ใครๆ ก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเองทั้งนั้น แต่การจะเก็บเงินซื้อบ้านบางครั้งมันก็หนักหนาสาหัสเอาการอยู่ เพราะงั้นการเข้ามาของ "สินเชื่อ" จึงเป็นเหมือนตัวช่วยที่ทำให้เรามีเงินก้อนมาช่วยซัพพอร์ตตรงนี้ได้ดีกว่าเดิม
และหลายคนเองก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วล่ะว่าสถาบันการเงินทั้งหลายนั้นล้วนแล้วแต่มีสินเชื่อดีๆ มาเสนอเราเยอะแยะ
และหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถทำให้เราเข้าถึงเงินก้อนมหาศาลได้ก็คือ "สินเชื่อบ้านแลกเงิน" นี่แหละ
หลายๆ คนก็อาจจะสงสัยว่าสินเชื่อบ้านแลกเงินนี่มันคืออะไร แล้วเอาไปทำอะไรได้บ้าง ฟังดูจากชื่อแล้วเหมือนจะน่ากลัว เพราะเหมือนเอาบ้านไปแลกเป็นเงิน แล้วทีนี้จะยังอยู่บ้านได้หรือเปล่า? คำถามเยอะแยะมากมายชวนให้สับสนไปหมดจริงๆ ครับ
สินเชื่อบ้านแลกเงินคืออะไร?
ถ้าอธิบายสั้นๆ แบบรวบรัด สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home for Cash) ก็คือ การขอสินเชื่อโดยการนำอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยไปแลกเพื่อให้ได้เงินก้อนมานั่นเอง
มันคือสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ทำให้เราได้เงินก้อนมาเยอะมาก โดยคนที่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยแบบผ่อนหมดแล้ว ไม่มีภาระหนี้สินต่างๆ แล้ว ก็เอาไอ้สินทรัพย์ตรงนี้นี่แหละครับมาจำนองกับทางธนาคารเพื่อที่จะนำไปขอกู้เงินเพื่อใช้จ่ายหรือลงทุนในส่วนต่างๆ ต่อไป
จะบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม คอนโด ก็ได้ทั้งนั้น บางธนาคารเค้าอาจรวมถึงที่ดินด้วยซ้ำครับ แต่ต้องย้ำตรงนี้อีกครั้งนะว่าต้องเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภาระ หรือเราเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์เท่านั้น!
หลักเกณฑ์ก็คล้ายกับการขอสินเชื่อบ้านเลย คือวงเงินกู้ไม่เกิน 70-80% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ โดยมีระยะเวลาในการกู้ไม่เกิน 30 ปี ดอกเบี้ยแพงกว่าการขอสินเชื่อบ้าน แต่ว่าถูกกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลบางประเภท อัตราดอกเบี้ยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 5% ต่อปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหรือโปรโมชั่นของสถาบันการเงินในแต่ละปีครับ
สินเชื่อบ้านแลกเงินเหมาะกับใคร?
สินเชื่อประเภทนี้เหมาะกับคนที่มีอสังหาริมทรัพย์ที่ปลอดภาระและอยากได้เงินก้อนจำนวนมากมาใช้ โดยมากก็จะเป็นคนที่อยากจะรวมหนี้ทุกอย่างเข้าด้วยกันให้เป็นก้อนเดียว ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้รถ หรือหนี้อื่นๆ ที่ดอกเบี้ยมันสูง พอเอามารวมกันแล้วมันก็จะเหลือเพื่อหนี้เดียว ดอกเบี้ยน้อยสุด ลดได้ทั้งต้นทั้งดอก พูดง่ายๆ คือ โปะหนี้ได้ไว และเสียดอกน้อย
และยังมีอีกกลุ่มที่ขอสินเชื่อประเภทนี้เพราะต้องการเงินทุนไปหมุนทำธุรกิจต่อไป หรือกลุ่มคนที่อยากจะรีโนเวทบ้านก็เหมาะกับสินเชื่อประเภทนี้เหมือนกัน เพราะเรื่องนี้มีค่าใช้จ่ายสูง อยู่ในหลักแสนหรือหลักล้าน การใช้เงินก้อนนี้มาซัพพอร์ตก็เป็นตัวเลือกที่คนใช้กันเยอะครับ
ทำยังไงถึงจะขอสินเชื่อผ่านฉลุย
ขั้นแรกเลยก็คือเตรียมตัวให้พร้อม ถือเป็นเรื่องเบสิกอันดับหนึ่งที่ต้องทำไม่ว่าจะขอสินเชื่อประเภทใดก็ตาม อันดับแรกคือต้องเตรียมตัวครับ ดูว่าประวัติทางการเงินเราดีหรือเปล่า เพราะหากว่าเรามีประวัติเสีย ธนาคารก็อาจจะปฏิเสธเราได้นะ
เอกสารต่างๆ ก็ต้องเตรียมให้พร้อม ซึ่งเอกสารที่จำเป็นต้องใช้นั้นก็เหมือนกับเวลาที่เราขอสินเชื่อทั่วไปเลยคือ เอกสารยืนยันตัวตน (สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ), เอกสารยืนยันรายได้ (หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน ฯลฯ), เอกสารยืนยันหลักทรัพย์ (สำเนาโฉนดที่ดิน รูปถ่ายบ้านที่ใช้ขอสินเชื่อ)
