'dcondo' (ดีคอนโด) นี่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์สุดปังของแสนสิริ เหมือนกันนะ
ผมไม่ปฏิเสธนะว่าแต่ก่อนเวลาผมนึกถึงแบรนด์ 'ดีคอนโด' ก็มักจะมองว่าเป็นแบรนด์ระดับ Economy ราคาจับต้องง่าย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับที่ไม่ได้มีกำลังซื้อสูง
อีกอย่างคอนโดแบรนด์นี้ก็มักจะไปโผล่อยู่ในโซนชุมชนที่อยู่อาศัยกันมาอย่างยาวนาน และไม่ได้โดดเด่นในแง่ของการเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างพวกรถไฟฟ้าเท่าไหร่นัก
ซึ่งถ้าย้อนไปมองเมื่อหลายปีที่ผ่านมา คำนิยามของแบรนด์ดีคอนโดที่ผมคิดเอาไว้ ก็คงจะถูกแหละ
แต่หลังๆ มานี้ ต้องบอกเลยครับว่า เราจะไปจำภาพเดิมๆ ของแบรนด์ 'ดีคอนโด' ว่าเป็นแบรนด์ที่ไม่โดดเด่นเรื่องของทำเลไม่ได้แล้วนะ
เพราะปัจจุบันนี้แบรนด์ 'ดีคอนโด' เค้าเริ่มชูจุดเด่นในการเดินทางใกล้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น และบางโครงการนี่บอกเลยว่า ใกล้ชนิดที่ว่าเดินได้สบายๆ
อย่างล่าสุดกับโครงการ 'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
โดยโครงการ ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40 จะมาในรูปแบบของคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น มี 2 อาคาร โดยโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ จำนวนห้องพักอาศัย 399 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือกหลักๆ ทั้งแบบ 1 Bed 1 Bath , 1 Bed+1 ห้องอเนกประสงค์ 1 Bath ไปจนถึง 2 Bed 2 Bath ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 24.50 ตร.ม. - 45.50 ตร.ม.
มาในคอนเซปต์พักใจ บนพื้นที่ Hideaway ที่ Hide จากความวุ่นวายรอบด้าน แล้ว Seek หาความสุขที่อยู่ใกล้ตัว โอบกอดคุณด้วยธรรมชาติ กับการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ ชาร์จพลังกาย ฟื้นพลังใจ พร้อมลุยออกไปใช้ชีวิตในแบบที่เป็นคุณ
ซึ่งเอาจริงๆ ผมแอบคิดว่า Tive ของโครงการคล้ายๆ ตัว dcondo ธาร จรัญฯ เหมือนกันนะ คิดว่าน่าจะออกแบบมาสไตล์รีสอร์ตเหมือนกัน
มาดูในส่วนของทำเลกัน ตัวโครงการตั้งอยู่ช่วงกลางๆ ซอยรามคำแหง 40 ซึ่งเป็นซอยที่มีสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มอยู่หน้าปากซอยเลย!!!! แถมซอยนี้ยังเป็นซอยที่ทะลุระหว่าง 'ถนนรามคำแหง' และ 'ถนนหัวหมาก' อีกด้วยนะ
ซึ่งถ้าหากว่าเราวัดระยะทางจากที่ตั้งโครงการ มายังสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ที่จะเปิดในอนาคต) กะจากการเดินด้วยตัวเอง และสายตามว่าประมาณ 1-300 เมตรเองนะ ซึ่งบอกเลยว่าเดินชิลๆ
