สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งตารอเวลาไปงานแถลงข่าวต้นปีของ AssetWise ก็คือ "ชื่อ" ของโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดในปีนั้นนั่นละครับ

        ยอมรับเลยว่า เป็น Dev ที่ตั้งชื่อโครงการได้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ไพเราะเสนาะหู ทำให้ภาพลักษณ์ดูดี มีราคา ช่างสรรหาจริงๆ 555

        อย่างเช่น Kavalon , Luminous , Aquarous , Avantgarde เป็นต้น

        และที่ผมจะมาเล่าโครงการวันนี้อย่าง "Atmoz De Sol Thipphawan Station" ก็มีชื่อเท่ห์ๆอีกล่ะ 555

        แถมเป็นโครงการที่พกพาจุดเด่นมามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ติดกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง "สถานีทิพวัล" 0 เมตร แบบรั้วติดกันเลย!

        และนั่งแค่สถานีเดียว ก็ถึงสถานีสำโรง สถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สายสุขุมวิท) เข้าใจกลางกรุงอย่าง สยาม อโศก ทองหล่อ เอกมัย ได้สบายๆ

        หรือจะนั่งสายสีเหลืองไปลาดพร้าว เปลี่ยนขบวนลงสายสีน้ำเงินก็แล้วแต่สะดวกได้เลย

        "Sol" เป็นภาษาละติน แปลว่า "พระอาทิตย์" นะ ไม่ใช่ Soul จิตวิญญาณ 

        ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เอเชียตะวันออก ความสัมพันธ์ระหว่าง พระจันทร์ และ พระอาทิตย์ (ตามคอนเซ็ปต์ SUN & MOON)

        การออกแบบโครงการ ก็จะไปในทิศทางเดียวกับชื่อเลย และเป็นสไตล์ Asian Oriental

        ซึ่งเท่าที่ดูจากภาพ และ Sales Gallery ที่ทำให้ได้ฟีลโครงการตอนสร้างเสร็จแล้ว

        บอกเลยว่า "ส่วนกลาง" สวยมาก ดูดีมีสไตล์ ไม่ต่างจาก บูทีค รีสอร์ท ระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว!

        อ่า... แป๊บนะ ขอคั่นข้อมูลโครงการสักครู่ ฮิฮิ

        อีกเรื่องที่ต้องแวะชม AssetWise ก่อน ก็คือ Sales Gallery นี่ล่ะ 

        นอกจากการตั้งชื่อแล้ว Sales Gallery นี่ก็ของดีไม่แพ้ใคร ทำออกมาได้สวยมาก หลายที่จะเหมือนร้านคาเฟ่หรูๆที่มี ห้องตัวอย่าง ด้วยนิดหน่อย 555

        Sales Gallery จะสร้างให้มีสไตล์ออกแบบเหมือนกับโครงการจริงๆ ลูกค้าจะนึก "ภาพ" บรรยากาศบางส่วนของโครงการตอนสร้างเสร็จจริงได้ 

        ทำให้มี อารมณ์ร่วม และง่ายต่อการตัดสินใจจองห้อง ฮิฮิ

        แค่เข้ามาใน Sales Gallery คุณก็เหมือนตกอยู่ใน "วงล้อม" ค่ายกลแห่งความประทับใจแล้วล่ะครับ

        สำหรับผมแล้ว นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ AssetWise เป็นหนึ่งในไม่กี่ Dev ที่มียอดขาย New High ในปีนี้ได้ 

        กลับมาที่ข้อมูลกันต่อ

        "Atmoz De Sol Thipphawan Station" เป็นโครงการคอนโดแบบ Mid rise+Low rise รวมเป็น 3 อาคาร อาคาร A สูง 11 ชั้น อาคาร B และ C สูง 8 ชั้น

        มีห้องพักอาศัย 690 ห้อง และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 4 ห้อง สามารถจอดได้ 46% รวมซ้อนคัน (ถือว่าเยอะนะ) บนที่ดินขนาด 6-2-61 ไร่

        มาพร้อม "ส่วนกลาง" แบบจัดเต็ม ระดับ AssetWise ไม่มีผิดหวังอยู่แล้ว 

        อย่าง "สระว่ายน้ำ" นี่ให้มา 3 สระใหญ่ๆประจำแต่ละอาคารไปเลยนะ ไม่ต้องมาเดินข้ามไปข้ามมา 

