น่าจะนับได้ว่า "SUPALAI LOFT สาทร-ราชพฤกษ์" เป็นหมากตาแรกของ "ยี่ห้อใหญ่" ที่ส่งลงมาเขย่าตลาดในช่วงหลังโรค Covid-19 เลยนะ

 

        ในขณะที่ ยี่ห้อเล็ก ยี่ห้อใหญ่ เจ้าอื่น กำลังลดถล่มทลาย ล้างคลังกันอย่างสนุกสนาน บางเจ้าก็รอดูท่าที

 

        "ป้าศุ" กลับงัดเอาของใหม่สดๆซิงๆมาชิงสนาม 

 

        นับถือ "หัวจิตหัวใจ" ของ "ป้าศุ" ยิ่งนัก..!! แมนเกิน 100 อิอิ

 

        การชิงเปิดเกมรุกก่อนแบบนี้ "ป้าศุ" ก็ต้องมั่นใจว่าของตัวเอง "มีดี" แน่นอน 

 

        ส่วนจะมีดีแค่ไหนนั้น เรามาลองดูกัน

 

        เอาล่ะ เรามาเริ่มที่ "ทำเล" กันก่อน

 

        โครงการวางตัวเองอยู่ตรง ติดริมถนน เป็นจุดบรรจบระหว่าง ถ.ราชพฤกษ์ และ ถ.เทอดไท

 

        จากหน้าโครงการ เราสามารถขับรถวิ่งตรงๆยาวข้ามสะพานตากสินไปถึงสาทรได้เลย

 

        นี่ก็เลยเป็น 1 ในสาเหตุที่หลายๆโครงการตลอดเส้นนี้ จึงมักมีคำห้อยท้ายชื่อว่า "สาทร" กัน โครงการนี้ก็เช่นกัน

 

        ก็แหม มาทีหลัง จะมาแตกแถวจากคนอื่นก็ไม่ดีเนอะ เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตาม ก็พออนุโลมได้น่า 555

 

        นอกจาก "การไป" จะง่ายแล้ว การ "กลับมา" ที่โครงการก็ง่ายเช่นกัน หลังข้ามสะพานตากสินมาแล้ว ตรงมาเรื่อยๆ มาเบี่ยงออกซ้าย ตรงถ.เทอดไท กลับรถใต้สะพานข้ามคลองภาษีเจริญ ก็จะถึงโครงการ

 

        อ๋อ ตรงคลองภาษีเจริญ จะมีท่าเรือด้วยนะ ท่าสะพานตากสิน-เพชรเกษม(ท่าเรือบางหว้า) ท่าเรือนี้จะแล่นระหว่าง ท่าประตูน้ำภาษีเจริญ กับ ท่าเพชรเกษม 69

 

        และมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ผมเองก็เพิ่งรู้เมื่อปลายปีที่แล้ว ตรงท่าเรือนี้ จะมีเรือสายพิเศษแล่นไปออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้!!

 

        โดยมีท่าเรือที่รองรับคือ ท่าสะพานพุทธ ท่าราชินี และท่าช้าง ทำให้เราสามารถเปลี่ยนเส้นทางเป็นเรือด่วนเจ้าพระยาได้ เที่ยวเพลินเลยทีนี้ 555 นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทาง

 

        การคมนาคมหลัก เห็นจะไม่พ้น "รถไฟฟ้า"

 

        โดยรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ "สถานีบางหว้า" เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ระหว่าง MRTสายสีน้ำเงิน กับ BTSสายสีเขียว จัดว่าเป็นรถไฟฟ้าสายหลักในการเข้าใจกลางเมืองทั้งคู่ จะทำงานแถว สุขุมวิท สีลม สาทร หรือกระทั่ง ลาดพร้าว ก็สะดวกทั้งนั้น

 

        มีจุดหนึ่งที่ผมว่าป้า "แมนมาก" คือคำโปรยว่าใกล้รถไฟฟ้า 450 ม. หลายๆโครงการเดี๋ยวนี้มักยึดเอาจากการห่างขาบันไดรถไฟฟ้าเป็นตัวตั้ง 

 

        ซึ่งถ้าป้าจะยึดเอาตามเจ้าอื่น จากโครงการถึงขาบันไดสถานีจะราวๆ 200 กว่าม.เอง แต่ป้าก็เลือกที่จะไม่ใช้ตัวเลขนี้ แปะๆ (ปรบมือชื่นชม 555)

 

        มีจุดอ่อนหนึ่งที่ผมเจอเมื่อตอนหลงทางเมื่อต้นปี แล้วมาเจอโครงการนี้โดยบังเอิญคือ "ทางเดิน"

 