แต่ถ้าเป็นรถไฟฟ้าที่เปิดแล้วในปัจจุบัน ตัวโครงการจะใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีแยกลำสาลีประมาณ 1.5 กม. ซึ่งผมนั่งวินต่อมาแปปเดียว ไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงแล้วครับ
ภายในซอยรามคำแหง 40 ยังเป็นซอยที่มีทั้งอพาร์ตเม้นต์และโรงแรมตลอดเส้นทาง ไม่เปลี่ยวเลย เดินได้สบายไม่น่ากลัว
ตอนนี้เค้าทำ Sale gallery แล้วนะ ตอนผมไปนี่น่าจะ 90% แล้ว เดาว่าวันปล่อยบทความนี่น่าจะเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างแล้วแหละ
ซึ่ง Sale gallery จะอยู่คนละที่กับที่ตั้งโครงการนะครับ ถ้าอิงจาก Google maps จากเว็บของโครงการจะเป็นพื้นที่ล้อมสังกะสีที่อยู่ฝั่งเดียวกับโรงแรม Goody Hotel แต่ว่าฝั่งตรงข้ามโรงแรมก็ดันมีไวนิลติดอยู่เช่นกัน
อันนี้คาดว่าอาจจะเป็นเฟส 2 ของโครงการ คล้ายๆ กับตัว 'ดีคอนโด ธาร จรัญฯ' และ 'ดี คอนโด พนา' ที่พื้นที่โครงการอยู่ติดๆ กันแต่ชื่อโครงการคนละชื่อ อันนี้ย้ำอีกทีว่าผมเดาเอานะ 5555
มาดูการเดินทางสำหรับคนใช้รถใช้ถนนกันครับ อย่างที่บอกว่าโครงการนี้ตั้งอยู่ภายในซอยรามคำแหง 40 ที่สามารถทะลุระหว่างถนนรามคำแหง และ ถนนหัวหมาก ได้
โดยถ้าหากเราออกถนนรามคำแหง อันนี้จะเป็นถนนรามคำแหงฝั่งขาเข้า ตรงนี้ทำให้เราสามารถขับรถมุ่งหน้าเข้าเมืองไปทางถนนประชาอุทิศ โดยจะไปเชื่อมต่อถนนพระราม 9 ได้แบบสะดวกเลย นอกจากนี้เรายังสามารถไปเลือกใช้แยกคลองตัน แล้วหักขวาเข้าเส้นเพชรบุรีได้อีกเส้นทางครับ
แถมเรายังสามารถไปใช้ซอยมหาดไทย เพื่อเข้าถนนลาดพร้าวได้อีกด้วยนะ แต่ถ้าหากว่าเรากลับรถไฟใช้รามคำแหงฝั่งขาออก อันนี้ก็จะเป็นฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังแยกบางกะปิ สามารถเชื่อมต่อเส้นเกษตร-นวมินทร์ มีนบุรีได้เช่นกันครับ ถือว่าเป็นอีกทำเลที่การเดินทางไม่ยุ่งยากซับซ้อน
ส่วนถ้าเป็นเส้นหัวหมาก อันนี้เราสามารถเชื่อมต่อถนนกรุงเทพกรีฑาได้ด้วยนะ ยิงยาวๆ เข้าลาดกระบังได้เลย หรือจะเชื่อมต่อถนนศรีนครินทร์ ไปทางพัฒนาการ อ่อนนุช ยาวไปถึงสมุทรปราการได้เลย ข้อดีคือถนนเส้นนี้ดีมาก รถไม่ติดหนักเท่าเส้นรามคำแหงด้วย อ้อ ลืมบอกว่าทางด่วนใกล้ๆ โครงการคือทางพิเศษศรีรัชนะ
ในแง่ของสิ่งอำนวยความสะดวก จริงๆ ผมว่าเราทุกคนรู้กันดีว่าย่านรามคำแหงเป็นย่านที่อยู่อาศัยดั้งเดิม มีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีคนต่างจังหวัดมาเรียนเยอะ ทำให้อพาร์ตเม้นท์ หอพัก ขึ้นอย่างชุกชุม ทำให้รามคำแหงเป็นย่านที่คึกคักมาอย่างยาวนาน
ส่งผลให้ร้านรวงต่างๆ ขึ้นตามมาเยอะ ดังนั้นในแง่ของการใช้ชีวิต คนที่อาศัยอยู่ย่านนี้ผมว่าสะดวกสุดๆ อย่างในซอยนี่ก็มีร้านอาหารเป็นซุ้มขายอาหารอยู่ด้วยนะ หิวๆ คือเดินออกจากคอนโดมากินได้เลย แถมยังมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ถึง 2 แห่งในซอยเลยด้วย
