ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย เผยบทวิเคราะห์ฉบับพิเศษถึงเสน่ห์ของการอยู่อาศัยริมแม่น้ำในประเทศไทยที่ยังคงน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนและผู้ซื้อบ้านอยู่เสมอ โดยการเพิ่มขึ้นของความต้องการที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่ยั่งยืนของโครงการคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำและริมทะเลมากทีเดียวครับ

        การวิเคราะห์อย่างครอบคลุมนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2023 เผยให้เห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านอุปทาน ซึ่งเน้นย้ำถึงความน่าสนใจอย่างต่อเนื่องของอสังหาริมทรัพย์นี้ โดยอุปทานสะสมของคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำและริมทะเลเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 8.2% ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2022 ตามมาด้วยการเพิ่มขึ้นอีก 8.8% ในปี 2023 

        อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวนี้ยังคงถูกจำกัดโดยความขาดแคลนที่ดิน และแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานครกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการอยู่อาศัยริมแม่น้ำระดับพรีเมียม โดยมีส่วนแบ่ง 2.3% ของอุปทานทั้งหมดภายในสิ้นปี 2023 ขณะเดียวกัน พัทยา หัวหิน และภูเก็ตต่างก็สร้างเอกลักษณ์ของตนเองในตลาด โดยมีทิศทางที่แตกต่างกันซึ่งถูกกำหนดโดยปัจจัยทางภูมิศาสตร์และการพัฒนาเฉพาะตัว

        ภาพรวมของโครงการที่กำลังดำเนินการและโครงการที่เสร็จสมบูรณ์สะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งของส่วนตลาดคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำ แม้ว่าอัตราการขายจะต่างกันในแต่ละพื้นที่ แต่แนวโน้มโดยรวมชี้ให้เห็นถึงความต้องการที่ดีในกลุ่มผู้ซื้อ โดยเฉพาะโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ที่มีอัตราการขายที่โดดเด่น ตลาดมือสองก็มีการเติบโตของราคาขายที่เห็นได้ชัด ภูเก็ตโดดเด่นในด้านการเพิ่มขึ้นของมูลค่า โดยมีการเพิ่มขึ้นที่น่าประทับใจถึง 11.2% ในปี 2023 ตามมาด้วยบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาที่ 4.5% ในทำเลที่เป็นที่ต้องการเหล่านี้

        ด้านโซนที่อยู่อาศัยยอดนิยม ยังเป็นพื้นที่สำคัญเชิงกลยุทธ์ เช่น เจริญกรุง - นราธิวาส - พระราม 3 ในกรุงเทพฯ, วงศ์อมาตย์ในพัทยา, เขาตะเกียบในหัวหิน และบางเทา ลากูนา และในทอนในภูเก็ต กลายเป็นแหล่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความใกล้ชิดกับสิ่งอำนวยความสะดวกและพลวัตของความต้องการที่ยั่งยืนนั่นเอง