อสังหาฯมึนแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนแค่ 7.72 แสนคน ประเมินยังอยู่นอกระบบ 1 ล้านคน หวั่นเกิดปัญหาใหม่ “แรงงานขาดแคลน-ค่าใช้จ่ายพุ่ง” จี้รัฐบาล คสช.เจรจานำเข้าแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ป้องกันปัญหานายหน้าจากประเทศต้นทางฟันหัวคิวนำเข้า แนะดีเวลอปเปอร์เคลียร์ไซต์ก่อสร้างรับมือแต่เนิ่น ๆ มีเวลาเหลือแค่ 3-4 เดือนก่อน พ.ร.ก.ใหม่มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2561
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นโยบายเปิดให้แรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายระหว่าง 24 กรกฎาคม-7 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา สรุปยอดรวมมี 7.72 แสนคน น้อยกว่าการคาดการณ์ของกระทรวงแรงงานที่คาดว่าจะมี 8 แสน-1 ล้านคน ในขณะที่วงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเมินว่ามีแรงงานต่างด้าวนอกระบบตกค้างไม่ได้มาขึ้นทะเบียน 1 ล้านคน ทำให้มีประเด็นต่อเนื่องในหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาขาดแคลนแรงงานในอนาคต
พฤกษาฯ ทดรองจ่าย 140 ล้าน
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทมีไซต์ก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างพัฒนา 150-160 ไซต์ แต่ละปีมีความต้องการใช้แรงงานก่อสร้าง 30,000 คน ส่วนใหญ่พึ่งแรงงานต่างด้าวเป็นหลักเช่นเดียวกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั่ว ๆ ไป
ล่าสุด พฤกษาฯ มีการสำรองค่าใช้จ่ายวงเงิน 140 ล้านบาทให้กับผู้รับเหมาช่วงที่มีการแจ้งแรงงานต่างด้าว เพื่อใช้เป็นทุนดำเนินการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องต่อไป จากนั้นจึงทยอยหักเงินคืนในภายหลัง
“โครงการแนวราบเราใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูป ทำให้ลดการใช้แรงงานก่อสร้างได้ 50% อย่างไรก็ตาม แนวสูงหรือคอนโดฯ ยังใช้แรงงานตามปกติ ปัจจุบันยังมีปัญหาการใช้แรงงานข้ามเขตประมาณ 10% ซึ่งต้องบริหารจัดการกันต่อไป”
หวั่นขาดคนงาน-เลื่อนส่งมอบ
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ยอดจดทะเบียนของแรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องมีเพียง 7 แสนกว่าคน แสดงให้เห็นว่ามีบางจำนวนที่ตกค้างไม่ได้มาจดทะเบียน สุดท้ายจะกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย เท่ากับระบบวงจรอุบาทว์ก็อาจไม่หมดไป อาจเพราะมองว่าการทำครั้งนี้ถือใบอนุญาตได้แค่ 2 ปี ต้องไปเริ่มต้นใหม่และอาจเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ล่าสุด ภาคอสังหาฯ มีการนำเสนอแนวทางต่อรัฐบาลในเรื่องการกำหนดจุดเคลื่อนย้ายแรงงาน 4 จุด แต่ยังมีข้อวิตกเพราะเหมือนต้องไปเก็งข้อสอบ สิ่งที่อยากนำเสนอคือ การใช้แรงงานข้ามเขต ขอให้กำหนดจุดให้ครอบคลุมเป็นระดับเขต เช่น 1 จังหวัด ถือเป็น 1 เขต เพราะสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น การก่อสร้างคอนโดฯ ในย่านไพรมแอเรียแต่ที่พักคนงานจำเป็นต้องอยู่รอบนอก เพราะไม่สามารถหาที่พักในเขตเดียวกันได้ เป็นต้น