ซึ่งหากออกจากซอยรามคำแหง 40 บริเวณเส้นรามนี่ของกินเพียบ!! ถ้าออกจากซอยขับรถไปทาง ม.ราม นิดเดียวก็เป็น กกท. ตลาดนัดช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ตรงนี้เด่นเลย พวกร้านรวงตรงนี้ก็เยอะนะ ข้าวแกงใต้เพียบ 555 แถมยังใกล้เดอะ มอลล์ รามคำแหง อีกด้วย
แถมยังอยู่ใกล้ Huamark Indoor Stadium และราชมังคลากีฬาสถาน ใครชอบดูกีฬาและคอนเสิร์ตบอกเลยว่าชิลจัด คอนจบ 10 นาทีถึงบ้านมีอยู่จริง เอาให้คนอิจฉา5555
นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าใกล้เคียงอีกเพียบครับ ไม่ว่าจะเป็น Market Place กรุงเทพกรีฑา, Big C หัวหมาก, Lotus’s บางกะปิ ,Makro ลาดพร้าว ,Homepro รามคำแหง เป็นต้น
เอาเป็นว่าใครที่สนใจตอนนี้เค้ามีเว็บเปิดให้ลงทะเบียนกันแล้วด้วยนะ ในเว็บไซต์เห็นเริ่มที่ 1.59 ล้าน* (ก.ค. 67) ใครใจลองจิ้มไปโลดฮะ คลิก
Tag :
“โอ้โห ได้วิวนี้เลยเรอะ คอนโดอยู่ตรงนี้เลยจริงดิ นี่มันอยู่ท่ามกลางดง รีสอร์ท โรงแรม เลยนะ“ ผมเผลอหลุดปากออกมา เมื่อได้เห็นภาพโครงการครั้งแรก
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
วันก่อนเข้าออฟฟิศไปแถวๆ โชคชัย 4 นึกขึ้นได้ว่า เออ มันมีคอนโดโครงการหนึ่งของ SC Asset แถวๆ นี้นี่นา เรายังไม่เคยไปดูทำเลเลยแหะ!! COBE Ladprao - Sutthisan (โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร) งานนี้เลยถือโอกาสลองเดินจ้ำอ้าว ไปส่องดูทำเลหน่อยซิ ว่าจะดีซักแค่ไหนกันเชียว
ที่ดินศูนย์กลางเมืองไม่เคยมีวันไหนที่ไม่ร้อนฉ่า
ส่องโครงการรัฐกันบ้างครับ หลังจากที่เค้ามีการเปิดจองสิทธิ์โครงการ 'บ้านเพื่อคนไทย' ไปตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ปิดลงทะเบียนไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อความหวานในใจต่ำเกินไป ชวนทุกคนมาเติมความหวาน กับเครื่องดื่มใหม่จากคริสปี้ครีม Krispy Kreme Sweet Pink Milk
มันจะมีอยู่รสชาติหนึ่งครับ ที่ไม่ว่าจะได้ลิ้มรสเมื่อไหร่ ก็จะนึกถึงวันวานตอนเป็นเด็กตลอด นั่นก็คือ 'โอวัลติน'!! กินทีไรเป็นต้องฟินเสมอ
พาชิมพิซซ่าโฮมเมดร้านดังประจำตลาดนัดจตุจักรที่แมสและสบายกระเป๋าที่สุดในตอนนี้!
วันนี้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ 'อยู่สูงอย่างมั่นใจอาคาร SC ปลอดภัย 100%'
"MX27" ช่วง "อโศก-พร้อมพงษ์" นี่มันดงโรงแรมชัดๆ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ กลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางไกลนับพันกิโลเมตร