคาดคะเนดูจะเป็นของกิน(ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อเค้าล่ะ) และเครื่องสักการะบูชาบรรพบุรุษซะเป็นส่วนใหญ่
 
 
 
 
 
 
 
 
 
        ซึ่งช่วงเวลาที่เรามาสำรวจเนี้ย ดันเป็นช่วงใกล้เทศกาลสารทจีนพอดิบพอดี แน่นอนว่าข้าวของเพียบเลยล่ะ เราเดินทะลุมายังตลาดเก่าเยาวราช เอาจริงๆ หลายคนคงนึกถึงของกินยามราตรีแน่นอน เมื่อเราพูดถึงเยาวราช แต่ลองมาตอนกลางวันก็ไม่ผิดหวังเลยนะ เพราะที่นี่หันซ้ายก็อาหารคาว หันขวา ก็อาหารหวาน โดยหากเดินทะลุตลาดเก่ามาหน่อย ก็จะเจอวัดคณิกาผลแล้ว
 
        วัดคณิกาผล กับความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา
 
 
        วัดคณิกาผล ก่อสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ.2376 โดยเจ้าสำนัก”โสเภณี” ที่ชื่อว่าโรงยายแฟง ที่ได้ชวนหญิงโสเภณีในสำนักลงขันกันสร้างวัดขึ้น โดยรายได้ก็มาจากการค้าประเวณีนั่นแหละ
 
        โดยแต่เดิมวัดแห่งนี้มีชื่อว่า “วัดใหม่ยายแฟง” โดยชื่อใหม่ที่ได้รับการพระราชทานนามมาว่า “วัดคณิกาผล” ก็มีความหมายที่แปลอย่างตรงตัวเลยว่า “วัดที่สร้างขึ้นจากผลประโยชน์ของนางคณิกา” ซึ่งความหมายของคณิกา ก็แปลว่าโสเภณีนั่นเอง
 
 
 
 
 
        ศาลเจ้าไต้ฮงกง หรือ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตรงข้ามวัดคณิกาผล
 
 
 
 
        ไม่ใกล้ไม่ไกลเพราะอยู่ตรงข้ามกันและติดกันเลย เค้ามีสองฝั่งนะ นั่นก็คือ ศาลเจ้าไต้ฮงกง และ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มองจากฝั่งตรงข้าม คนเยอะพอสมควร ขนาดวันที่เราไปสำรวจเป็นวันธรรมดาไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์แต่อย่างใด ชักน่าสนใจแหะว่าเค้ามาทำอะไรกันน้อ
 
        เข้ามาภายในก็หายสงสัยเลย เพราะมันอยู่ในช่วงประเพณีทิ้งกระจาดประจำปี ซึ่งจัดโดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยจัดยาวๆไปจนถึงวันที่ 27 สิงหาคม เลยล่ะ
 
 
 
        เพิ่งนึกอกว่ายังไม่ได้ทานอะไรมาเลย เราเลยว่าจะแวะเติมพลังกันต่อ เพราะยังเหลืออีก 3 สถานีที่ยังต้องไปลุยต่อ ประเด็นคือเดินเข้าร้านแบบไม่เลือกเลย ตอนนั้นหิวมาก ซึ่งร้านที่เราเลือกไปฝากท้องก็คือร้าน เตี๊ยวเกี๊ยวยักษ์ด้วยเหตุผลที่ว่าป้ายใหญ่ สะดุดตาดี 55555
 
 
 
 
        เราเลือกสั่งเมนูไป 2 อย่างคือ เกี๊ยวยักษ์เสฉวนและบะหมี่จักรพรรดิ์
 
        ส่วนตัวเรารู้สึกว่าบะหมี่จืดไปหน่อย ส่วนเกี๊ยวใครทานเผ็ดไม่ได้ เราไม่แนะนำเท่าไหร่ เพราะเผ็ดจริงๆ ไม่ใช่แค่หน้าตา
 