หลังยื่นเอกสารแล้วธนาคารจะส่งตัวแทนเข้ามาประเมินสภาพบ้านที่ขอสินเชื่อครับ สำหรับขั้นตอนนี้อาจจะมีการเรียกเก็บค่าประเมินนะ แต่หลายๆ ครั้งธนาคารจะมีโปรโมชั่นให้ ก็ต้องรอติดตามกันเป็นช่วงๆ ไป
พอข้อมูลครบถ้วนธนาคารก็จะแจ้งผลพร้อมอัตราดอกเบี้ยให้เราทราบ ถ้าเราตกลงตอบรับวงเงินกู้ก็เริ่มทำสัญญาได้เลย
อย่าลืมว่าในขั้นตอนเหล่านี้จะมีค่าใช้จ่ายด้วยนะครับ แต่ว่าธนาคารบางแห่งเค้ามีโปรโมชั่นให้กับผู้กู้อยู่เรื่อยๆ และธนาคารส่วนใหญ่มักจะหักค่าใช้จ่ายก่อนมอบเงินให้กับผู้กู้อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ต้องกังวลมากไปนะ
สินเชื่อบ้านแลกเงินก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ทำให้เราได้เงินก้อนโตมาสำหรับใครที่อยากใช้เงินเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าขั้นตอนในการขอกู้อาจจะนานไปบ้างแถมยังต้องเสียค่าใช้จ่ายอีก แต่ข้อดีคือเป็นสินเชื่อที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด วงเงินกู้สูง แถมมีระยะเวลาการผ่อนที่ยาวนานกว่าสินเชื่อชนิดอื่นๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก่อนกู้ก็ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนตัดสินใจครับ หาข้อดีข้อเสียและความจำเป็นในการกู้เอาไว้ก่อน เช็ครายละเอียดต่างๆ ให้ดี ศึกษาและหาโปรโมชั่นจากหลายๆ ธนาคารเพื่อนำมาเปรียบเทียบหาธนาคารที่ดีที่สุด จะได้กู้ได้มากขึ้น แต่จ่ายได้ถูกลง ไม่เป็นภาระของตัวเองในอนาคต
Tag :
ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
"PASSION LIVING" คือชื่อที่อนันดาใช้สำหรับแปะป้ายพื้นที่โครงการครับ
'PYNN Pridi 20' (พินน์ ปรีดี 20) คอนโดใหม่แถวซอยปรีดีฯ 20 จากภาพที่เห็นตอนเปิดตัว ก็พอทราบแล้วว่าแบรนด์ 'PYNN' เป็นแบรนด์ที่แสนสิริเค้าน่าจะปั้นให้มีจุดเด่นในแง่ของการเป็นคอนโดเล็กๆ ในซอยสงบๆ เน้นความเป็นส่วนตัวสูงและสามารถเลี้ยงสัตว์ได้
ตั้งแต่เปิดปีมาคอนโดภายใต้แบรนด์ 'MUNIQ' (มิวนีค) สามารถกวาดยอดขายช่วงพรีเซลไปได้แบบโกยได้โกยของแท้ เค้าเป็นแบรนด์ที่ทำให้ตอนนี้เมเจอร์ยอดขายรอรับรู้รายได้หรือ Backlog มากกว่า 4,400 ลบ. แล้วครับท่านผู้ชม!!
หน้าร้อนกำลังจะผ่านไป และฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำกำลังก้าวเข้ามา ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ
ตอนนี้จ้าวแคมปัสคอนโดของตลาดอสังหาบ้านเรา ไม่ต้องให้ใบ้ก็ตอบได้ว่าคือ“แอสเซทไวส์” นี่แหละ
หมู่บ้านต้องมีไม่เกินกี่หลัง ถึงจะเรียก Private ถ้าแค่ 1 หลัง Private พอมั้ย? ‘แสนสิริ‘ เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘ELSE’ เป็น EXCLUSIVE RESIDENCES ทำโครงการไม่เกิน 10 หลัง!
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอะไรให้เราว้าวอยู่ตลอดเวลาจริงๆ นะ อย่างล่าสุดเค้ากำลังทำการสร้าง สนามบิน Lishui (หลี่ซุย) แห่งใหม่ในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งพี่จีนไม่ได้สร้างให้เป็นแค่สนามบินธรรมดา แต่นี่คือสนามบินที่สร้างในสวน เป็นรูปแบบของสนามบิน "Forest City" !!
หลังจาก "Emsphere" ห้างใหม่ในกลุ่ม "Em District" เปิดตัวไป ก็เพิ่มกระแสให้กับพื้นที่รอบด้านได้เพียบเลย ขนาดแค่เปิดตัววันแรกคนก็มหาศาล เรียกว่าสมราคาตระกูล Em สุดๆ
คิดจะพักคิดถึงคิทแคท แต่ถ้าคิดถึงโดนัทอร่อยๆ ก็ต้องคิดถึงคริสปี้ ครีม ดิค้าบบ ไปลองกันยัง “คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) กับ 3 โดนัทหน้าพิเศษสุดฟิน!!