แน่นอนว่าการเลือกซื้อคอนโดสักโครงการนึง เรื่องสูตร "location x3" เป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงอยู่แล้ว เพราะถ้าทำเลมันได้ อะไรๆ มันก็ราบรื่นไปทั้งหมด
แต่การเลือก "ตำแหน่งห้อง" ก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ ในคอนโด 1 โครงการ ราคาของแต่ละตำแหน่งก็แตกต่างกันไป ทั้ง ชั้น วิว ทิศ ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อมูลค่าของห้องทั้งสิ้น
ผมเคยมีเคสของพี่ชายคนสนิท ที่เลือกตำแหน่งห้องตอนซื้อมาห่างกันนิดเดียว ราคาก็เท่ากัน แต่ตอนขายออกไป ราคากลับแตกต่างกันมาก คือจริงๆ มันก็กำไรแหละ แต่กำไรแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
คำถามที่ว่า "โครงการนี้เลือกห้องไหนดีครับ/คะ" ผ่านเข้ามาใน Inbox ของเพจบ่อยมาก หลังจากนี้ผมจะพยายามคัดโครงการยอดนิยมมาทำการวิเคราะห์ภายใต้ชื่อคอลัมน์ "ทิศไหนใช่ วิวไหนชอบ"
แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่า การวิเคราะห์นี้เป็นความเห็นของผมเอง ซึ่งผมก็เคารพในความคิดเห็นของทุกๆ คน ถ้าใครเห็นต่างก็เข้ามาถกเถียงกันได้ เพราะผมบอกได้เลยว่า จากการดูคอนโดมา 10 กว่าปี "แปลนหน้ากระดาษ กับ ของจริง ไม่เหมือนกันเลย" บางห้องที่ฮอตๆ ตอน Pre-Sale กลายมาเป็นธรรมดาตอนสร้างเสร็จ แต่บางห้องที่คนหนี กลายมาเป็นตำแหน่งเทพก็มี!!!
บทความแรกของเริ่มที่โครงการใหม่ ออกจากเตาของ "พี่แอพ" อย่าง "Life Ladprao Valley” (ที่หลายคนเรียก Life Ladprao 2 แต่ "พี่แอพ" ยืนยันว่าไม่ใช่นะครับ ฮ่าฮ่า)
ไลฟ์ วัลเล่ย์ ลาดพร้าวหรือ ไลฟ์ แวลลี่ย์ ลาดพร้าว ตามสำเนียงเปื้อนเนยอย่างผม (อิอิ) อยู่ตรงข้ามกับ "เซ็นทรัล ลาดพร้าว" กับ "รร.หอวัง" แต่ละทิศของตึกเป็นอย่างไร ลองไปแยกแยะกันดู
ทิศเหนือ
หันเข้า "ถ.พหลโยธิน" ฝั่งที่มุ่งหน้าไปสี่แยกรัชโยธิน สิ่งที่เราเห็นจากทิศนี้ก็คือ คอนโดชื่อเหมือนโรงหนัง 44 ชั้น รวมถึง คอนโดตัวพี่ Life Ladprao ส่วนวิวกว้างๆ ก็จะเห็น เซ็นทรัล ลาดพร้าว และ รร.หอวัง ขณะที่ในตัวโครงการจะเห็นวิว Avalon สระว่ายน้ำและสวนที่ชั้น 6
ทิศตะวันออก
หันเข้า "ถ.รัชดาภิเษก" แบบไกลๆ พอจะเห็นตึกสูงอยู่ไกลๆ บ้าง ระยะใกล้ๆ ส่วนใหญ่เป็นบ้านคน
ทิศใต้
หันเข้า "ถ.ลาดพร้าว" ในระยะใกล้ๆ และสวนจตุจักรในระยะถัดไป คอนโดที่จะเห็นจากทิศนี้คือ คอนโด "นักบุญ" 41 ชั้น ที่สร้างเกือบเสร็จเต็มที รวมถึง "ยูเนี่ยน มอลล์" ของสาวๆ ด้วย
ทิศตะวันตก
หันเข้า "สวนจตุจักร" เป็นหลัก รวมถึง "เซ็นทรัล ลาดพร้าว" ด้วย ขณะที่ในตัวโครงการจะเห็นวิว Avalon สระว่ายน้ำและสวนที่ชั้น 6 เช่นเดียวกับทิศเหนือ
ทิศไฮไลท์ของ Life Ladprao Valley คงหนีไม่พ้น "สวนจตุจกัร" พื้นที่สีเขียวอันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งเราจะมองเห็นได้เต็มๆ ที่ "ทิศตะวันตก" และ เห็นได้เช่นกันที่ "ทิศใต้"
แน่นอนว่า "ทิศตะวันตก" มีจุดอ่อนเรื่อง "ร้อน" เสมอมา แต่การได้ Take View สวนขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เช่นนี้ก็พอหักล้างได้
ห้อง A101 Studio ขนาด 28.8 ตร.ม. เป็นตัวที่น่าสนใจ เพราะห้อง Studio มีเพียงแค่ 17% ของห้องทั้งหมดในโครงการ อาจจะมีจุดอ่อนตรงอยู่ติดลิฟต์ ซึ่งต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีการก่อสร้างทำให้เรื่องเสียงรบกวนไม่มีแล้วนะครับ (แต่เชื่อว่าก็อาจจะมีคนที่กังวลจากหน้ากระดาษ) แต่ห้องนี้สามารถบอกได้ว่าเป็นห้อง Studio เพียงห้องเดียวที่หันหน้าเข้าสวนจตุจักรแบบเต็มๆ