 
 
        เผ็ดๆแบบนี้ก็ต้องสั่งอะไรมาดื่มแก้เผ็ดกันหน่อย เราสั่งเครื่องดื่มเป็นปังเย็นโกโก้ อ่ะๆ งงล่ะสิ ปังเย็นเป็นแก้ว นี่แหละ โดยส่วนตัว ก็ให้อารมณ์โกโก้ปั่นใส่ขนมปังนี่แหละ แต่ก็ชอบนะ เข้มข้นดี
 
        เหมือนจะไม่อิ่ม เลยคิดว่าลองหาข่าวดีกว่า สักร้านพอให้หนักท้องหน่อย เคยได้ยินชื่อร้านข้าวแกงเก้าอี้ดนตรีเยาวราชเจ้าดัง ซึ่งพอเปิด Map พิกัดก็ไม่ได้ไกลนัก ก็พุ่งไปเลย
 
 
 
        เสียเที่ยวแหะ55555 เพราะร้านปิด
 
        ยังไม่ย่อท้อ เพราะยังไม่อิ่มแบบจริงจัง สุดท้ายก็มาลงเอยอยู่ที่ร้านข้าวหมูกรอบ
 
 
 
 
        อิ่มแบบจริงจังแล้ว เราแวะเดินสำรวจคร่าวๆอีกสักนิด เราเดินอ้อมไปอีกฝั่ง อันนี้จริงจังแล้วว่าคือเสือป่า ถ่ายมาพอกรุบกริบ ไม่ได้แวะเข้าไป ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้ามาโผล่ที่เยาวราช(เอาจริงๆเราก็อยู่เยาวราชแต่แรก แต่เข้ามาในโซนทางแกรนด์ไชน่านั่นเอง)
 
 
 
 
        ถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอนิดหน่อย ก่อนจะไปต่ออีกสถานี
 
        Next Station สามยอด
 
        เราออกมาทางประตู 3 เพราะเค้าแนะนำมาว่า เป็นทางไปห้างดิโอลด์สยาม จากการเดินสำรวจที่สถานีวัดมังกร สารภาพเลยว่า ตากแดดจนร้อนมากขอหาแอร์ก่อนแล้วกัน แล้วค่อยมานึกต่อว่าจะไปไหนต่อดี
 
        ดิโอลด์สยาม
 
        ไหนๆก็แวะมาหาเป็นที่แรกของสถานีสามยอดแล้ว เราขอพูดถึงห้างนี้กันซักหน่อยดีกว่า ดิโอลด์สยาม ก่อสร้างขึ้นมาเมื่อปี 2536 โดยเป็นแหล่งขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งความน่าสนใจของ ดิโอลด์สยาม อยู่ที่ตัวอาคารถูกออกแบบให้เป็นสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและตะวันตกเข้าด้วยกัน โดยที่นี่จะเปิดเป็นพื้นที่ค้าขายจำหน่ายเสื้อผ้าและสินค้าทั่วไป แต่สินค้าที่เป็นตัวหลักของที่นี่เห็นทีคงหนีไม่พ้นอาวุธปืน ที่มีขายทั่วบริเวณรอบนอกของตัวห้าง เรียกได้ว่า ห้างนี้ปืนล้อมรอบเลยทีเดียวแหละ55555
 
        ที่นี่ยังเป็นอีกสถานที่ให้เราหวนระลึกถึงครั้งอดีตอีกด้วย หากสมัยนี้สยามสแควร์จะเป็นแหล่งรวมตัววัยรุ่น แต่หากย้อนไปครั้งวันวาน สถานที่ในย่านนี้หรือวังบูรพานี่แหละที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นในยุคก่อน โดยที่ชั้น 3 ของดิโอลด์สยามยังได้เปิดเป็นศูนย์อาหารและห้องคาราโอเกะ เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้สูงอายุเลยทีเดียว ใครว่างๆลองพาคุณพ่อคุณแม่ หรือปู่ ย่า ตา ยาย มาเที่ยวดู เชื่อว่าพวกท่านต้องมีความสุขเป็นแน่แท้
 
