ผมพบว่าตอนที่เข้ามาในโครงการ "Navara Rangsit – Klong 2" มีเรื่องที่ผมสนใจอยู่ 2 อย่างด้วยกัน

        1. เอาต้นไม้เยอะขนาดนี้มาไว้ในโครงการได้ยังไง

        2. ที่ดินแปลงนี้ "คุณาลัย" ไปควานหามาจากไหนกัน

        แล้วคำตอบก็น่าสนใจ แถมยังสามารถขมวดรวมตอบพร้อมกันได้ด้วยครับ

        ผมพบว่าที่มาที่ไปของ "Navara Rangsit – Klong 2" น่าสนใจและดูมีเรื่องราวมากๆ จากที่ได้ยินมาคือ ที่ดินแปลงนี้ในทำเลรังสิตคลอง 2 นั้น มาจากที่หลักๆ คือคุณาลัยชอบที่ดินแปลงใหญ่

        การจะทำโครงการบ้านขึ้นมาสักโครงการ คำถามคือ ทำแล้วจะสามารถอยู่ได้สัก 10 ปี 20 ปีมั้ย ทำแล้วจะอาศัยกับมันและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้หรือเปล่า มันเลยเป็นการมองหาที่ดินที่สามารถอยู่ร่วมกันกับผู้อาศัยไปได้อีกเนิ่นนาน

        ที่ดินแปลงนี้ ทางคุณาลัยบอกว่าเป็นทรัพย์สินรอการขายของ BAM ที่ผ่านมาหลายสถาบันการเงิน และเป็นแปลงที่มีอยู่ตั้งแต่ปี 2539 (ซึ่งอีกนิดก็จะแตะ 30 ปีแล้ว!)

        ที่ดินมันพิเศษตรงที่มีป่าจามจุรีมากถึง 15 ไร่กว่า เรียกได้ว่าเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในรังสิตเลยก็ว่าได้ และน่าประหลาดใจที่ไม่มีใครหยิบไปทำอะไรที่เข้าท่าเลย จนกระทั่งมาอยู่ในมือคุณาลัย 

        ทางนี้เค้าใช้เวลาราวๆ หนึ่งปีในการปัดกวาดเช็ดถูที่ดินแปลงนี้ แปลงโฉมออกมาใหม่จนมันกลายมาเป็นที่ดินที่พร้อมสำหรับการอยู่อาศัยในปัจจุบัน เหมือนหยิบโปรเจ็คที่ถูกทิ้งร้างไปแต่มีศักยภาพมาซ่อมแซมใหม่ให้พร้อมใช้งานนั่นเอง

        และแอสเสทที่สำคัญที่สุดคือป่าครับ

        สิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในโซนนี้แล้ว ใช่ว่าเราจะไปหาที่ดินแปลงไหนที่จะมีต้นจามจุรีใหญ่หลายร้อยต้นแบบนี้ได้ง่ายๆ และการที่มีต้นไม้ใหญ่เยอะ ข้อดีของมันคือทำให้อากาศด้านในเย็นกว่าข้างนอกนิดนึง แถมค่า PM 2.5 ยังต่ำกว่าพื้นที่รอบข้างอีกด้วย เรียกว่าเป็นจุดที่อยู่แล้วนอกจากสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็ดีไม่ต่างกัน

        ส่วนคุณาลัยเองก็มีการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์เดิมๆ หลังจากก่อร่างสร้าง "Navara Rangsit – Klong 2" ขึ้นมาด้วย

        ถ้าเราลองพูดถึงคุณาลัย ภาพจำที่ผุดขึ้นมาในหัวเราก็คือโครงการบ้านราคาต่ำกว่า 5 ล้านในโซนบางบัวทอง

        แต่ตอนนี้คุณาลัยค่อยๆ เริ่มปรับนิวแบรนด์ใหม่แล้ว เริ่มสร้างภาพจำใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ด้วยการมูฟมาทิศที่สี่ของเค้าคือทิศเหนือของกรุงเทพฯ