ห้อง B104 ขนาด 35 ตร.ม. แบบ 1- bedroom แบบพิเศษ ที่มีส่วนของห้องนอนยื่นออกไปเหนือระนาบของอาคารเพียงห้องเดียวในทิศนี้ ไม่ต้องก็รู้ว่าน่าสนใจตรงไหน เกินหน้าเกินตาเพื่อนบ้าน (ห้อง) จริงๆ
อีกวิวที่น่าสนใจเป็นวิวของโครงการเองอย่าง "วิวสระและสวน" Avalon ที่ชั้น 6 แต่ต้องบอกเลยว่าใครจะเน้นวิวสระของทุกโครงการจะต้องมีระยะชั้นที่สูงขึ้น ไปกว่าชั้นสระหรือสวนไม่มากเกินไปนัก เพราะถ้าสูงขึ้นมากเกินไปก็ไม่เห็นอะไรอยู่ดีครับ อย่างผมจะขอไม่เกิน 7 ชั้น (ตัวเลขนี้ผมคิดเองนะครับ ไม่มีหลักการใดๆ ตายตัว) จากชั้นสระและสวน อย่างที่ Avalon ชั้น 6 แปลว่าวิวสระสำหรับผมจะไม่เกินชั้น 13 ถ้าเลยจากนี้ก็จะไปเล่นชั้นสูงๆ เลย
มาดูฝั่ง "ทิศใต้" กันบ้าง ทิศยอดฮิตในการรับลมของคนไทย นอกจากเย็นสบายแล้ว ยังแอบเห็นสวนจตุจักรด้วยนะ ผมแอบชอบทิศนี้ที่สุดนะครับ
ห้อง A118, A119 ห้องคู่ Studio ขนาด 28.8 ตร.ม. ยังน่าสนใจเช่นเดิม ด้วยความที่มีจำนวนน้อย
ห้อง B122, B123 ห้องขนาด 35 ตร.ม. แบบ 1-bedroom แบบพิเศษ ที่ทิศนี้มาแบบแพ็คคู่ ก็น่าจิ้ม เพราะการยื่นออกไปทำให้เห็นวิวสวนได้งดงามขึ้น
แต่ที่สุดของทิศนี้คือ ห้อง G125 แบบ 2 - bedroom 66.5 ตร.ม. ห้องหัวมุม ที่ Take View แบบ 2 ทิศทาง ทั้งใต้และตก เอาสวนจตุจักรไปนอนกอดเลย ที่สำคัญ Type นี้มีเพียง 3% ของทั้งโครงการ
มาดู "ทิศตะวันออก" กันบ้าง นี่คือทิศยอดนิยมของคนไทย เพราะไม่ร้อนมาก
ห้อง A114 แบบ Studio 28.8 ตร.ม. มาแอบอยู่ห้องเดียวในทิศนี้ แต่ก็มีความกังวล ห้อง B415 จะมาเหลื่อมนิดๆ แต่จากประสบการณ์ ผมว่าตอนสร้างเสร็จไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ห้อง B110, B111 ห้องขนาด 35 ตร.ม. แบบ 1-bedroom แบบพิเศษ มาเป็นคู่ แอบโดดเด่นอยู่ตรงกลาง อันนี้จัดได้ สวยงามตามท้องเรื่อง
"ทิศเหนือ" ดูๆ แล้ว ถ้าเอาให้สุดไปเลยขอแนะนำ F126 แบบ 2-bedroom ขนาด 60 ตร.ม. ไปเลย เพราะสามารถ Take View ไปทางตะวันตกเห็นสวนจตุจักรได้ด้วย และ Type นี้ก็มีเพียง 3% เช่นกัน
และสำหรับวิวสระก็เหมือนทิศตะวันตกครับ คือเลือกไม่เกินชั้น 13 ครับ
สรุป
จากที่วิเคราะห์มาทั้งหมด ผมขอเรียงลำดับทิศและตำแหน่งที่น่าสนใจในความเห็นผมดังนี้
1. ทิศใต้ : G125, A118-119 และ B122-123
2. ทิศตะวันตก : B104 และ A101 (หรือวิวสระไม่เกินชั้น 13)
3. ทิศตะวันออก : B110-111 และ A114
4. ทิศเหนือ : F126 (หรือวิวสระไม่เกินชั้น 13)
อย่างที่บอกนะครับ นี่คือความเห็นส่วนตัวของผม ใครไม่เห็นด้วยก็แสดงความเห็นกันเข้ามาได้ และก็ไม่ได้แปลว่าห้องอื่นๆ ที่ผมไม่เลือกจะไม่น่าสนใจนะครับ เพราะผมเชื่อว่าคนออกแบบเค้าคิดมาแล้วว่าทุกห้องก็มีข้อดีเป็นของตัวเอง
ย้ำกันอีกทีว่าทาง “พี่แอพ” เค้าจะเปิดจอง
iBooking วันที่ 26 ก.ค.เวลา 19.00-21.00 น. อยากให้ทุกๆคนไปเตรียมความพร้อมกันให้พร้อมเพราะเชื่อว่าห้องจะขึ้นสีแดงกันเร็วมากๆๆ หรือใครที่ไม่ทันก็ไปเจอกันวัน
Pre-sale 4-5 ส.ค. นี้ครับ ยังไงลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด
200,000 บาทกันก่อนได้ที่
Life Ladprao Valley
รอฟังความเห็นจากทุกคนครับ
#คอนโดติดดอย #LifeValley #LifeLadpraoValley #Lifeวัลเล่ย์ #Lifeแวลลี่ย์ #LifeLadprao2