สงครามมีผลต่อเศรษฐกิจมากเลยนะครับ อย่างภาคอสังหาเองก็ได้รับผลกระทบไปอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนกัน อย่างตอนสงครามยูเครน-รัสเซีย ก็ส่งผลให้วัสดุก่อสร้างอย่าวเหล็กราคาพุ่งสูงขึ้นมาก ซึ่งตอนนี้ยังมีสงครามตะวันออกกลางอีกด้วย ล่าสุดนักวิเคราะห์หลายภาคส่วนมองว่า อาจกระทบเป็นบางธุรกิจ 

        นอกจากนี้ยังมีประเทศจีน ที่ “สีจิ้นผิง” ประกาศรวมไต้หวันให้เป็นหนึ่งเดียวกับจีนอีกด้วย ซึ่งทำให้หลายๆ ฝ่ายเกรงว่าจะเกิดความรุนแรง โดยนักวิเคราะห์หลายภาคส่วนมองว่า อาจกระทบเป็นบางธุรกิจ หากไม่มีอะไรยืดเยื้อ โดยสงครามระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลจะกระทบธุรกิจอสังหาฯ และอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยมากน้อยแค่ไหนนั้น มองว่า หากไม่รุนแรง จะกระทบเพียงต้นทุนราคาน้ำมัน พลังงานภาคการขนส่ง

        ทั้งนี้หากการสู้รบยังรุนแรงต่อเรื่อง ประเมินว่า ต้นทุนที่เกิดจากราคาน้ำมัน พลังงาน วัสดุก่อสร้าง ภาคการขนส่ง ตลาดทุน จะขยับขึ้นจนมีผลต่อภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและลงมาถึงต้นทุนตลาดที่อยู่อาศัย ที่ขยับสูงขึ้น ซ้ำเติมทั้งผู้ประกอบการและคนซื้อบ้าน ซึ่งเคยมีบทเรียนมาก่อนหน้านี้ช่วงสงครามรัสเซียและยูเครน ขณะผู้ประกอบการ ไม่กล้าขยับราคาให้สูงไปมากกว่านั้นได้เพราะกำลังซื้อในประเทศมีความเปราะบางสูง ซึ่งปกติราคาเดิมแทบขายไม่ออกและถูกปฏิเสธสินเชื่อสูง หากต้องปรับราคาขึ้นตามต้นทุน จะส่งผลซ้ำเติมตลาดผู้ซื้อ และจำเป็นต้องกัดฟันแบกต้นทุนนั้นต่อไป

        กรณีการสู้รบดังกล่าว จะกระทบ แค่น้ำมัน เงินบาทแข็งค่า แต่ในภาพรวมอาจยังไม่กระทบมากนัก แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าและคาดการณ์ว่าจะกระทบรุนแรงมากกว่าคือการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทภายในปีนี้ ซึ่งจะกระทบผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีงานในมือค่อนข้างมาก ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น