        เพราะการรับรู้ของลูกค้าคือภาพจำตรงนี้ว่า "เฮ้ย คุณาลัยก็ไอ้นั่นไง 5 ล้าน บางบัวทอง" แต่คุณาลัยไม่อยากติดอยู่กับภาพจำเดิมๆ เพราะเค้าคิดว่าบ้านชานเมืองมันน่าจะสามารถพัฒนาสไตล์ได้ ดังนั้นเลยค่อยๆ ทรานสฟอร์มแบรนด์ทีละนิดจนพร้อมแล้วที่จะพาแบรนด์ "Navara" มาประเดิมลงตลาด

        พูดถึงความเป็น "Navara" เองก็น่าสนใจเหมือนกัน เหมือนทางแบรนด์พยายามสร้างเป็นเอเลเมนต์ต่างๆ เพราะผมรู้มาว่า "Navara Rangsit – Klong 2" ตรงนี้คือป่า ส่วนปลายปียังมีแพลนเตรียมปล่อย "Navara พระราม 2" ออกมาด้วย ซึ่งตัวหลังนี้จะเป็นเอเลเมนต์ลม น่าสนใจดีเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นยังไง

        "Navara Rangsit – Klong 2" ตั้งอยู่บนพื้นที่ 330 ไร่ ชูเอกลักษณ์ "ผืนป่าแห่งรังสิต" ที่ให้สวนส่วนกลางกว่า 24,000 ตารางเมตร อยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยมของรังสิตคลอง 2 เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย ด้วยความพร้อมของทำเลและความสะดวกสบายในการเดินทางจากแผนพัฒนาทั้งของท้องถิ่นและระดับมหภาค

        แค่เข้ามาในถนนส่วนกลางก็รู้สึกได้แล้วว่ามันเหมือนพื้นที่ที่ถูกกั้นออกมาจากส่วนอื่นๆ แตกต่างจากพื้นที่ภายนอกโครงการลิบลับ

        ถนนในโครงการจะเป็นแบบ One Way ที่ให้มาค่อนข้างกว้าง แต่รอบๆ จะมีต้นไม้ใหญ่ตั้งอยู่ตลอดทาง ดังนั้นพอเข้ามาเลยไม่รู้สึกร้อนเลยครับแถมยังสบายตามากด้วย ที่สำคัญคือลมพัดโกรกตลอดเวลา

        โครงการเน้นการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบ British Colonial เข้ากับความสงบร่มรื่นของธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์เดิมของพื้นที่ได้อย่างลงตัว 

        เป็นโครงการบ้านพักอาศัยที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความสะดวกสบาย เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน ผมคิดว่าเหมาะกับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีความเป็นส่วนตัว 

        ในโครงการเน้นสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ มีบ้านเดี่ยวที่มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 62 ตารางวาขึ้นไป พร้อมด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวและทันสมัย ตั้งแต่ 165 ตารางเมตร

        สำหรับโครงการนาวาร่า รังสิต-คลองสอง รวมจำนวนทั้งหมด 1,100 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 330 ไร่

        1. แบบบ้านเดี่ยว Bluebell 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 4 คัน

        2. แบบบ้านเดี่ยว Audrey 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 4 คัน

        3. แบบบ้านเดี่ยว Berta 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 4 คัน

        4. แบบบ้านเดี่ยว Clair 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 4 คัน

        จำง่ายๆ คือเรียงไซส์ตามตัวอักษรเลยครับ A B C ซึ่งผมคิดว่าขนาดของ Berta กับ Clair นั้นไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพียงแค่แตกต่างในด้านของฟังก์ชันการจังวางในบ้านเท่านั้น

        แปลนบ้านในโครงการจะเป็นแบบหน้ากว้าง และสิ่งที่เหมือนกันคือให้พื้นที่ส่วนล่างของบ้านมากว้างมากทีเดียว วางโซฟานั่งเล่นหรือโต๊ะทานข้าวได้แบบเหลือๆ