 
 
        เราหลบร้อนอยู่ในดิโอลด์สยามพักใหญ่ ก่อนจะเดินออกจากห้าง หวังไปลิ้มลองร้านดังย่านนี้อย่างร้าน “ออน ล็อก หยุ่น” ซึ่งร้านก็อยู่ติดดิโอลด์สยามเลย ทางเดินทะลุไปศาลาเฉลิมกรุง
 
        เห็นคนรอคิวแล้ว ตัดสินใจว่าไปต่อดีกว่า ไม่ไหวจะรอคิวจริงๆ เพราะยังเหลือสถานีให้สำรวจอีก 2 สถานี
 
 
 
        เราเดินไปอีกนิดหน่อย ก็ถึงศาลาเฉลิมกรุง
 
        เอาจริงๆ สมัยเรียนผ่านบ่อยๆเลยนะแถวนี้ แต่ไม่ยักกะเข้าไปเยี่ยมชมสักที ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เดินเฉียดมาถ่ายหน่อยถึงจะไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชม เราก็หาข้อมูลมาเล่าให้ฟังจนได้แหละ
 
        ด้วยความคลาสสิคแบบสมัยก่อน ของป้ายหรือตัวอาคาร ก็แอบสงสัยอยู่ว่า มันมีไว้ทำอะไรกันนะ
 
 
 
        ศาลาเฉลิมกรุง หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า โรงมหรสพหลวง ศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งแต่ก่อนเค้าเป็นโรงภาพยนตร์ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แห่งแรกของเอเชียเลยนะ โดยได้เปิดฉาย ภาพยนตร์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2476 โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่เข้าฉายคือเรื่อง มหาภัยใต้ทะเล โดยปัจจุบันนี้ ศาลาเฉลิมกรุง เค้ายังคงเปิดให้บริการอยู่นะ เค้ามาในชื่อของ เฉลิมกรุงเธียร์เตอร์ สำหรับงานแสดงต่างๆทั้ง ละครเวที โขน นาฏศิลป์ต่างๆ เป็นต้น
 
        เราเร่งทำเวลานิดหน่อย เพราะว่า MRT จะเปิดให้บริการถึงแค่ 4 โมง เลาะไปอีกฝั่ง โดยการเดินทะลุดิโอลด์ไปอีกรอบ
 
        ทีนี้มาโผล่ที่ไนติงเกล โอลิมปิค ซึ่งเป็นห้างแห่งแรกของประเทศไทย!!
 
 
        เนื่องจากทางห้าง ไม่อนุญาตให้เราถ่ายรูป จึงถ่ายได้แค่ตัวอาคารเท่านั้น ถึงห้างไนติงเกล จะเป็นห้างแห่งแรกก็จริง แต่ที่นี่เค้ายังคงเปิดให้บริการอยู่เลยนะ ห้างไนติงเกล เป็นห้างขนาดแค่เพียง 3 คูหา 7 ชั้น เท่านั้น โดยเริ่มเปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473 โดยได้เปิดขายสินค้าจำพวก เครื่องเขียน เครื่องดนตรี อุปกรณ์กีฬา เครื่องสำอาง และน้ำหอม ไปจนถึงของสะสมและอุปกรณ์เสริมความงามของหนุ่มสาวในยุคนั้นอีกด้วย
 
        จริงๆสถานีสามยอดยังมีสถานที่น่าสนใจอีกพอสมควรเลย ทั้งเรือนจำเก่า(สวนรมณีนารถ) วัดสุทัศน์เทพวนาราม เสาร์ชิงช้า แต่ด้วยระยะทางที่เราอาจจะต้องเดินพอประมาณ ประกอบกับระยะเวลาที่กระชันชิด ดังนั้นจึงมีโอกาสแวะเที่ยวรอบนอกแค่นิดหน่อย เพราะจะต้องไปอีก 2 สถานีนั่นเอง 
 
