กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก หรือ BKKCP เปลี่ยนสถานะจากกองทุนรวมอสังหารฯ เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิสสระ (ISSARA) ธันวาคมนี้ พร้อมเดินหน้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ศักยภาพ เพิ่มโอกาสการลงทุน สร้างผลตอบแทนต่อเนื่องในระยะยาว
ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ เผยว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก หรือ BKKCP ได้แปลงสภาพจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) เป็น ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิสสระ (Issara Real Estate Investment Trust หรือ ชื่อย่อ ISSARA) เรียบร้อยแล้ว
โดยในการดำเนินการแปลงสภาพ BKKCP จะดำเนินการโอนทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ ISSARA แลกกับหน่วยทรัสต์ ISSARA ที่ออกขายเมื่อแปลงสภาพโดยทรัพย์สินหลักของกองทุนรวมที่กองทรัสต์จะรับโอนประกอบด้วย กรรมสิทธิ์ห้องชุดสำนักงานและ พาณิชยกรรม (Freehold) อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ ถนนพระราม 4 จำนวน 24 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยห้องชุด 6,742.64 ตร.ม. และ อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จำนวน 136 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย ห้องชุดรวม 23,945.04 ตร.ม. รวมทั้งสิ้น 160 ยูนิต หรือรวม 30,687.68 ตร.ม.มูลค่าทรัพย์สินรวม 1,410 ล้านบาท
ซึ่งบริษัท ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด มองเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนในอนาคตภายใต้เงื่อนไขการแปลงสภาพเป็นกองทรัสต์ ซึ่งสามารถออกและ เสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมได้ ลดข้อจำกัดด้านกฎหมาย ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุน เพิ่มโอกาสในการขยายการลงทุน และ ประโยชน์ของการลดค่าใช้จ่ายด้านภาษี ที่แตกต่างจากข้อจำกัดของ Property Fund ทำให้เกิดโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2567 ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม BKKCP ปี 2567 ครั้งที่ 1 ได้มีมติอนุมัติการแปลงสภาพกองทุนรวม เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิสสระ(ISSARA) ภายใต้รายละเอียดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในแผนการแปลงสภาพกองทุนรวมเป็นกองทรัสต์ รวมถึงมีมติอนุมัติลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมในอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ และอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 โดยทรัพย์ที่จะลงทุนเพิ่มเติมทั้งหมดนี้ในปัจจุบันมีผู้เช่าแล้ว ซึ่งจะทำให้กองทรัสต์มีผลประกอบการที่ดีและสามารถสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ดียิ่งขึ้น โดยคาดว่าหน่วยทรัสต์ ISSARA จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก (Frist Day Trade) ในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2567
สำหรับ BKKCP ปัจจุบัน (สิ้นสุด Q3 ปี 2567) มีรายได้รวม 80 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจหลักคือการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ลงทุนไป มูลค่าทรัพย์สินรวม (TAV) : 1,410 ล้านบาท มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) : 13.7785 บาทต่อหน่วย กำไรจากการลงทุนสุทธิ 42 ล้านบาท มีประวัติการจ่ายปันผลสูงสม่ำเสมอ แม้จะเป็นช่วงวิกฤติโควิด ทางกองทุนก็จ่ายปันผลเป็นปกติ โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 4 ครั้งต่อปี ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิ ภายหลังการแปลงสภาพกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิสสระ (ISSARA) จะเฟ้นหาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และ/หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า (Commercial Property) โดยจะเฟ้นหาทรัพย์สินที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงและถือเป็นจุดยุทธศาสตร์
Tag :
ว่ากัน 'ซอยหลังสวน' เปรียบเสมือน "แมนฮัตตันแห่งกรุงเทพฯ" คำกล่าวนี้ผมว่าไม่เกินจริงเลยนะ เพราะซอยหลังสวน ได้ชื่อว่าเป็นย่านที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย และมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกปี!!
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
เวลาซื้อคอนโดสิ่งหนึ่งที่แสดงถึงความใส่ใจของโครงการได้ก็คือ #ของแถม
คอนโดติดดอยเราก็มีเขียนถึงโครงการเค้าไปบ้างแล้วนะ แต่ยังไม่ได้มาทำหัวข้อโร้ดทูอย่างเป็นทางการเลย วันนี้คิดว่าคงไม่ได้ช้าเกินไปที่เราจะหยิบโครงการนี้มาพูดถึงในหัวข้อการสำรวจทำเลกันดีกว่า
'RIVERSIDE' กับโครงการ "แชปเตอร์ เจริญกรุง ริเวอร์ไซต์" ของพฤกษา หรือที่เพจเราชอบเรียกเค้าด้วยสเตจเนมว่าพี่ต้นไม้นั่นเอง ความพิเศษกว่าใครในย่านนี้คือ ของเค้า 'ติดแม่น้ำ' แบบไม่ใช่แค่วิว แต่อยู่ติดแม่น้ำของแทร่!!
วิธีเรียกก็ปกติครับ กดในแอปได้เลย รอสัก 3-5 นาที รถก็มาถึงละ
อร่อยเรือหาย! หัวกุ้งทอดกรอบ ซอสมะขามกลมกล่อม กินแป๊ปๆ หมดแล้ว!
ลองชิม บลิซซาร์ด ดู ก็ไม่ค่อยต่างกับที่ไทยนะ แต่อาจจะคิดไปเองว่าอร่อยกว่านิส
คุณภรรยาบอก “หาเรื่อง”
เพิ่งเคยเห็น KFC สาขาแรกเลยที่แต่งอย่างกับรันเวย์แฟชั่น 555 เสื้อ กางเกง พวกนี้ ขายจริงๆนะ ไม่ได้เอาไว้โชว์
จุ่มกันตั้งแต่วันแรกเลย