1. คุณนพ พงศธร ธนบดีภัทร CEO และผู้ก่อตั้ง “REFINN”
2. เชฟยีสต์ นกุล กวินรัตน์ หัวหน้าเชฟ “ร้าน The Never Ending Summer”
3. คุณเต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ “ผู้กำกับภาพยนตร์และโฆษณา”
โดยวัตถุประสงค์ของการพูดก็คือ “การเปิดพื้นที่ในการส่งต่อ Ambition ให้คุณเอาชนะตัวเอง” ก่อนฟังทั้ง 3 คนนี้พูด สารภาพว่าผมรู้จักแค่ “พี่เต๋อ” คนเดียว เพราะผมเป็นแฟนหนังของค่าย GDH อยู่แล้ว ขณะที่ REFINN ผมรู้จักแค่เว็บไซด์ แต่ไม่รู้จัก “คุณนพ” เลย ส่วน “เชฟยีสต์” และร้าน “The Never Ending Summer” บอกเลยว่าไม่รู้จัก ฮ่าฮ่าฮ่า แต่พอฟังทั้ง 3 คนพูดจบแล้ว บอกเลยว่า “สนุกมาก” โดยเฉพาะ “เชฟยีสต์” ผมตั้งใจว่าจะตามไปชิมที่ร้าน The Never Ending Summer แน่นอน!!! ก่อนที่แขกทั้ง 3 คนจะขึ้นมาพูด คุณอรนุช MD ของ พฤกษาพรีเมี่ยมคอนโด ก็ได้ขึ้นมาเฉลยก่อนว่า “เสือสีขาว” ที่เห็นก็คือ “เสือหิมะ” ซึ่งเป็นเสือที่มีสัญชาตญาณ “นักล่า” สูงมาก สามารถล่าเหยื่อที่ใหญ่กว่าตัวเองถึง 3 เท่า และวิ่งล่าเหยื่อได้ถึงวันละ 7 กม. ล่าเหยื่อจากที่สูงก็ถนัดนัก พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นเสือที่มี “Ambition” สูงมั่กๆ “เสือหิมะ” จึงเป็นตัวแทนของคำว่า “Ambition” ซึ่งทางพฤกษาได้ใช้ “คอนเซปต์” นี้มาเป็นแรงบัลดาลใจในโครงการ “The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์” เพื่อตอบโจทย์คนที่มี “Ambition” ในการใช้ชีวิต คอนโดที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง แต่ก็มีพื้นที่ให้ทำงาน 24 ชม. มีบริการระดับโรงแรมทำให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น และทำเลใกล้ BTS ก็ทำให้การเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนสะดวกและรวดเร็ว และด้วยเหตุนี้ Speaker ทั้ง 3 คน ที่ผ่านการต่อสู้ในสายอาชีพของตัวเองและประสบความสำเร็จจึงได้รับเชิญให้มาพูดเพื่อเป็นตัวแทนในการส่งต่อ “Ambition” ให้กับคนอื่นๆ ต่อไป โห ... ถ้าไม่ได้ฟังก็ไม่ “เก็ท” คอนเซปต์นะเนี่ย แต่พอรู้แล้วก็ “อิน” เลย ทั้ง 3 คน ผ่านบททดสอบชีวิตมามากมาย โดยเฉพาะ “เชฟยีสต์” ที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย แต่ชีวิตน่าสนใจมาก เชื่อมั้ยว่าการทำอาหารของเชฟเริ่มต้นมาจากการป่วย "โรคสะอึกไม่หยุด" และหมอบอกว่าต้องกินอาหารแบบนี้นะ ถึงจะหาย เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการทำอาหาร!!!! ลองไปหาฟังกันได้นะครับ ทางพฤกษาเค้ามีอัพคลิปลง เพจ “The Reserve” ให้ดูกันทั้งหมดเลย รับรองสนุกและได้ประโยขน์มากมาย (ลองไปดูกันได้ที่นี่เลย)คอนเซปต์ STYLISH IS MODERN TIMELESS อธิบายได้ว่า เลือกใช้วัสดุที่เรียบง่าย หรูหรา แต่มีความร่วมสมัย เช่น กระจก เหล็ก แสตนเลส และพื้นผิวลายหิน ทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบที่มีความเรียบ เท่ และสามารถอยู่คู่กับกาลเวลาได้ยาวนาน
รูปแบบตึกได้แรงบันดาลใจมาจาก “สวนสน” ของถนนประดิพัทธ์ในสมัยก่อน “Pine Urban Forest” มีต้นไม้สูงล้อมรอบโครงการ ทำให้เหมือนหลบความวุ่นวายจากภายนอกได้อีกด้วย