“ปัญหาแรงงานต่างด้าวมีความซับซ้อนหลายขยัก คนที่ไปดีเบตร่วมกับเราส่วนใหญ่เป็นโรงงาน ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมในเรื่องแรงงานข้ามเขต โรงงานจะมีอารมณ์ร่วมเฉพาะด้านการจดทะเบียน ในขณะที่แรงงานประมง เกษตร มีปัญหาเดียวกับแรงงานก่อสร้าง ปัญหาที่จะกระทบต่อผู้บริโภคคือ การส่งมอบโครงการจะล่าช้าออกไป ไซต์ก่อสร้างอสังหาฯ ส่วนใหญ่มีแรงงานต่างด้าว ถ้าโดนตรวจไซต์หมดเวลาครึ่งวัน บางครั้งจับตัวไปโรงพักต้องไปประกันตัวออกมาใหม่ สิ่งที่ต้องการจะบอกคือ ทำให้ถูกต้อง แต่ว่าต้องยุติธรรม เพียงแต่ประเทศต้นทางไม่สามารถพิสูจน์สัญชาติได้หมด บางส่วนเป็นชนกลุ่มน้อย ทำให้แรงงานต่างด้าวกลับคืนมาไม่หมด”
ต่างด้าวไม่เข้าระบบ 1 ล้านคน
ในด้านค่าใช้จ่ายจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว แหล่งข่าวจากสภาหอการค้าฯ แสดงข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไม่แพง ตกหัวละ 4-5 พันบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีแรงงานต่างด้าวที่ยังไม่เข้าระบบเหลือตกค้างอีกประมาณ 1 ล้านคน แนวโน้มหลังหมดระยะเวลาผ่อนผัน 1 มกราคม 2561 ปัญหาค่าใช้จ่ายนำเข้าแรงงานต่างด้าวจะกลับมาอยู่ที่หัวละ 1.9-2 หมื่นบาท
เรื่องเดียวกันนี้ นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ กานดา พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผลจากการจดทะเบียนให้ถูกต้องน้อยกว่าที่คาดการณ์ ทำให้แนวโน้มหลังวันที่ 1 มกราคม 2561 ซึ่งกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ อาจเกิดการขาดแคลนแรงงานได้ ดังนั้น ในช่วง 3-4 เดือนที่เหลือในปีนี้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างจำเป็นต้องมีการปรับตัวรองรับไว้แต่เนิ่น ๆ
จี้รัฐทำ G to G แก้หัวคิวแพง
นายอิสระกล่าวว่า แนวทางรับมือของผู้ประกอบการ ถ้าหากแรงงานต่างด้าวยังผิดกฎหมายจำนวนมากเช่นนี้ ในอนาคตเมื่อกฎหมายใหม่บังคับใช้และมีบทลงโทษรุนแรงทั้งจำคุกและค่าปรับแพง ทำให้นายจ้างไทยไม่สามารถใช้แรงงานต่างด้าวรายเดิมได้ ยังมีทางเลือกในการนำเข้าแรงงานต่างด้าวรายใหม่เลย หรือที่เรียกว่าทำ MOU โดยเป็นการนำเข้าผ่านบริษัทนายหน้าหรือโบรกเกอร์ ปัญหาใหม่ที่จะเกิดขึ้นคือมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายฝั่งโบรกเกอร์ของประเทศต้นทาง
“วันนี้โบรกเกอร์ทำข้อเสนอมาให้ดู แรงงานเมียนมามีค่าใช่จ่ายหัวละ 9 พัน-1 หมื่นบาทสำหรับคนใหม่ ถ้าเป็นแรงงานต่างด้าวคนเดิมที่ต้องกลับประเทศไปทำทะเบียนให้ถูกต้องตกหัวละ 14,500 บาท แรงงานลาวและกัมพูชาตกหัวละ 2-2.1 หมื่นบาทสำหรับคนใหม่ แต่ถ้าต้องการคนเดิมค่าใช้จ่ายตกหัวละ 2.5-3 หมื่นบาท ข้อแตกต่างคือ ถ้าเป็นคนเก่าเรารู้ฝีมือ ใช้งานได้เลย แต่การนำเข้าแรงงานคนใหม่มาทดแทนมีความเสี่ยงว่าทำงานให้ได้หรือไม่”
จากปัญหาที่เกิดขึ้น นายอิสระกล่าวว่า ได้เสนอรัฐบาลให้มีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวในระบบรัฐต่อรัฐ หรือ G to G เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของผู้ประกอบการหรือนายจ้าง และในส่วนของลูกจ้างหรือตัวแรงงานเอง เพราะการนำเข้ารัฐต่อรัฐมีค่าใช้จ่ายตามกฎหมาย เช่น ค่าธรรมเนียมทำพาสปอร์ต ฯลฯ โดยไม่มีภาระค่าใช้จ่ายนอกระบบแต่อย่างใด
ยังไม่คลี่คลาย – ปัญหาแรงงานต้างด้าวแห่กลับถิ่น ยังไม่กลับเข้าระบบ หลังรัฐบาล คสช.จัดระเบียบ ผู้ประกอบการอสังหาฯหวั่นเกิดปัญหาใหม่ แรงงานขาดแคลน ต้นทุนเพิ่ม
รีวิวอาชีพสงวน 39 รายการ
ประเด็นที่มีการหยิบยกขึ้นมาหารือยังรวมถึงการปลดล็อกอาชีพสงวน 39 อาชีพห้ามคนต่างชาติทำ นายอิสระอธิบายว่า สภาพปัญหามาจากแรงงานไทยไม่ทำงานหลายอย่าง อาทิ กรรมกร ช่างปูน ฯลฯ
