ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผม ชีพจรลงทีนจริงๆ
มีโอกาสได้ไปพักที่เที่ยวยอดฮิตของคนกทม. ทั้งหัวหินและเขาใหญ่ ภายในระยะเวลาช่วงเดียวกันเลย
แถมเป็นการไปพักที่คอนโด "แสนสิริ" ทั้ง 2 ทริปซะด้วย จะบังเอิญไปไหมนะ 555
เอาจริงๆก็ไม่ได้บังเอิญหรอกครับ
ปกติผมเป็นคนไปเที่ยวหัวหินค่อนข้างบ่อย แต่ระยะหลังๆผมแทบไม่ได้เข้าพักที่ตัวเมืองหัวหินเลย
หัวหินในวันนี้ ต่างจากเมื่อหลายปีก่อนมว๊ากก มีความอัดแน่นของเหล่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ
สถานที่เที่ยวดีๆก็เกิดใหม่แทบทุกปี
นี่จึงเป็นสาเหตุที่คนที่ชอบที่พักแบบสงบๆอย่างผม จึงมักเลือกจิ้มไปที่แถวพวก ชะอำ ประจวบ ซะมากกว่า
ไม่ก่อน ก็หลังหัวหินไปเลยว่างั้น
ในทริปนี้ ผมได้เลือกจิ้มว่าจะไปเทตัวที่ชะอำ ลองเซิชอากู๋ดู ก็ดันไปเจอะ "The Rain ชะอำ-หัวหิน" ของแสนสิริเข้าพอดี
เลยเกิดอารมณ์อยากลองของซะหน่อย
เพราะปกติผมจะพักแต่ที่เป็นโรงแรมจริงๆ ไม่เคยไปพักที่พักสไตล์คอนโดแบบนี้เลย
เอาล่ะ หลังเกริ่นมาพอควร ถ้ายังสนใจใคร่รู้ที่พักสไตล์นี้ละก็ ตามผมมาเลยครับ
จากกทม.เดินทางไปชะอำ ก็ใช้เวลาแค่ 2 ช.ม.เท่านั้นเอง
เผลอหลับตาแป๊บเดียว ก็ถึงที่หมายซะละ
พลันที่เปลือกตาเปิดขึ้นมา...(ภรรยาเป็นคนขับพาสามีเที่ยว แฮ่)
โว๊ะ!!! ดูดีกว่าที่คิดแหะ
ออกอารมณ์เหมือนไปเที่ยวรีสอร์ทเหมือนกันนะเนี่ย
มีความร่มรื่น อุดมไปด้วยพืชใบเขียว ต้นไม้แทรกตัวอยู่เยอะเลย
ไม่ค่อยได้ทำการบ้านก่อนมาเท่าไรครับ นึกว่าจะแห้งๆ 555
เก็บกระเป๋าเสร็จ ก็มาสำรวจต่อ
วันที่ไป คนพักไม่เยอะมาก อาจจะเพราะเป็นวันธรรมดาด้วยละมั้ง
ในห้องมีการออกแบบเป็นสไตล์รีสอร์ทอย่างชัดเจน ทุกอย่างจะเป็นโทนธรรมชาติ ออกไม้ๆ
มีการใช้กระจกบานใหญ่ในการกั้นแบ่งห้องนอนออกจากส่วนครัว และห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องแลดูกว้าง
ผมชอบนะ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายดี
พวกส่วนกลางต่างๆ มีครบแน่นอนอยู่แล้ว ทั้งฟิตเนส สระน้ำ
โดยทั้งหมดจะอยู่ตรงกลางของโครงการ แล้วตัวตึกคอนโดโอบล้อมอีกที
ส่วนกลางต่างๆ ออกแบบมาได้สวยดีครับ ดูสไตล์รีสอร์ทดี
ที่น่าทึ่งก็คือ การรักษาสภาพโครงการได้เป็นอย่างดี ทั้งที่ก็สร้างเสร็จมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังดูใหม่กิ๊งอยู่เลย
ก็อาจจะไม่แน่แปลกอะเนอะ เพราะแสนสิริก็ขึ้นชื่อด้านนี้อยู่แล้ว
ตัวโครงการจะไม่ได้ติดทะเลนะ ว้า..เสียดายจัง จะต้องเดินไปอีกหน่อย ราวๆ 300 ม.ได้
ว่าแต่ เห็นมีรถ shuttle จอดอยู่ คาดว่าน่าจะมีบริการพาไปน่า เอาไว้จะไปค่อยว่ากัน
เอาจริงๆผมว่าการมาพักที่นี่ ก็แทบไม่ต่างอะไรจากพักโรงแรมเลยครับ
ที่จะอ่อนกว่า ก็คงจะเป็นด้านการบริการ ที่จะไม่เต็มที่เท่าที่โรงแรม แต่ก็จะแลกมาด้วยค่าพักที่ถูกกว่าด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้น ใครอยากเที่ยวแบบควมคุมงบ ไม่ต้องการการบริการมากมาย การพักที่พักแบบนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ
หลังจากเดินสำรวจอีกสักครู่ ก็เข้าไปสอบถามข้อมูลของโครงการกับทางพนักงานซะหน่อย
The Rain ชะอำ-หัวหิน เป็นคอนโด Low rise สูง 7 ชั้น ทั้ง 3 อาคาร 499 ยูนิต บนพื้นที่ร่วม 10 ไร่
มีรูปแบบห้องตามนี้ 1 bed ขนาด 39.5-45 ตร.ม. และ 2 bed ขนาด 59.5-66.5 ตร.ม.