        มันไม่น่าเดินเอาเสียเลย ดูร้อนๆแห้งๆ ทางเดินดูโทรมๆ

 

        แต่มาคราวนี้ตกใจ..!! มันเปลี่ยนไปเยอะเลย

 

        เกือบตลอดทางไปถึงหน้าโครงการ จะมีหลังคาใหญ่ประมาณหนึ่ง คอยให้ร่มเงา ทางเดินราบเรียบ เนียนกริบ พร้อมไฟทางเดิน ตอนกลางค่ำกลางคืนหมดห่วงเรื่องมุมมืด

 

        ตามผนังระหว่างทางมีการทำ "กราฟฟิตี้" ด้วย ดูน่าเดินขึ้นเยอะเลย ผมถ่ายรูปให้เพื่อนดู เพื่อนนึกว่า "สวนสาธารณะ"!! แต่จริงๆไม่ถึงขนาดนั้นนะ 555

 

        ดูท่า "จุดอ่อน" เรื่องทางเดิน จะหายไปเสียแล้ว!!

 

        มารู้ทีหลังว่าเป็นทาง ป้าร่วมมือกับกทม. สรรสร้างปรับภูมิทัศน์ขึ้นมานี่เอง โว้ว แจ๋วๆ (อยากรู้ค่าเสียหายจัง เท่าไรน้า แหะๆ)

 

        เพื่อนผมคนหนึ่งถามว่า "ถ้าโครงการลงทุนทำ Skywalk เพิ่มขึ้นมาล่ะ จะดีกว่าไหม?"

 

        มันก็ต้องดีกว่าแน่นอนอยู่แล้ว เพราะมันให้ความรู้สึกว่า "ไร้รอยต่อ" จ่อหน้าโครงการ แต่.. มันจะมาพร้อมค่าใช้จ่ายอีกเพียบ ผมเชื่อว่ามีเฉียด 9 หลักนะ

 

        ซึ่งมันจะส่งผลกับ "ราคา" ของคอนโดแน่ๆ จากที่ค่าตัวเริ่มที่ 1.69 ล้านบ. ก็อาจจะดีดไปที่ 1.89 ล้านบ.หรือสูงกว่าแทน เพราะเมื่อต้นทุนเปลี่ยน ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนตาม จนถึงขนาด Segment ของตลาดคอนโดก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วยก็ได้

 

        เมื่อมามองถึงสิ่งที่ได้ กับสิ่งที่เสียแล้ว ทำให้ผมรู้สึกว่า "ทางเดินในร่ม" ในปัจจุบัน อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ก็เป็นได้นะ

 

        มาที่เรื่อง "ปากท้อง" เรื่องใหญ่ที่สุด(สำหรับผม)กันบ้าง อิอิ

 

        เป็นเรื่องเศร้าของผมเล็กน้อย ฮือ ในระยะรอบโครงการ แทบไม่มีร้านค้าเลย แต่ถ้าเดินเข้าไปตามถนนเทอดไท ด้านในจะมีชุมชนอยู่ ก็จะพอมีร้านค้าอยู่บ้าง

 

        ในโครงการจะมียูนิตร้านค้า 2 ยูนิต คงต้องรอดูว่าจะมีร้านสะดวกซื้อเจ้าไหนมาครอบครอง ซึ่งจะช่วยได้เยอะ

 

        แต่จริงๆปัญหาเรื่องของกิน เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีผลมากนัก เพราะ App Food Delivery มีเยอะมาก ผมเองทุกวันนี้ ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง/สัปดาห์

 

        ซึ่งผมคิดว่า ทางโครงการเองก็เข้าใจในไลฟ์สไตล์ของคนสมัยนี้น่ะแหละ จึงผุดจุด "Delivery Drop Off" แยกให้ไว้ซะเลย เวลาคนเอาของมาส่ง จะได้ไม่รบกวนลูกบ้านท่านอื่น 

 

        ส่วนพวกห้างใหญ่ๆใกล้เคียง มีหลายยี่ห้อเลย ที่เด่นๆมี The Mall ท่าพระ , The Mall บางแค และ ซีคอน บางแค ทั้ง 3 ห้าง สามารถนั่ง MRTสายสีน้ำเงิน ไปเดินโฉบเฉี่ยวได้ ใช้เวลาไม่นาน บางมีสั่งมากิน ยังอาจจะนานกว่า 555 

 

        เออ มีเรื่องแปลกใจนิดหน่อย ทั้งที่ "สถานีบางหว้า" จัดว่าเป็นสถานีที่ใหญ่นะ คนสัญจรก็เยอะ แต่ทำไมไม่มีร้านค้าเลยหว่า ถ้าใครทราบเหตุผล วานช่วยบอกด้วยนะ 

 

