ผมคิดว่าแบรนด์อายุเยอะๆ ในไทยที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้เก่งมีอยู่ไม่กี่แบรนด์ครับ และหนึ่งในแบรนด์ที่เข้ามาในหัวเวลาคิดถึงเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่ "ขายหัวเราะ" ก็ต้องเป็น "ไปรษณีย์ไทย" นี่แหละ

        ไปรษณีย์ไทยอยู่มานานตั้งแต่สมัยยังไม่มีคู่แข่งด้านการขนส่ง จนตอนนี้มีขนส่งหลายเจ้าเกิดกันพรึ่บไปหมด แต่พี่เค้าก็ยังอยู่ยงคงกระพันด้วยการปรับตัวตามเทรนด์ไปเรื่อยๆ และพร้อมกันนั้นก็ยังสนับสนุนและอุ้มชูแบรนด์ชาวบ้านๆ ของไทยไปพร้อมกัน

        หนึ่งในนั้นที่ผมคิดว่าเจ๋งดีคือการเปิดตัว "POST café" ที่ถือได้ว่าเป็นคาเฟ่ไปรษณีย์ไทยแห่งแรกเลยก็ว่าได้! 

        "POST café" สาขาแรกเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ครับ ตั้งอยู่แถวย่านสามเสนใจกลางสะพานควาย เดินทางง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย เพราะสามารถใช้รถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสะพานควาย ลงลิฟต์มาปุ๊บก็จะเจอร้านแดงๆ เด่นสะดุดตาในทันที

        เดิมทีตรงนี้เป็นห้องพัสดุรอนำจ่ายครับ ผมเองยังเคยมีโอกาสเข้าไปใช้งานสมัยนั้นเหมือนกัน ตอนนี้ปรับโฉมใหม่มาเป็นคาเฟ่ขนาดใหญ่พร้อมที่นั่งทำงานแล้ว

        ตัวคาเฟ่ออกแบบด้วยดีไซน์โมเดิร์นและแน่นอนว่าเน้นไปที่สีแดง-ขาวซึ่งเป็นสีที่สร้างภาพจำให้กับแบรนด์ ภายในมีพื้นที่ให้นั่งเยอะและมีหลายรูปแบบมาก จะนั่งเดี่ยวๆ ทำงานเงียบๆ คนเดียว หรือจะนั่งติวหนังสือกับกลุ่มเพื่อนก็เหมาะ

        ด้านในยังมีตู้โชว์ขายสินค้าที่ระลึกของทางไปรษณีย์ไทยด้วย แต่แน่นอนว่าวันนี้ต้องมาลองเครื่องดื่มของเค้าเสียหน่อย

        ที่นี่เค้ามี Signature drink คือน้อง Postman ครับ เป็นกาแฟผสมซอสสตรอว์เบอร์รี ท็อปด้วยโซดา ซึ่งต้องบอกตรงนี้ว่าตอนแรกผมเดาไม่ออกว่ารสชาติน้องจะไปในแนวไหน เพราะมันดูแรนดอมไปหมดเลย

        แต่อึกแรกที่ดื่มไปคือตาโตครับ มันดูไม่เข้ากันแต่มันก็เข้ากันดี๊ดี มีทั้งรสขมของกาแฟ รสเปรี้ยวจางๆ จากสตรอว์เบอร์รี แล้วก็มีความซ่าของโซดาเข้ามา ทั้งหมดระเบิดอยู่บนลิ้นจนผมงงไปพักหนึ่ง แต่ก็เอ้อ อร่อยดีเว้ย 5555

        (แต่แนะนำให้สั่งแบบหวานน้อยนะ เพราะผมคิดว่ามันเข้ากันได้ดีมากกว่าด้วยรสชาติประมาณนี้ ถ้าหวานไปอาจไม่ได้จึ้งเท่าเดิมแล้ว)

        ที่นี่ยังมีของทานเล่นให้เลือกกันด้วย เน้นหนักไปทางกลุ่มขนมปังและเบเกอรี่ แต่เมนูแนะนำคือ "แร๊ปแหนมเนือง" ซึ่งผมเสียดายมากที่ตอนที่ผมไปมันหมดแล้ว (ผมไปบ่ายสอง หมดแล้ว!) เลยสั่ง "เลมอนมูสทาร์ต" มาแทน รสชาติอมเปรี้ยวกำลังดี แต่ครั้งหน้าจะต้องไปกินแร๊ปแหนมเนืองให้ได้เลย

        ผมว่านี่เป็นคาเฟ่ที่เข้าท่ามากๆ เหมาะจะนั่งทำงานได้ยาวๆ ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์และมีคาแรคเตอร์ชัด

        ตั้งแต่ทางเข้าที่มีเลข ๑๐๔๐๐ ซึ่งเป็นเลขเขต เก้าอี้รูปแสตมป์สีแดง แถมสนับสนุนเกษตรกรไทยด้วยเพราะเห็นว่าเมล็ดกาแฟที่ใช้เป็นเมล็ดจากปางขอน และที่ชอบสุดคือกาแฟเริ่มต้นที่ 80 บาท แต่แก้วที่ได้มานั้นใหญ่มากครับ

        คุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ ใครมีโอกาสอย่าลืมแวะไปนะ