จาก 499 ตอนนี้เหลืออยู่ 100 กว่าห้องแล้วครับ สไตล์ขายเรื่อยๆไม่รีบ
ตอนนี้มีจัดโปรเด็ด เริ่ม 2.19 ล้านบาท อยู่ฟรี 2 ปี!!! (เทรนด์อยู่ก่อนจ่ายมาแรงจริงๆ)
ลองหารๆดูก็ตก 5 หมื่นปลายๆ/ตร.ม.
เออ ก็โอเคนะ!!!
เดี๋ยวนี้พวกติดทะเล ส่วนใหญ่ล่อกันไปหลักแสนกว่าบาท/ตร.ม.แล้ว
การที่ห่างออกมาราว 300 ม. กับราคาแบบนี้ กับคอนโดคุณภาพระดับนี้ ผมถือว่าผ่านสบายๆนะ
ที่นี่มีคนจากกทม.ซื้อเพื่อปล่อยเช่ากันไม่น้อยเลย
จริงๆการมีคอนโดหรืออสังหาไว้ปล่อยเช่าในที่ที่ไม่ใช่ถิ่น หรือเราไม่ได้อยู่อาศัย พวกคอนโดต่างจังหวัดแบบนี้
มันจะมีความลำบากในเรื่องการดูแลรักษามาก การหาคนเช่าก็จะลำบากกว่าปกติ
โดยเฉพาะถ้าเรามีภาระหน้าที่ ที่ไม่สามารถจะปลีกตัวมาวันไหนก็ได้แบบง่ายๆ การแก้ปัญหาทุกอย่างก็จะล่าช้าไปหมด
เพราะฉะนั้น ถ้าใครจะซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็คงจะต้องตระหนักตรงจุดนี้ให้ดี
ต้องดูว่า โครงการนั้นมีรับฝากดูแลหรือไม่ ไว้ใจได้แค่ไหน เช่น แสนสิริ , LPN
ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดที่ทำให้โครงการของแสนสิริได้เปรียบ
เพราะมีบริษัทในเครืออย่าง Plus Property มาคอยดูแล ทั้งเรื่องการซื้อขายมือสอง และการปล่อยเช่าให้กับเจ้าของห้องได้
มีเครือข่ายที่ค่อนข้างกว้าง จริงๆมีไม่กี่ developer หรอกนะครับ ที่จะมีบริษัทในเครือที่มาคอยดูแลแล้วก็มีชื่อเสียงเป็นของตัวเองด้วยอย่าง Plus property
เพราะฉะนั้น ก็คงไม่แปลกใจที่ The Rain ชะอำ-หัวหิน มีคนจากกทม.ซื้อเพื่อปล่อยเช่าอยู่พอควร
ขอสรุปอีกทีว่า
สำหรับการพักที่พักสไตล์นี้ ถ้าคุณไม่ได้ต้องการคนมาช่วยดูแลอะไรมาก ผมว่าผ่านนะ เพราะที่เหลือก็ไม่ต่างกับไปพักที่รีสอร์ทเท่าไรหรอกครับ
ส่วนในแง่การลงทุน เหมาะสำหรับคนที่มีงบไม่สูงนัก ไม่มีเวลาไปดูแลเอง แต่มีเวลาไปเที่ยวได้ 555
เอาล่ะ ได้ข้อมูลมาพอสมใจอยากละ ได้เวลาเที่ยวซะที
ตกลงว่ามีรถ Shuttle อัญเชิญร่างเราไปส่งที่หาดให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ
โอ้ เยี่ยมเลย
หาดที่นี่ก็สมใจผมเลย สงบเงียบดี ไร้เสียงเจื้อยแจ้ว
ซู้ด.... อากาศดีจัง...