        ซึ่งแต่ละสระจะไม่ใช่แบบเหลี่ยมๆทื่อๆนะ ทรงจะเป็น Free form เลียนแบบแหล่งน้ำธรรมชาติ และมีต้นไม้ล้อมรอบ คอยให้ร่มเงา 

        มีฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Lap Pool , Leisure Pool และ Shallow Pool หรือจะเป็น Pool Terrace / Moonlight Bar สามารถเลือกใช้งานได้หลายหลายกิจกรรมเลย

        มีจุดหนึ่งที่ผมชอบคือ มีการออกแบบให้มี "Tea Pavillion" และสวนทางเดิน อยู่ระหว่าง อาคาร B และ C

        เหมือนเป็นการเชื่อม 2 สระว่ายน้ำ ให้อยู่พื้นที่เดียวกัน โดยที่ทางเดินนี้ จะเข้าได้จากแค่ สระทั้ง 2 ฝั่งเท่านั้น 

        สร้างเป็นเส้นทางที่เราสามารถเดินวนเป็นวงกลมได้เลย มีขึ้นมีลง เดินได้ไม่น่าเบื่อ

        เชื่อว่า ของจริงตอนสร้างเสร็จ จะต้องสวยอย่างแน่นอน

        มี Lounge มี Private Onsen แยกบ่อแช่น้ำ ร้อน-เย็น ออกแบบสไตล์ Zen สวยๆ

        มี Steam ที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในสปา ทั้งหรูหราและผ่อนคลายในที่เดียวกัน

        มี Lobby แบบ Double Volume สูงโปร่ง เหมือนโรงแรม

        มี Flowing Retreat Garden ที่เป็นพื้นที่สวนสีเขียว และสนามเด็กเล่น อยู่ท้ายโครงการ

        ชั้น 8 ของอาคาร A จะมี ทางเดินเชื่อมไปยัง Rooftop ของอาคาร B และเดินต่อเนื่องไปอาคาร C ได้เลยอีกด้วยนะ 

        แต่ละอาคาร จะมีธีมตกแต่งที่ไม่เหมือนกัน

        อาคาร A จะเป็นชื่อ "Sol" ธีมสื่อถึง Sunset

        อาคาร B จะเป็นชื่อ "Terra" ธีมสื่อถึง Sunrise

        และอาคาร C จะเป็นชื่อ "Luna" ธีมสื่อถึง Moonlight

        รูปแบบห้องพักอาศัย จะมีอยู่ 4 แบบคือ

        1. แบบ 1 Bedroom Suite ขนาด 23 ตร.ม.

        ที่ Sales Gallery ตกแต่งห้องนี้ไว้เป็นไอเดียได้ดีจัง เป็นห้องสไตล์ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น ฐานเตียงที่บิลต์แบบเต็มชิดผนัง แล้วเอาฟูกวางได้เลย

        เข้ามาจะเจอกับโซนนั่งเล่น ต่อเนื่องยาวๆไปถึงโซนนอนได้เลย ขวามือจะเป็นครัวแบบปิด ห้องน้ำ และระเบียง

        มีข้อดีคือ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆเข้าโซนอยู่อาศัย เพราะเราสามารถเปิดไล่กลิ่นให้ออกไปทางระเบียงได้เลย

        ถ้าใครอยากลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า แนะนำห้องนี้เลยครับ

        2. แบบ 1 Bedroom Sol Closet ขนาด 27 ตร.ม.

        เข้ามาจะเจอกับ โซนครัวปิด และโถงทางเข้า ที่มีขนาดพอสมควร สามารถทำเป็นมุมกินข้าว หรือจะ Bulit-in ตู้โต๊ะมาเก็บของเพิ่มก็ได้

        ต่อมาจะเป็นโซนนั่งเล่น และโซนนอน อีกด้านจะเป็น Walk-in Closet ที่ต่อเนื่องเข้าห้องน้ำได้เลย

        ที่สำคัญคือ Walk-in Closet นี่ให้ขนาดมาใหญ่มาก จะแบ่งเป็นพื้นที่เก็บของ หรือจะปรับโต๊ะเครื่องแป้งให้เป็นโต๊ะทำงานขนาดย่อมๆ ก็ยังได้

        เป็นการออกแบบที่ผมชอบนะ รู้สึกว่าตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่จริงๆ 

        3. แบบ 1 Bedroom Double Access ขนาด 27 ตร.ม.

