ผมเคยนำเรื่องของนวัตกรรมการก่อสร้างแห่งยุคอนาคตมาเขียนอยู่ครั้งสองครั้ง หนึ่งในนั้นคือนวัตกรรมสิ่งปลูกสร้างจาก 3D Printer หรือว่าเครื่องพิมพ์ 3 มิตินี่แหละ

        สิ่งปลูกสร้างที่ทำจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ดูไม่ใช่เรื่องใหม่มากมายอะไรนักสำหรับปี 2024 แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันยังไม่ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือหลักในการสร้างบ้านยุคปัจจุบัน

        แต่ล่าสุดสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากไปเยือน ได้ทำการสร้าง Tor Alva (เดอะ ทอร์ อัลวา) ซึ่งเป็นหอคอยที่ว่ากันว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างจากเครื่อง 3D Printer ครับ

        หอคอย 'Tor Alva' สร้างอยู่ในหมู่บ้าน Mulegns ซึ่งต้องบอกว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลในเทือกเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์ 

        ซึ่งหมู่บ้านนี้แทบจะเหมือนหมู่บ้านร้างเลยก็ว่าได้เพราะมีประชากรอาศัยอยู่ที่นี่ลดลงอย่างมาก นับตั้งแต่ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 และอาคารหลายหลังถูกทิ้งร้างและว่างเปล่า เชื่อไหมครับว่าทุกวันนี้มีคนอาศัยอยู่ที่นี่ประมาณ 16 คนเท่านั้นเอง 

        โดยจุดมุ่งหมายของการสร้างหอคอย 'Tor Alva' คือการฟื้นฟูหมู่บ้าน และพื้นที่นี้ให้น่าสนใจแก่ผู้มาเยือน โดยหอคอยนี้จะถูกสร้างมาเป็นหอคอยสีขาว ที่ล้อมรอบด้วยยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะของเทือกเขาแอลป์ของสวิส ตั้งตระหง่านขึ้นมาจากหุบเขาที่ดูเหมือนต้นไม้โบราณ มีความสูงอยู่ที่ 30 ชั้น

        ซึ่งการก่อสร้างครั้งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Michael Hansmeyer และ Benjamin Dillenburger ซึ่งเป็นทั้งผู้บุกเบิกด้านการออกแบบทางคอมพิวเตอร์และการประดิษฐ์ทางดิจิทัล ภายใต้การดูแลของ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธรัฐสวิส (ETH) ในซูริก

        และแม้ว่าการพิมพ์คอนกรีตแบบ 3 มิติจะมีมาหลายปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่กระบวนการนี้สามารถรวมเหล็กเส้นหรือแท่งเสริมเหล็กเข้าด้วยกัน ทำให้โครงสร้างมีความมั่นคงในการก่อสร้างสูง ตัวอาคารประกอบด้วยเสาสำเร็จรูป 32 เสา ซึ่งสามารถพิมพ์และประกอบที่ไซต์งานได้อย่างง่ายดาย มีทั้งหมด 5 ระดับ ซึ่งจะสว่างขึ้นและโปร่งสบายมากขึ้น ไปจนถึงทรงโดมที่อยู่ด้านบนสุด

        โดยเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เค้าได้เริ่มกระบวนการพิมพ์เสากลม 8 เสาแรกของหอคอยชั้นล่าง โดยองค์ประกอบทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 900 ชั่วโมงในการพิมพ์ 3 มิติ

        Tor Alva  จะมีกำหนดเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้ โดยหอคอยจะถูกใช้เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงงานศิลปะ ดนตรี และการแสดงละคร สามารถรองรับผู้ชมได้สูงสุด 45 คน และจะประจำอยู่ที่หมู่บ้าน Mulegns ตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนกว่าจะถูกแยกชิ้นส่วนในปี 2029 คาดว่าหลังจากนั้นจะเดินทางต่อไปยังที่อื่น