อะ อ้าว เอ้ย ชมอยู่แปบๆ พระพิรุณก็เตรียมโปรยปรายซะแล้ว!!!
รีบกลับเข้าคอนโดดีกว่าวุ้ย
ภาพจาก รอยัลเฟอร์รี่
เออ จะว่าไปตั้งแต่เมื่อต้นปี 2560 หัวหินมีท่าเรือน้ำลึกเปิดให้บริการแล้วนะ ใครเคยใช้บริการแล้วบ้าง
ในส่วนของเรือเฟอร์รี่จะขนส่งผู้โดยสาร เส้นทางพัทยา-หัวหิน เท่าที่ผมหาข้อมูล
ช่วงนี้จะมีไปกลับแค่วันละ 1 รอบเท่านั้น จากพัทยาไปหัวหิน จะเป็นรอบ 10 โมงเช้า แล้วไปถึงเที่ยง
แล้วจากหัวหินมาพัทยา จะมีรอบ 12:30 แล้วจะมาถึงพัทยา 14:30
ใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ช.ม.เอง
คนที่อยากเที่ยว 2 ที่ต่อเนื่องกัน สบายละ ประหยัดเวลาในการเดินทางได้เยอะเลย ไม่ต้องเข้าไปรถติดในกทม.
ตอนนี้จำนวนรอบยังน้อยอยู่ อาจจะเพราะค่าตัวเรือแพงหรือเปล่านะ ได้ข่าวว่าหลายตังค์อยู่
เชื่อว่าอีกหน่อย จะต้องมีรอบเยอะกว่านี้มากๆแน่นอนครับ เป็นประโยชน์ต่อเชิงท่องเที่ยวดีแท้
ฝนหยุดตกแล้ว เดี๋ยวพาไป BLÚPORT HUA HIN RESORT MALL ห้างเปิดใหม่เมื่อปลายปีที่แล้วของหัวหินกัน
จำได้ว่าเปิดตัวได้อย่างอลังการดาวล้านดวงมาก
มีการอัญเชิญ ณเดชน์-ญาญ่า มาสถิตย์ด้วยนะ พร้อมกิจกรรมอีกเพียบ
BLÚPORT HUA HIN RESORT MALL เกิดจากการเขย่ามือร่วมกันของ The Mall และ “พราว เรียล เอสเตท” ด้วยงบกว่า 5,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร บนทำเลใจกลางเมืองหัวหิน ตรงข้ามโรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนตัล หัวหิน มีสะพานล้อมข้ามจากโรงแรมแล้วเชื่อมเข้าตัวห้างเลยด้วยนะ
ตัวตึกห้างมีความโดดเด่น เรียกกล้องมากระชากภาพดีนักแล ผสมผสานสถาปัตยกรรมของหลายอย่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
แน่นอนว่าที่นี่มี The Mall ร่วมแจม เพราะฉะนั้น "เรื่องของกิน" ไม่ธรรมดาแน่
มีร้านอาหารกว่า 100 ร้าน อะจ๊าก!!! ต้องไปสักกี่รอบ ถึงจะกินครบทุกร้านละเนี่ย สวรรค์ของนักกินเยี่ยงเราแท้ๆ 555
ไม่เชื่อลองไปดูสิ สบายพุงแน่นอน...
ก่อนจากไปวันนี้ ขอยั่วน้ำลายด้วยภาพมื้อค่ำของผมที่ "ร้านชาวเล” หนึ่งในร้านดังติดอันดับของหัวหินละกัน 555
ไว้มีโอกาส ไปโดนซะ รสชาดกระซวกลิ้นดีแท้
ขอตัวไปจังหวัดอื่นต่อละครับ