        เป็นห้องที่ทำให้ผมนึกถึง ห้องของตัวเองขนาด 32 ตร.ม. ในโครงการหนึ่ง รูปแบบคล้ายๆกัน แต่เอ... ขนาดต่างกันตั้ง 5 ตร.ม. แต่ทำไมรู้สึกว่าขนาดมันพอๆกันเลยนะ 555

        แถมที่นี่ ยังสามารถเข้าห้องน้ำได้ทั้งจากห้องนอน และห้องนั่งเล่นด้วยนะ ข้อดีคือ เวลามีแขกมาเยี่ยม จะเข้าห้องน้ำ ก็ไม่ต้องเดินเข้ามาในห้องนอนก่อน เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้เจ้าของห้อง

        เป็นห้องที่มีการกั้นแบบแบ่งส่วนชัดเจน ประตูห้องนอนเป็นแบบ "ไม้" เลย ไม่ใช่กระจก เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวจริงๆ

        ห้องนี้ก็ได้เป็น ครัวแบบปิด เช่นกันนะ

        4. แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 37 ตร.ม.

        ออกแบบห้องมาได้หน้ากว้างมากๆ แสงเข้าห้องได้อย่างเต็มที่ ลดปัญหาอับชื้น

        เข้ามาจะเป็นโถงทางเข้ากว้างๆติดกับครัวปิด และห้องน้ำที่เป็น Double Access เข้าได้จากในห้องนอน และบริเวณโถงทางเข้า

        ลึกเข้ามาจะเป็นโซนนั่งเล่นตรงกลาง และระเบียง ที่ขนาบด้วยห้องนอนทั้ง 2 ห้อง 

        เราสามารถดัดแปลงห้องนอนเล็ก ให้เป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ หรือห้องอื่นๆได้ตามใจชอบด้วยนะ

        เป็นห้องที่เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 2-3 คน 

        มาที่เรื่อง "ทำเล" ของโครงการบ้าง

        โครงการวางตัวเองอยู่ที่ ถ.เทพารักษ์ สมุทรปราการ

        จะอยู่ติดถนนใหญ่เลยครับ อยู่ตรงข้ามกับ ซ.หมู่บ้านทิพวัล ซึ่งถือเป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีคนอยู่พอสมควรเลย 

        ซึ่งข้อดีของการเป็นชุมชนก็คือความพร้อมในการอยู่อาศัย อย่างเรื่องโรงเรียน หรือแหล่งงาน บริเวณนี้คือมีครบ

        มีทั้งโรงเรียน อัสสัมชัญ สมุทรปราการ , โรงเรียน เซนต์โยเซฟ ทิพวัล และโรงเรียน เซนต์โยเซฟ บางนา

        รวมถึงแหล่งงานอย่าง Denso & Hino ก็อยู่แค่ตรงข้ามโครงการเท่านั้น

        และที่เป็นจุดขายสุดๆ อย่างที่ผมเกริ่นไว้ตอนต้นคือ ด้านหน้าโครงการจะเป็นจุดขึ้นลงของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง "สถานีทิพวัล" ด้วย

        นี่คือ "ติดรถไฟฟ้า" ของจริง ฮิฮิ เดินสวยๆออกมาหน้าโครงการก็ขึ้นลิฟต์สู่ตัวสถานีได้เลย

        ที่สำคัญ "สถานีทิพวัล" ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว "สถานีสำโรง" แค่ 1 สถานีเท่านั้น

        การเข้าเมือง จะเป็นเรื่องที่ง่าย และสะดวกมากทีเดียว จะไป เอกมัย อโศก ทองหล่อ อ่อนนุช บางนา หรือจะนั่งยาวเข้าสยาม ก็สบายๆ

        รถไฟฟ้า "สายสีเหลือง" จะมีทั้งหมด 23 สถานี สถานีเริ่มต้นจะเป็น สถานีลาดพร้าว นะครับ

        ซึ่งตรงสถานีนั้น จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า "สายสีน้ำเงิน" ด้วย เป็นสายที่วิ่งรอบเมือง ผ่านสถานที่สำคัญมากมาย

        รถไฟฟ้าจะวิ่งผ่านลงมาทางลาดพร้าว ลงมาตัดกับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ สถานีแยกลำสาลี (คาดว่าเปิดปี 2571) และในอนาคต จะมีสายสีน้ำตาลมาตัดที่สถานีนี้อีกด้วยนะ