จึงเป็นช่องว่างที่ต้องหันไปพึ่งพาแรงงานต่างด้าว ขณะเดียวกัน แรงงานต่างด้าวมีการพัฒนาทักษะฝีมือจนกระทั่งทุกวันนี้สามารถทำงานช่างได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่างปูกระเบื้อง ช่างทาสี ฯลฯ
ดังนั้น จึงมีข้อเสนอจากภาคธุรกิจอสังหาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนกฎหมายใหม่ เพื่อเปิดทางให้แรงงานต่างด้าวสามารถทำงานได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแท้จริงในปัจจุบัน
“อาชีพสงวน 39 อาชีพ ระบุชัดเจนว่า แรงงานต่างด้าวนำเข้ามาทำงานได้เพียง 2 อย่าง คือ กรรมกร กับแม่บ้าน หมายความว่าเย็บเสื้อผ้าในโรงงาน เก็บผลไม้ในไร่สวนเป็นแรงงานเกษตร ก็ต้องผิดหมด แต่ปัญหาคืออยากจ้างแรงงานไทย คนไทยก็ไม่ทำอาชีพเหล่านี้แล้ว” นายอิสระกล่าว
ชี้อสังหาฯ ไม่กล้าขึ้นราคา
ดร.อรรชภา อรรถบูรณ์วงศ์ อุปนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปกติต้นทุนแรงงานก่อสร้างต่อโครงการเฉลี่ยประมาณ 8% เนื่องจากต้นทุนแรงงานมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปี ไม่เคยหยุดนิ่ง ข้อกังวลคือ จะทำให้มีผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะที่ข้อคิดเห็นของนายอิสระมองว่า ถึงแม้อาจมีภาวะขาดแคลนแรงงานก่อสร้างแต่ยังมั่นใจว่าไม่มีผลกระทบต่อราคาอสังหาฯ เนื่องจากสินค้าบ้านและคอนโดฯ ในปัจจุบันถูกควบคุมโดยกลไกตลาด หากผู้ประกอบการรายใดขึ้นราคาโดยใช้เหตุผลจากต้นทุนค่าแรงงานอาจทำให้เสียเปรียบคู่แข่งขันที่บริหารต้นทุนได้ดีกว่า เพราะยุคนี้มีการนำเทคโนโลยีก่อสร้างสำเร็จรูปมาใช้บริหารต้นทุนอยู่แล้ว
ที่มา : Prachachat
Tag :
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
นอกจากทำเลติดถนนพระรามสี่อันโดดเด่นแล้ว ความน่าสนใจของ "The Crown Residences" แห่งนี้ ก็คือ "วิว" ที่หาได้ยากกกมว๊ากกกนี่ละ
เจ้าพ่อทำเลริมถนนเพชรเกษมนี่จะเป็นใครไปไม่ได้แล้วนอกจาก "ชัยพัฒนาที่ดิน"
"Asakan Elysium Phahol 59 Station" (อัสสกาญจน์ อีลิเซียม พหลฯ 59) จาก ASAKAN DEVELOPMENT คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 เพียง 50 ม. เท่านั้น!!
'So Origin Sukhumvit 105' (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) ถ้ารู้สึกว่าชื่อมันฟังดูแล้วคุ้นๆ หูจังแหะ ใช่ครับ มันคือตัวเดียวกับ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' นั่นแหละ เปลี่ยนตัวห้อยท้ายนิดหน่อย (แต่ส่วนตัวแอบชอบชื่อเก่ามากกว่า)
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ประมาณ 420 ม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญวิ่งเป็น Loop เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากมาย จะไปไหนก็ง่ายดาย
‘ภูมิสถาปนิค‘ ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “Lanscape โครงการนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงความเป็น ‘สวนแบบ Classic’ ที่เป็น ‘quite luxury’ ได้เท่านี้แล้ว“
เฮ้ย! เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง 5555
นูเทลล่า ทำมาจากถั่วเฮเซลนัท และ ช็อคโกแล็ต ช็อคโกแล็ตมาจากต้นโกโก้ ถั่ว และ โกโก้ = พืช พืช = ผัก กินผัก = ผอม โอเค กินเมนูนี้ได้แบบไม่รู้สึกผิดแล้ว 5555