ครั้งแรกที่ผมได้เห็น “Perspective” ของตึก ผมอุทานเลยว่า “เฮ้ย สวยมาก” ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้บ่อยนัก เพราะผมเห็นแบบคอนโดมาเป็นร้อยๆ แบบ ดังนั้น ถ้าสวยปกติ ผมก็จะเฉยๆ นะ
โครงการมีเพียง 260 ยูนิต ซึ่งถือว่า “Private” มาก ที่จอดรถมี 65% โดยมีทั้งแบบปกติและ “Auto Parking” และแน่นอนว่าต้องมี Electric Car Charger ไว้เติมไฟฟ้าให้กับรถใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนแน่นอน
โครงการมีห้อง 3 แบบ คือ
1-bedroom LOFT
1-bedroom
1-bedroom plus
ซึ่ง Hi-light ก็คือห้องแบบ 1 Bed LOFT ที่คอนเซปต์ก็คือ Oversized Living Space การขยายพื้นที่ห้องนั่งเล่นให้กว้างและมีความสูง 4.4 เมตร สูงกว่าคอนโดทั่วไป ซึ่งก็จะเพิ่มความโปร่งให้กับการอยู่อาศัยได้มากทีเดียว เป็น Product ที่แตกต่างและดีที่สุดในย่านพหลโยธินผมว่ามันจะเป็นโรงแรมแล้วล่ะ มีอะไรให้บ้างลองอ่านดู Concierge Service by The Reserve อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ช่วยเหลือในกิจธุระเล็กๆน้อยๆ เช่น บริการซักรีด บริการรับส่งพัสดุ บริการจองตั๋วต่างๆ เป็นต้น บริการ On-Demand Facility Control เป็นอุปกรณ์ Mobile Application จากทางโครงการ ที่ช่วยให้การใช้งาน Facility 24 ชั่วโมงเกิดขึ้นได้จริง ด้วยระบบการจองสิทธิ์และบันทึกเวลาการใช้ง่าย ผ่านการควบคุมจากนิติบุคคลฯ พร้อมอุปกรณ์ Motion Censor และ Timer ที่จะช่วยควบคุมการใช้งานของระบบปรับอากาศและแสงสว่างให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง
บริการ High Speed Wireless Internet ในพื้นที่ล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลางของทั้งโครงการ
อย่างที่โครงการพยายามจะนำเสนอครับ “เสือหิมะ” หมายถึง คนที่มีไฟในการทำงานเพื่อจะไปสู่ความสำเร็จ โครงการตอบโจทย์ในแง่ของที่อยู่อาศัยที่ให้ “ปัจจัย” เหล่านี้มาสนับสนุน “ไลฟ์สไตล์” คนทำงานกลางเมือง ที่ต้องเดินทางเข้าเมือง สามารถใช้รถไฟฟ้าเพื่อย่นระยะเวลาในการเดินทาง แต่พอกลับมาพักผ่อน ก็สามารถหลบหนีจากความวุ่นวายภายนอกได้อย่างหมดจด ทั้งในบริเวณโครงการหรือภายในห้องที่มีมุมมองที่ปลอดโปร่งขึ้น แต่การทำงานก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ส่วนกลางที่ตอบโจทย์การทำงานตลอด 24 ชม. และยังสามารถใช้เป็นที่พักผ่อนไปในตัวได้อีกด้วย
บริการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมาก็ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าทำให้เรามี “เวลา” ไปใช้กับสิ่งที่เป็นเป้าประสงค์ของเราได้มากขึ้นอีกด้วย จำนวนยูนิตที่น้อยลงก็หมายถึงความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น บนทำเลที่น่าอยู่อาศัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ด้วยราคาระดับ “แสนกลางๆ ต่อตารางเมตร” ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็น “เสือหิมะ” แล้วละก็ “The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์” คือ หนึ่งในคอนโดที่ตอบโจทย์คุณได้อย่างลงตัวครับ