        ลงมาอีกหน่อย ก็มาตัดกับรถไฟฟ้า "สายสีแดง" ที่จะวิ่งไปสนามบินสุวรรณภูมิที่ สถานีหัวหมาก

        ลงมาอีก ในอนาคตจะตัดกับ Light Rail (บางนา-สุวรรณภูมิ) ที่ สถานีศรีเอี่ยม

        และสุดท้าย มาจบที่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสำโรง นั่นเองครับ

        การที่ "สายสีเหลือง" มีสถานีอินเตอร์เชนจ์มากมายเหล่านี้ จะสร้างความสะดวกให้กับเรามากมายเลยล่ะ

        และแน่นอน จากโครงข่ายที่สร้างเสร็จเพิ่มเรื่อยๆ มูลค่าก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามความสะดวกด้วยเช่นกัน

        แถวหน้าโครงการจะมี รถสองแถววิ่งผ่าน และมีป้ายรถเมล์ด้วยนะ เป็นอีกทางเลือกในการเดินทาง

        มาดูในฝั่งของคนที่มีรถส่วนตัวกันบ้าง

        ถนนเทพารักษ์ มี 8 เลน เป็นเส้นที่การจราจรถือว่าคล่องตัวใช้ได้ เราสามารถขับรถไปได้ทั้งทางถนนศรีนครินทร์ และ ถนนสุขุมวิท

        มีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกลจากโครงการครับ ประมาณ 300 เมตร เท่านั้นเอง

        กลับรถไปใช้เส้นสุขุมวิท แล้วเข้าเอกมัย ทองหล่อ อโศก ได้เลย สามารถต่อเนื่องไปเข้าพระราม 4 ตรงแยกพระโขนง แล้วขับไปออกสีลม สวนลุมฯ สามย่านได้อีก

        เส้นถนนศรีนครินทร์ สามารถขับเข้าถนนพัฒนาการ ไปเชื่อมต่อกับถนนเพชรบุรี ได้ด้วย ซึ่งบริเวณนี้ก็เป็นอีกจุดที่เราสามารถขับเข้าทองหล่อ เอกมัย อโศก ได้เหมือนกัน หรือจะขับไปเข้า ประตูน้ำ ราชเทวี ก็ได้ และยังสามารถเลือกขับไปเชื่อมต่อเข้าสู่ ถนนพระราม 9 ได้ด้วย

        นอกจากจะขับเข้าเมืองได้หลากหลายเส้นทางแล้ว การเดินทางออกนอกเมืองก็ถือว่าสะดวกเช่นเดียวกัน

        เราสามารถขับรถโดยใช้ถนนเทพารักษ์ ขับวิ่งเข้าบางพลี เชื่อมสู่กิ่งแก้ว แล้วไปโผล่ลาดกระบัง ร่มเกล้าได้ด้วย หรือถ้าหากว่า เราเลือกใช้ถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกยิงยาวทีเดียวเข้าปากน้ำ บางปู หรือออกชลบุรีตรงเส้นนี้ก็ได้เหมือนกัน

        ถือว่าเป็นทำเลที่การเดินทางค่อนข้างสะดวก ทั้งคนใช้รถส่วนตัว และคนใช้รถสาธารณะเลยครับ

        ต่อด้วยเรื่อง "ปากท้อง" เรื่องใหญ่สุดในชีวิตผมล่ะ 555

        เกือบติดโครงการเลย จะมี "Palm Island Mall" อยู่ ซึ่งมี Big C Food Services อยู่ในนั้นด้วย

        เดินไปยังไม่ทันเหงื่อออกเลย ถึงล่ะ 555

        มี Cafe Amazon , หมูทอดเจ๊จง และอีกหลายร้านค้าเลย สามารถฝากท้องแบบใกล้ชิดได้

        เขยิบออกไปอีกประมาณ 200 กว่าเมตร จะมี 7-Eleven ที่อยู่ในปั๊มน้ำมันปตท.

