ภาพจาก Youtube : The Marvel Experience - Step into Hyper-Reality
ต่างจากที่มีในสหรัฐฯ พร้อมชูความเป็นเอเชีย
จริงๆ แล้ว The Marvel Experience ไม่ได้เป็นสวนสนุกเหมือน Dream World หรือสวนสยาม เพราะเจ้าของที่ซื้อลิขสิทธิ์ตัวละครจาก Marvel มาทำ หรือ Hero Venture ได้วางแนวคิดให้เป็น Theme Experience Attraction หรือศูนย์รวมความสนุกแบบ Digital Hyper Reality ที่ผู้ใช้บริการจะสวมบทบาท Super Hero ที่เตรียมไปปราบเหล่าร้าย
โดยสถานที่ดังกล่าวได้เริ่มให้บริการในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2557 และไม่มีสถานที่แน่นอน เพราะพอครบ 2-3 สัปดาห์ก็จะย้ายไปให้บริการในสถานที่ใหม่ และในช่วงเปิดตัวก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งเหตุนี้เองทำให้ “ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์” บริษัทสัญชาติไทยเข้าไปติดต่อซื้อสิทธิ์เข้ามาให้บริการ และหลังจากเจรจามากว่า 2 ปี ในที่สุดก็เริ่มลงเสาเข็มในแดนสยามแล้วนพปฎล เจสัน จิรสันติ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด
นพปฎล เจสัน จิรสันติ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า การนำ The Marvel Experience เข้ามาให้บริการจะไม่เหมือนที่เคยเห็นในสหรัฐฯ เพราะตัวการแสดงก็ยกระดับเป็นเวอร์ชั่น 3.0 จากเดิม 1.0 พร้อมกับ Localize ในเรื่องต่างๆ ให้เข้ากับภูมิภาคเอเชียเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวด้วย
10,000 ตร.ม. ที่บางนา เปิดไตรมาส 2 ปีหน้า
“ถือเป็นที่แรกในอาเซียนที่รวมตัวละครจาก Marvel ไว้มากที่สุด และผู้ใช้บริการก็สามารถร่วมสนุกกับพวกเขาได้เต็มที่ แต่ถ้ายังจินตนาการไม่ออก อยากให้มอง The Marvel Experience เหมือนส่วนหนึ่งใน Disney Land ที่รวมเรื่อง Super Hero เอาไว้ ซึ่งภายในก็มี Nick Fury หัวหน้าหน่วย S.H.I.E.L.D และตัวละครอื่นๆ จาก The Avengers เช่นกัน”
ทั้งนี้ผู้บริหารท่านนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดที่ตั้งชัดเจนได้ เพียงบอกได้ว่า The Marvel Experience จะตั้งอยู่ย่านบางนา กินเนื้อที่ราว 10,000 ตร.ม. ใหญ่กว่าที่สหรัฐ พร้อมให้บริการในไตรมาส 2 ของปี 2561 ก่อสร้างเสร็จแล้ว 10% ภายในจะมี Kid และ Merchandise Zone ส่วนค่าตั๋วคาดว่าใกล้เคียงกับสหรัฐฯ ที่ 35 ดอลลาร์/คน (ราว 1,150 บาท)
ถูกบรรจุเป็นสถานที่สำคัญในปฏิทินท่องเที่ยวไทย 2561
ด้วยความเป็นที่แรกในอาเซียน ทำให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมถึกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬาต่างช่วยเหลือในการประชาสัมพันธ์ The Marvel Experience เต็มที่ หนึ่งในนั้นคือบรรจุเป็นสถานที่สำคัญในปฏิทินท่องเที่ยวไทยปี 2561 และพาไป Road Show ในงานท่องเที่ยวไทยตามต่างประเทศ
“ตอนนี้คุยกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รวมถึงบริษัททัวร์ในไทย และหน่วยงานจราจรแล้ว เพื่อให้ The Marvel Experience ออกมาดีที่สุด และเราตั้งเป้าผู้ใช้บริการหลังเปิด 3 เดือนแรกที่ 1 ล้านคน และใช้จ่ายราว 2,500 บาท/หัว ที่สำคัญตอนนี้อยู่ระหว่างขอ BOI เพื่อเพิ่มชีดจำกัดในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราต้องลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท”
Marvel เลือกอาเซียน เพราะที่นี่ตลาดโตสูงสุด
สำหรับเหตุผลที่ Marvel เลือกอนุญาตให้เปิด The Marvel Experience ที่ไทย เพราะตลาดอาเซียนมีการเติบโตเรื่อง Merchandise ของ Marvel เร็วที่สุดในโลก แถมตัวละครต่างๆ ก็ยังเป็นที่ประทับใจของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ก็ย่อมดีกว่า เพราะที่นั่นเริ่มอิ่มตัวแล้ว เพราะเด็กๆ รู้จักตัวละครเหล่านี้มาเป็นเวลานาน
ที่มา : brandinside.asia
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