        นี่ผมคิดเอาจริงเอาจังเลยนะ ไปเปิดร้านขายกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ เองเลยดีกว่า 555  

 

        "SUPALAI LOFT สาทร-ราชพฤกษ์" เป็นคอนโด High rise 1 อาคาร สูง 33 ชั้น+Rooftop มียูนิตพักอาศัย 563 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต บนที่ดินขนาด 3-1-75.1 ไร่ จอดรถได้ 51%

 

        รูปแบบห้อง มีหลากหลายมาก ตามนี้เลย

 

        แบบ 1 Bedroom ขนาด 29-35 ตร.ม. , แบบ 1 Bedrrom Plus ขนาด 44.5 ตร.ม. , แบบ 2 Bedrooms ขนาด 52-65 ตร.ม. และ แบบ 3 Bedrooms ขนาด 100.5-103.5 ตร.ม.

 

        Sales Gallery มีหยิบแบบห้องออกมาทำห้องตัวอย่าง 2 ห้องด้วยกัน คือ 1 Bedroom 35 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus 44.5 ตร.ม.

 

        แต่งออกมาสวยใช้ได้เลย ลองแวะไปดูเป็นไอเดียการตกแต่งห้องกันได้นะ 

 

        เท่าที่ผมเห็นจากห้องตัวอย่าง พบว่ามีจุดเด่นหลายอย่าง 

 

        - เพดานสูงถึง 2.7 ม. สำหรับคอนโดราคาแบบนี้ ผมถือว่า "สูง" นะ ทำให้ห้องปลอดโปร่งโล่งสบาย

 

        - ประตู หน้าต่าง(2.5ม.) บานใหญ่กว่าปกติ ช่วยระบายอากาศได้ดี

 

        - อันนี้น้องเซลล์บอกมา หน้าต่างกรอบบานเป็น UPVC ช่วยลดเสียง และตัวกระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อนที่จะทะลวงเข้ามาในห้อง 

 

        - มีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วน มีพื้นที่ "Favorit Corner" รองรับการทำงานแบบ Work Form Home

 

        - มีแถม Wallpaper , เครื่องทำน้ำอุ่น , ชุดครัว , ฉากกั้นอาบน้ำ และเครื่องปรับอากาศ มาให้ด้วย

 

        "โห สวย ดิบ เท่ดีวุ้ย" เป็นคำพูดที่หล่นออกมาจากปาก โดยมิทันผ่านการไตร่ตรองจากสมอง 555 หลังจากเห็น การดีไซน์ "ส่วนกลาง" ของโครงการ

 

        การออกแบบต่างๆของ "ป้า" ดูกระชากวัยมากกว่าที่เคยมีมา แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังขอเรียกว่า "ป้า" ด้วยความเคารพรักนับถือเหมือนเดิมนะครับ อิอิ

 

        มันให้อารมณ์เหมือน "ส่วนกลาง" ของโรงแรมหรูสมัยใหม่ เท่ดีๆ

 

        นอกจากความสวยแบบเท่ๆแล้ว ยังมีการออกแบบหลายอย่างให้เข้ากับยุค Covid-19 ด้วย อย่างเช่น

 

        - "Pocket Courtyard" สวนตรงชั้น 1 กลางอาคาร เพดานเปิดโล่งทะลุไปถึงชั้น 6 ที่มีสระว่ายน้ำ ทำให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ดี แสงเข้าได้มากขึ้น ช่วยลดความอับชื้น เชื้อโรค และ ทำให้บรรยากาศในโครงการเย็นสบาย

 

        - มีการกระจายส่วนกลางไปในหลายพื้นที่ของโครงการ ลดความแออัด เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

 

        - ประตูในการเข้าอาคารเป็น Face Scan ลดการสัมผัส

 

        - มีจุด Delivery Drop Off ที่แยกจากโซนอยู่อาศัย ไว้ให้พวกบริการส่งของทั้งหลายมาฝากของ ลดการสัมผัสกับคนอื่น

 

        - ห้องส่วนกลางต่างๆ อย่างเช่น ฟิตเนส ออกแบบให้มี "ช่องเปิด" เพื่อให้อากาศถ่ายเท แถมพวกประตูห้องส่วนกลางจะเป็นระบบออโต้ ลดการสัมผัสอีกเช่นกัน

 

        โดยรวม ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก หรือ ส่วนกลาง ก็ล้วนออกแบบมารองรับ "New Normal" แทบทั้งนั้น 

 

        น่าสนใจแหะ ไว้สร้างเสร็จเมื่อไหร่ คงต้องได้แวะมายลโฉมหน่อยแล้วล่ะ ล้างตารอได้เล้ย อิอิ

 

        มาถึงตรงนี้ ผมรู้สึกว่า "SUPALAI LOFT สาทร-ราชพฤกษ์" จัดว่า "มีดีมีของ" อยู่พอตัวนะ

 

        แต่.. สิ่งที่เป็นจุดเด่นสำคัญที่สุดจริงๆสำหรับผมคือเรื่อง "ราคา"

 

        ผมเคยถามหลายคนเมื่อตอนที่มีข่าวกำลังจะเปิดขายใหม่ๆว่า "ที่นี่ควรจะราคาเท่าไร?"