        ถ้าใครอยากกินร้านอาหารข้างทาง ก็ข้ามเข้าไปใน ซอยหมู่บ้านทิพวัล เลยครับ

        มีตลาดอยู่ริมถนน มีร้านอาหาร และมี Lotus's Go Fresh , CP Fresh Mart , 7-Eleven ด้วย

        ระยะก็ประมาณ 200-300 ม. ได้

        ตรงสถานีสำโรง จะมีห้าง "อิมพีเรียล สำโรง" ห้างหลักของคนโซนนี้อยู่ 

        เวลากลับบ้านก่อนเข้าคอนโด เราสามารถแวะซื้อของกินของใช้ได้สบายๆ หรือจะแวะดูหนังก็ตามใจ

        นอกจากนี้ ในระยะใกล้ๆ เรายังสามารถไปห้างใหญ่ได้อีกเพียบเลย ทั้งจากนั่งรถไฟฟ้า และนั่งรถยนต์ไป

        เช่น Mega Bangna , Central Bangna , Jas Urban , Food Land (24 HR.) , Makro , Paradise Park , Seacon Square และตลาดนัดรถไฟเป็นต้น

        อย่าง Paradise Park , Seacon Square นั่งสายสีเหลืองไป 7 สถานีก็ถึงแล้วนะ!

        อ๋อ แล้วอีกไม่นาน ก็จะมีห้างใหญ่ระดับปลาวาฬ "Bangkok Mall" ตรงแยกบางนาด้วย ซึ่งบริเวณนั้น จะมีพวกอาคารสำนักงานดังๆเยอะเลย ทั้ง Bitec-Bhiraj , Cloud 11 , True digital park โดยเดินทางเพียวแค่ 3-4 สถานี

        ใครที่ทำงานโซนนั้นแล้วเลือกมาอยู่ตรงนี้ก็ถือว่าสบายอยู่นะ เดินทางสะดวก อุดมสมบูรณ์ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินด้วย

        สำหรับผมแล้ว "Atmoz De Sol Thipphawan Station" เป็น 1 ในโครงการที่ครบองค์ประกอบในการอยู่อาศัยมาก

        เดินทางสะดวก ติดรถไฟฟ้า ถนนสามารถไปได้หลายเส้นทาง ใกล้ห้าง มีความอุดมสมบูรณ์ ใกล้แหล่งงาน และใกล้สถานที่สำคัญหลายอย่าง

        เช่น โรงงาน Toyota , Isuzu , Honda , Denso , Hino , สวนหลวงร.9 , โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ , โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล , โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา , โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ , Bangkok Pattana International School , St. Andrew International School และ Berkley International School เป็นต้น

        และด้วยค่าตัวที่แว่วๆมาว่า อยู่แถวๆ 1 ล้านกลางๆ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ผมค่อนข้างมั่นใจว่า จะมีผลตอบรับที่ดีจากตลาดนะ

        แถมโครงการเพื่อนบ้านที่จะ Sold out อยู่รอมร่อแล้ว ก็เป็นหลักฐานชั้นดีว่ายังมีความต้องการที่อยู่อีกเยอะพอสมควร

        อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ การซื้อเพื่อปล่อยเช่า

        ด้วยความที่ราคายังไม่ได้เคาะออกมา ผมอาจจะยังแนะนำได้ไม่เต็มที่นะครับ แต่พอดูเรตค่าเช่าจากโครงการเพื่อนบ้าน พบว่าอยู่ที่แถวๆ 7,500-10,000 บ./เดือน ซึ่งสูงกว่าที่ผมเคยประเมินไว้เมื่อหลายปีก่อน

        คิดว่าสาเหตุน่าจะมาจาก มี Supply ที่อยู่อาศัยดีๆสวยๆสมัยใหม่ยังไม่เยอะนี่ล่ะ 

        ซึ่ง "Atmoz De Sol Thipphawan Station" ที่ใหม่กว่า สวยกว่า เรตค่าเช่าก็น่าจะหนีกันไม่มาก

        ถ้าราคาอยู่ในช่วง 1 ล้านกลางๆจริงๆ เราก็จะพอคำนวณได้ว่า มียิลด์ผลตอบแทนอยู่ที่ 5-6%/ปี สูงใช้ได้เลยนะ

        จัดว่าเป็นโครงการหนึ่งที่น่าสนใจในการซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่า

        และนี่คือทั้งหมดของ "Atmoz De Sol Thipphawan Station" ในมุมมองของผมครับ

        อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่: https://bit.ly/3BAXgVG เพื่อลงทะเบียนได้เลยครับ

        หรือจะทักไปสอบถามข้อมูลที่ Add line : @atmozdesol หรือคลิก https://bit.ly/LineAtmozDeSol โทร. 021680000​ ก่อนก็ได้ค้าบบบ

 

#AssetWise #WeBuildHappiness #Atmoz #AtmozCondo

#AtmozDeSol #AtmozDeSolThipphawanStation #คอนโดติดรถไฟฟ้า