        สถานีลำดับที่ 3 ได้แก่ สถานีสนามไชย นั่นเอง ย่านนี้ไม่ต้องพูดมากเลย รู้ๆกันอยู่ว่าเค้าเป็นย่านท่องเที่ยว ทัวร์ลงวันหนึ่งไม่รู้กี่รอบ
 
        เราเดินออกมาโผล่ที่มิวเซียมสยามเป็นที่แรกเพราะว่าทางเข้า-ออกของสถานีนี้สามารถเดินเชื่อมต่อกับมิวเซียมสยามได้อีกด้วย
 
 
 
 
        เราลองสอบถามเจ้าหน้าที่ ที่นี่เสียค่าเข้าชม 100 บาทสำหรับผู้ใหญ่ นักเรียนและนักศึกษา 50 บาท ส่วนคนต่างชาติ 200 บาทนั่นเอง
 
        ไม่ได้เสียเงินเข้าไปชมชั้นบนนะ เพราะกลัวชมไม่คุ้มกัน ได้แต่ถ่ายรอบนอกมาให้ดู แต่ความโชคดีคือช่วงที่เรามาสำรวจเป็นช่วงที่เค้าจัดนิทรรศการสักสี ศักดิ์ศรี ซึ่งอันนี้ชมฟรี ไม่เสียเงิน
 
        เหนื่อยนะ เอาดีๆ555555 นั่งพักซักแปป สอบถามข้อมูลประวัติของที่นี่ซักหน่อย
 
 
 
 
 
        ที่นี่ไม่ได้เก่าแก่อะไรขนาดนั้นนะ เพราะเค้าเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วเอง (พ.ศ.2551) แต่เดิมมิวเซียมสยามเป็นที่ตั้งของกระทรวงพาณิชย์ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ ณ บริเวณสนามบินน้ำ ที่นี่จึงกลายเป็นมิวเซียมสยามแต่นั้นมา โดยเค้าจะเปิดให้เป็นพื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียนนั่นเอง
        
        เราเดินออกมาจากมิวเซียมสยาม ทะลุมาอีกทางเพื่อจะเดินทางไป วัดโพธิ์ อันนี้เริ่มทำเวลากันหนักหน่วงเลยล่ะ เพราะเวลาจวนจะบ่าย 3 แล้ว
 
        เริ่มเล่นๆกันเองแหละ เพราะวัดโพธิ์เป็นวัดที่คนไทยคุ้นเคยกันจริงๆ ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่โด่งดังและขึ้นชื่อของวัดโพธิ์ ก็คือฤาษีดัดตนนั่นเอง
 
        แอบถ่ายภาพตามฤาษีดัดตนมาด้วย555555
 
 
 
        เราเดินไปไม่ถึงท่าเตียนและวัดพระแก้ว เพราะแอบรู้สึกไกลนิดหน่อย และต้องรีบอีก เลยไม่ได้ไปเก็บภาพมาฝาก แต่ความจริงไม่ได้ไกลมาก หากใครไม่เร่งรีบไปไหนต่อแบบเราเดินชิวๆอีกนิดก็ถึงแล้วนะ โดยสถานีนี้จะมีทั้งวัดพระแก้ว สนามหลวง ท่าเตียน ท่าช้าง ท่ามหาราช มหาวิทยาลับศิลปากร และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั่นเอง
 
        มาถึงสถานีที่ 4 สถานีอิสรภาพ
 
        บริเวณทางออกมีความน่าสนใจน้อยกว่าสถานีก่อนหน้า(สำหรับเรา) ที่พอจะเข้าตาหน่อย นั่นคือวัดหงส์ และ วัดอรุณ เราเดินออกตามทางที่เค้าบอก สารภาพตรงๆว่าแอบบผิดหวังหน่อย เพราะสถานีนี้ไม่มีอะไรมากนัก ออกมาเจอถนน
 
 
        แต่โดยรอบที่พอทราบมาบ้างคือมันใกล้แยกบ้านแขก ซึ่งแยกบ้านแขกก็อยู่ใกล้ๆสถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยราชภัฏฝั่งธนอย่าง มหาวิทยาลัยบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
 
        เรามุ่งหน้าไปถ่ายวัดอรุณเลยดีกว่า
 
 
 
        ถ่ายเพลินมองนาฬิกาอีกทีก็ต้องรีบวิ่งจริงจัง เพราะจะหมดระยะเวลาที่ MRT จะให้บริการ ซึ่งน่าเสียดายมาก เราเลยไม่ได้ไปถ่ายวัดหงส์ ซึ่งเป็นวัดที่สถานี MRT อิสรภาพ เค้าได้ต้นแบบในการตกแต่งมาจากวัดนี้
 
        เป็นหนึ่งวันเต็มๆที่คุ้มค่าจริงๆ สำหรับการสำรวจ ที่ถึงแม้จะเก็บไม่ครบทุกที่ แต่ได้แค่นี้ก็เยอะแล้วนะภายในหนึ่งวัน55555 แต่ที่สำคัญ ถ้าไม่มีการเดินทางที่สะดวกแบบนี้ เราคงไปได้ไม่เยอะขนาดนี้แน่นอน ซึ่งต้องขอบคุณMRT จริงๆนะ (ไม่ได้ค่าสปอนเซอร์) เพราะเรารู้สึกว่า ย่านพระนคร-ธนบุรี เป็นพิกัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่รถไฟฟ้าสามารถทำให้การเดินทางง่ายกว่าเดิม
 
        เพื่อนๆคนไหนมีโอกาสได้ใช้บริการ MRT ก็อย่าลืมมาเที่ยวตามเราได้ล่ะ หรือใครทีสถานที่ไหนที่พอจะแนะนำได้ ก็ลองแนะนำกันมาได้ ไม่แน่โอกาสหน้าเราอาจจะพสทุกคนไปสำรวจอีกครั้งก็ได้ ที่สำคัญอย่าลืมถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวมาอวดกันบ้างล่ะ
 
 
 
 
 

Tag :



ติดดอยแนะนำ

ติดดอยรีวิว

"Cooper Siam" คอนโด Loft ของแทร่ ที่ถึงบรรทัดทอง เยาวราชของคนรุ่นใหม่ ได้ใน 1 นาที!!

ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว

ทำไม "Supalai Premier สามเสน-ราชวัตร" ยังไงก็ขายหมด

เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก

หนึ่งในคอนโดที่ปล่อยเช่าดีมาก ตอนเช้าย้ายออก ตอนบ่ายย้ายเข้าเลย

จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย


ติดดอยโร้ดทู

"Passion Living Sukhumvit 38" จะใช้ชีวิตติด Passion สไตล์อนันดา ก็ต้องมีคอนโดติด BTS ทองหล่อหลายๆ ตัวหน่อย

"PASSION LIVING" คือชื่อที่อนันดาใช้สำหรับแปะป้ายพื้นที่โครงการครับ

PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้ BTS พระโขนง ขีดสุดของความ Privacy เพียง 36 ยูนิต

'PYNN Pridi 20' (พินน์ ปรีดี 20) คอนโดใหม่แถวซอยปรีดีฯ 20 จากภาพที่เห็นตอนเปิดตัว ก็พอทราบแล้วว่าแบรนด์ 'PYNN' เป็นแบรนด์ที่แสนสิริเค้าน่าจะปั้นให้มีจุดเด่นในแง่ของการเป็นคอนโดเล็กๆ ในซอยสงบๆ เน้นความเป็นส่วนตัวสูงและสามารถเลี้ยงสัตว์ได้

