‘หลุยส์ที่ 14’ สร้างฝรั่งเศสให้กลายเป็นผู้นำ Brandname ระดับโลก ผ่านการสร้าง ‘พระราชวังแวร์ซาย’ เมื่อ 400 ปีก่อน

        ปลายปีก่อน ผมดูซีรี่ส์ ‘Versailles’ ที่เป็นประวัติของ ‘พระเจ้าหลุยส์ที่ 14‘ แบบรวดเดียวจบ สนุกมาก การย้ายวังมาอยู่ ’แวร์ซาย‘ คือ การเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลกมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะโลกของ ’แฟชั่น‘ 

        ’หลุยส์ที่ 14’ ทำให้ ‘พระราชวังแวร์ซาย’ กลายเป็นสถานที่จัดแสดงสมบัติและวัฒนธรรมของฝรั่งเศส ทั้งแฟชั่น ศิลปะ ดนตรี สถาปัตยกรรม การแสดง และอาหารชั้นเลิศ

        ฝรั่งเศสต้องการเป็นมหาอำนาจในด้านศิลปวิทยาการและวัฒนธรรม โดยมีแฟชั่นเป็นขุมทรัพย์ 

        เทียบกับปัจจุบันก็อาจจะเหมือน ‘K-Pop’ นั่นแหละ! 

        [แต่ต้องขอบอกว่า ผลของเรื่องนี้ ได้สร้างบาดแผลให้กับประชาชนมากพอสมควร เพราะใช้งบประมาณที่สูงมาก ในสถานการณ์ที่คนกำลังยากลำบาก]

        แต่ไม่ใช่เพียง เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เท่านั้น ที่ ’หลุยส์ 14‘ ส่งมอบมากว่า 400 ปี ยังรวมถึงสิ่งหนึ่งที่ ’ข้ามกาลเวลา‘ มายืนยันความหรูหราของผู้ครอบครองในปัจจุบัน

        ‘เฟอร์นิเจอร์หลุยส์’

        “ผมว่ามันคือ ความคลาสสิค ระยะเวลา 400 ปี ได้พิสูจน์มาแล้วว่ามันอมตะ”

        คุณลี เจ้าของร้าน ‘เสียงไถ่และบุตร‘ ที่ขายเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่านนำเข้าจากยุโรป รวมถึง ‘เฟอร์นิเจอร์หลุยส์’ มากว่า 70 ปี ให้คำนิยาม

        ผมเคยดูรายการเยี่ยมบ้านของ ‘แจ๊ส ชวนชื่น‘ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านของตลกเบอร์ต้นของประเทศ ก็ได้แรงบัลดาลใจมาจาก ‘ราชวงบูร์บง‘ เช่นกัน ทั้งที่ภาพลักษณ์ของ ’พี่แจ๊ส’ คือ เจ้าพ่อแฟชั่นสาย Street 

        นี่แสดงถึงอิทธิพลอันแข็งแกร่งทางความคิด ที่ข้ามกาลเวลามาอย่างยาวนานของ ‘เฟอร์นิเจอร์หลุยส์‘ 

        ผมลองกลับมาถาม ’หม่าม้า’ ว่า รู้จัก ’เฟอร์นิเจอร์หลุยส์‘ กับเค้าหรือไม่?

        ”นี่คือยอดเยี่ยมที่สุดเลย เบอร์ 1 ไม่รู้หรอกว่าประเทศอะไร แต่ดีที่สุด“

        จาก ‘ฝรั่งเศส‘ ดังไกล 400 ปี ถึง ‘เยาวราช‘ 

        “รุ่นบรรพบุรุษผมเคยซักผ้าม่านให้ จอมพลปอ” 

        นี่คือ จุดเริ่มต้นทางธุรกิจของ ‘เสียงไถ่และบุตร’ เพราะไม่ใช่แค่ผ้าม่าน แต่รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ต่างๆ ในบ้านของท่านผู้นำในสมัยนั้น นำเข้าจากยุโรปทั้งสิ้น

        70 ปี ที่ผ่านมา [Since 1952] ‘เสียงไถ่และบุตร’ ยังคงคอนเส็ปต์ ’เฟอร์นิเจอร์และผ้าม่าน‘ Hi-End นำเข้าจากยุโรป มาโดยตลอด รวมถึง งานรีโนเวท แก้ไข ซ่อมแซม ของระดับ ‘หลายร้อยปี‘ ที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ 

        “ของบางชิ้น เราใช้เวลาซ่อมแซมเป็นปีๆ แต่เจ้าของก็ยังรอ เพราะไม่ไว้ใจคนอื่น”

        ’เสียงไถ่และบุตร’ คือ สัญลักษณ์ของความน่าเชื่อถือ

        ผมเดินเพลิดเพลินอยู่ในร้านที่ตั้งอยู่ปากซอย ‘สุขุมวิท 28‘ นานกว่า 3 ชั่วโมง เหมือนได้เรียนรู้วิชาช่างเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม 

        “หมุดบางอัน เราใช้เวลาตอกลงบนเก้าอี้เป็นวันๆ ตอกทีละหมุด ถ้าเบี้ยวก็เสียเลยนะ เพราะนำเข้าหมุดจากฝรั่งเศส ราคาสูงมาก” 

        เล่นเอาผมไม่กล้าลองนั่งเลย [ถึงคุณลีจะกำชับว่า เมื่อทำเสร็จแล้วมันแข็งแรงมาก อยู่ได้อีกนาน]

        ผมได้รู้จัก ’ภู่รวบม่าน‘ (Tassel) นำเข้าจากเยอรมัน ที่ทั้งหรูหราและแข็งแรง (ไว้รวบม่านตามวังที่มีน้ำหนักสูงมาก) , ’มงกุฏหัวเตียง‘ (Tiebacks) ที่เป็นรูปมงกุฏ ที่หาไม่ได้แม้แต่ในคอนโดตารางเมตรละหลายแสนบาท , ผ้าม่านที่มีดิ้นทอง ราคาหลาละ 5,000 บาท!!! ที่สวยแบบตะโกน!!! 

        ก่อนจากกัน ’คุณลี’ ถามผมว่ารู้สึกอย่างไรกับร้านของแก ผมตอบอย่างรวดเร็ว

        “ยูนิค luxury และอมตะ”

        เหมือน ‘เฟอรนิเจอร์หลุยส์’ ที่ข้ามผ่านกาลเวลามากว่า 400 ปี 

        ใครที่กำลังแต่งคอนโดหรือบ้าน และชื่นชอบ ‘แวร์ซาย สไตล์‘ แบบนี้ ผมแนะนำให้ลองไปเยี่ยมชมร้าน ’เสียงไถ่และบุตร‘ ดู

        ถ้างบประมาณไม่ใช่ข้อจำกัด รับรองว่าต้องมีจัดมาสักชิ้น!!