        ผมพบว่าครัวของที่นี่ไม่ได้เน้นไปทางบ้านของคนที่จะทำอาหารจริงจังอะไร เพราะเน้นการเปิดโล่ง ให้พื้นที่ตรงกลางเป็น Island ขนาดใหญ่มา เหมาะกับครอบครัวที่ใช้เวลาร่วมกันหรือเพื่อนฝูงมาปาร์ตี้ เพราะเน้นการ interact ระหว่างกันมากกว่าเข้าครัวทำๆ แล้วกินให้จบสิ้นไป

        ถ้าเป็นแบบบ้านใหญ่ก็จะมีห้องชั้นล่างให้ครับสำหรับปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ มีเชื่อมเข้ากับห้องน้ำได้ หรือใครจะปรับเป็นพื้นที่ทำงานก็เหมาะเหมือนกัน

        บ้านไทป์ใหญ่มีจุดเด่นอีกข้อคือ ในห้องนอนจะได้ห้องน้ำในตัวมาทุกห้อง ถือว่าทำให้เป็นส่วนตัวมากไม่ใช่แค่กับสมาชิกในครอบครัว แต่ยังรวมถึงแขกที่มาพักอาศัยชั่วคราวด้วย

        ส่วน Master Bedroom เป็นแบบหน้ากว้าง ตรงนี้สามารถรับแสงได้แบบเต็มๆ การระบายอากาศก็สามารถทำได้แบบเต็มที่ ระเบียงถือว่ากว้าง 

        แต่เท่าที่สังเกตผมพบว่าหลายๆ ห้องในบ้านเน้นการออกแบบหน้าต่างหรือระเบียงที่สามารถมองออกไปเห็นพื้นที่สวนในโครงการได้

        เหมือนกับว่าไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยมาแค่ไหน จะทำงานหรือจะนั่งติวหนังสือจนตาล้าอย่างไร แค่มองออกไปก็สามารถมองเห็นความเขียวขจีในโครงการกับโซนลำธารน้อยด้านนอกช่วยให้หายล้าและสงบใจได้ในทันทีนั่นเองครับ

        เป็นอีกโครงการที่ผมเชียร์หากใครมองหาที่อยู่อาศัยโซนรังสิตคลอง 2 เพราะแค่พื้นที่ในโครงการก็คุ้มมากแล้ว 

        โครงการบ้านส่วนใหญ่มีต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ดั้งเดิมกันไม่มากครับ อย่างน้อยก็เก็บไว้สักต้นสองต้น แล้วไปซื้อจากข้างนอกมาเสียบลงไปในที่ดินแทน เห็นได้ชัดจากไม้พยุงข้างลำต้นทั้งหลายจนมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

        แต่ที่ "Navara Rangsit – Klong 2" กลับเป็นต้นจามจุรีที่เป็นไม้ใหญ่แถมมีอยู่หลายร้อยต้น แค่เลี้ยวรถเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นแล้ว ทุกอย่างในโครงการมันเขียวไปหมดไม่ว่าจะก้มหน้าหรือเงยหน้าขึ้นมอง พูดง่ายๆ คือเป็น legacy ของที่ดินตรงนี้ที่จะอยู่กับลูกบ้านไปได้อีกนานเลยทีเดียว

        เป็นโครงการที่คุณาลัยอาศัยใช้ช่องว่างตลาด นำบ้านราคา 5 - 10 ล้านมาผุดในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ทำเลปราบเซียน เพื่อเปลี่ยนภาพจำใหม่ เป็นคุณาลัยที่สร้างบ้านชานเมืองราคามากกว่า 5 ล้านและสามารถขยับเป็น 10 ล้านได้ 

        พร้อมกับประกาศให้รู้ว่า ตัวเองมี "ผืนป่าแห่งรังสิต" อยู่ในมือ เป็นจุดเด่นที่ทำให้โครงการโดดขึ้นมาจากทุกๆ โครงการในละแวกเดียวกันนั่นเอง