"มิวนีค เจริญกรุง" (MUNIQ Charoen Krung) คอนโดที่ฮอตตั้งแต่เปิดตัว บนทำเลสุดปังตรงข้ามนานาชาติโชรส์เบอรี่ วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา

ตั้งแต่เปิดปีมาคอนโดภายใต้แบรนด์ 'MUNIQ' (มิวนีค) สามารถกวาดยอดขายช่วงพรีเซลไปได้แบบโกยได้โกยของแท้ เค้าเป็นแบรนด์ที่ทำให้ตอนนี้เมเจอร์ยอดขายรอรับรู้รายได้หรือ Backlog มากกว่า 4,400 ลบ. แล้วครับท่านผู้ชม!!


ติดดอยสไตล์

#ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านพฤษภาคม 2567 มาแล้วค้าบบบ

หน้าร้อนกำลังจะผ่านไป และฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำกำลังก้าวเข้ามา ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ

“แอสเซทไวส์” เตรียมอวดโฉม 3 แคมปัสคอนโดพร้อมอยู่แบรนด์ Kave แล้ว วันนี้!

ตอนนี้จ้าวแคมปัสคอนโดของตลาดอสังหาบ้านเรา ไม่ต้องให้ใบ้ก็ตอบได้ว่าคือ“แอสเซทไวส์” นี่แหละ

"แสนสิริ" เปิดตัวแบรนด์ใหม่ "ELSE" EXCLUSIVE RESIDENCES ทำโครงการไม่เกิน 10 หลัง!

หมู่บ้านต้องมีไม่เกินกี่หลัง ถึงจะเรียก Private ถ้าแค่ 1 หลัง Private พอมั้ย? ‘แสนสิริ‘ เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘ELSE’ เป็น EXCLUSIVE RESIDENCES ทำโครงการไม่เกิน 10 หลัง!

สุดเจ๋ง!! พี่จีนสร้างสนามบิน Lishui แห่งใหม่ในมณฑลเจ้อเจียง ชูเอกลักษณ์เมืองและธรรมชาติกับการสร้างสนามบินในสวน!!

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอะไรให้เราว้าวอยู่ตลอดเวลาจริงๆ นะ อย่างล่าสุดเค้ากำลังทำการสร้าง สนามบิน Lishui (หลี่ซุย) แห่งใหม่ในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งพี่จีนไม่ได้สร้างให้เป็นแค่สนามบินธรรมดา แต่นี่คือสนามบินที่สร้างในสวน เป็นรูปแบบของสนามบิน "Forest City" !!

"Conrad Bangkok Sukhumvit Queens Park" โรงแรมใหม่ที่ถูกล้อมกรอบด้วยห้างตระกูล Em ณ พร้อมพงษ์นคร

หลังจาก "Emsphere" ห้างใหม่ในกลุ่ม "Em District" เปิดตัวไป ก็เพิ่มกระแสให้กับพื้นที่รอบด้านได้เพียบเลย ขนาดแค่เปิดตัววันแรกคนก็มหาศาล เรียกว่าสมราคาตระกูล Em สุดๆ

“คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) ชวนทุกคนมาลิ้มลอง 3 ความอร่อยใหม่ได้แล้ววันนี้

คิดจะพักคิดถึงคิทแคท แต่ถ้าคิดถึงโดนัทอร่อยๆ ก็ต้องคิดถึงคริสปี้ ครีม ดิค้าบบ ไปลองกันยัง “คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) กับ 3 โดนัทหน้าพิเศษสุดฟิน!!


© 2018 CONDOTIDDOI

ME ESTATE CO.,LTD
92/21 HOLLYWOOD STREET CENTER
PHAYATHAI RD. RACHATEVEE
BANGKOK 10400 THAILAND

02-656-6776
condotiddoi@gmail.com

CONTACT US

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

085-546-4694

info.condotiddoi@gmail.com

Copyright www.condotiddoi.com © 2018
web design & programming by www.smilephp.com