 

        โดยเฉลี่ยของคำตอบ จะอยู่ที่ราวๆ 1.89 ล้านบ. สำหรับห้องขนาด 29 ตร.ม. หรือประมาณ 6.5 หมื่นบ./ตร.ม.

 

        คือโดยปกติแล้ว "ป้าศุ" มักจะเป็น "ยี่ห้อใหญ่" ที่ขายราคามิตรภาพ ไม่แพงจนค่อนไปทางถูกอยู่แล้ว พวกนิวฮง นิวไฮ นี่ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเคยมีไหม?

 

        เมื่อมองไปถึงโครงการเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง ที่เปิดตัวตั้งแต่เมื่อราว 5 ปีที่แล้ว มีค่าตัวเริ่มต้นอยู่แถวๆ 8 หมื่นบ./ตร.ม.

 

        เพราะฉะนั้น ถ้า "ป้าศุ" จะตั้งราคาที่ หลัก 6.5-7 หมื่นบ./ตร.ม. ในพ.ศ.นี้ ก็ยังจัดว่า น่าคบหาอยู่ไม่น้อย

 

        แต่พอเอาเข้าจริง เปิดตัวมาที่ 1.69 ล้านบ.!!! สำหรับห้องขนาด 29 ตร.ม. หรือเฉลี่ยเริ่มที่ 5.8 หมื่นบ./ตร.ม. เท่านั้น

 

        "ห๊ะ?!! เอาจริงดิ" ผมอุทานออกมา ราคานี้ย้อนไป 5 ปีที่แล้ว ยังหาได้ไม่ง่ายเลยนะ

 

        "ห๊ะ?!! เอาจริงดิ" รอบที่ 2 เกิดขึ้น หลังจากไปเยือนโครงการ ได้รู้ว่า ห้องขนาด 35 ตร.ม. มีค่าตัวหลังหักส่วนลดแล้วเริ่มที่ 1.83 ล้านบ. หรือเฉลี่ยที่ 5.2 หมื่นบ./ตร.ม.!!

 

        ที่สำคัญคือ ราคาจะค่อยๆไต่ระดับขึ้นนะ ไม่ได้โดดเด้งดึ๋ง สบายใจได้ 

 

        ว่าแต่ จะขี้ตกใจไรนักหนานี่ 555 

 

        เชื่อว่า ใครที่คิดจะขายห้องต่อของโครงการเพื่อนบ้าน มาเจอราคานี้ของ "ป้า" อาจต้องเอาอวัยวะเบื้องล่างขึ้นมาก่ายหน้าผากได้เลยนะ 555

 

        สำหรับคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่เอง ผมมองว่าเป็น "โอกาส" นะ จะมีราคาแบบนี้มาอีกเมื่อไหร่ เดาไม่ได้เลย

 

        และด้วยราคาที่โดนข้อหา "ถูกอย่างน่ารักน่าชัง" อิอิ ทำให้ในระยะยาว มีแนวโน้มที่จะขายต่อได้กำไรที่ดี 

 

        ผมลองหาข้อมูลเรื่องการปล่อยเช่า

 

        โครงการเพื่อนบ้าน จะมีค่าเช่าประมาณ 9,000 - 10,000 บ./เดือน ห้องจะเล็กกว่า "ป้า" หน่อย

 

        เมื่อคิดจากระยะห่างรถไฟฟ้าที่มากกว่าไม่มาก มีความใหม่กว่า ห้องใหญ่กว่า

 

        ผมคาดว่า ค่าเช่าไม่น่าต่างกันเท่าไร ผลตอบแทนค่าเช่าหลังหักค่าใช้จ่าย จะอยู่ที่ประมาณเกือบ 6%/ปี

 

 

 

        อะ สำหรับคนที่สนใจ ไปลงทะเบียนที่นี่ก่อนเลย จะได้ไม่พลาดว่าจะเปิดขายเมื่อไหร่ มีโปรอะไรบ้าง

 

        มานั่งนึกๆดู ถ้าไม่ได้มีสถานการณ์โรค Covid-19 บางที ราคาที่เห็น อาจไม่ใช่ตัวเลขแบบนี้ก็เป็นได้นะ