ในช่วง 3-4 ปีนี้ ผมรู้สึกได้ว่า เทรนด์การพัฒนาโครงการบ้าน มีการพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะตลาดของบ้านเดี่ยว Luxury
ออกแบบให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ ที่บ้านอาจไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยอย่างเดียวอีกต่อไป ต้องรองรับการทำงาน และกิจกรรมที่หลากหลายได้ด้วย
1 ใน Developer ที่ผมไปดูโครงการทีไรก็มักใจสั่นกระเป๋าสั่นทุกที ก็คือ "Sansiri" ที่ผมชอบเรียกว่า "พี่สิบหมื่น" นี่ละ ฮิฮิ
ทำเลดี บ้านสวย งดงามเหนือกาลเวลา ส่วนกลางอลังการ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ออกแบบสดใหม่ตลอด
จนเพื่อนนักลงทุนของผมหลายคน เริ่มคว้าเข้ามาในพอร์ตลงทุน ทั้งปล่อยเช่า และขายต่อ
เพราะปัจจุบัน อย่างที่ทราบกันว่าเทรนด์ในการเช่าบ้านอยู่ระยะยาวมีมากขึ้น ความคิดสมัยใหม่ทำให้ผู้คนที่มีกำลังทรัพย์ไม่ยึดติดอยู่กับถิ่นที่อยู่เพียง 1 ที่ แต่มีความต้องการเช่าบ้านอยู่เพื่อความสะดวกสบายทางด้านการเดินทาง หรือที่สนับสนุนต่อธุรกิจตัวเอง ทำให้มีดีมานด์เช่าเกิดขึ้นในตลาดบ้านเดี่ยวระดับบนจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ บ้างก็ต้องการบ้านคุณภาพดีที่อยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติ หรือบ้านที่ใกล้ EEC เพื่อไปทำงาน ดูธุรกิจ หรือบ้านต่างจังหวัดเพื่อพักร้อนระยะยาว อยู่หลังเกษียณ และต่างๆอีกมากมาย
แน่นอนว่า สภาพคล่องในการปล่อย อาจจะไม่ไวเท่าคอนโด แต่เวลาได้ที ก็เป็นกอบเป็นกำสมน้ำสมเนื้อเลยแหละ ระดับ 6-8 หลักเชียว
ต่างติดใจกันจนทุกวันนี้ 555
ยิ่งพอมาวันนี้ ผมได้ข้อมูล "ค่าเช่า" และ “ผลตอบแทน” จากโครงการของ "Sansiri" มา ไม่แปลกใจเลยที่นักลงทุนคอนโดจะชอบกัน
เพราะ.. ได้ยิลด์ดีกว่าปล่อยเช่าคอนโดสมัยนี้เสียอีก!!
ที่พอเทียบเคียงกันได้ ก็คอนโดฮอตๆตามแคมปัสนั่นล่ะ
แต่จะลงทุนกับบ้านเดี่ยวก็มีปัจจัยหลายอย่าง ถึงจะได้ผลตอบแทนดีสมใจอยาก หนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ต้องเป็นเรื่องทำเลอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ที่จะนำมาบอก คือรวมทำเลฮิตฮอตจากโครงการที่มีตัวเลขบอกชัดว่าได้ผลตอบแทนสูงสุดเกือบ 10%
สนใจกันแล้วใช่ไหมล่ะ! อะ ได้เวลาวางแผงขายของล่ะ 555 เอาลายแทงไปเล้ย 4 ทำเลทอง
1. "กรุงเทพกรีฑา" ทำเลดาวรุ่ง แห่งการอยู่อาศัยในสังคมสุดไพรเวท
ขาดทำเลนี้ไปเหมือนขาดใจ เพราะนี่คือหนึ่งในทำเลทองที่ฮอตปรอทแตกสุดๆในช่วง 3-4 ปีนี้
ความเป็น "กรุงเทพกรีฑา" มันเจ๋งตรงที่รอบด้าน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ คอมมูนิตี้มอลล์เพียบ
จะเดินทางไปย่าน CBD ก็ง่ายแสนง่าย และโครงการไฮไลท์ของพี่สิบหมื่นในย่านนี้ก็คือ "บูก้าน กรุงเทพกรีฑา" "ณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา" และ"ณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา" นี่เอง
ปัจจุบันการลงทุนในโครงการบ้านเดี่ยวของ "Sansiri" ในทำเลนี้ สร้าง Yield ได้เฉลี่ยถึง 7-9%!
โดยค่าเช่าบ้านเฉลี่ย 300,000 – 600,000 บาท/เดือน และราคาประเมินที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้นถึง 170% ภายในระยะเวลา 10 ปี! ตอนนี้มีมูลค่า 170,000 บาท/ตารางวา
ในขณะที่ค่าตัวของแต่ละโครงการ เริ่มต้นที่ “บูก้าน กรุงเทพกรีฑา” อยู่ที่ 38 – 70 ล้านบาท* ขยับไปทาง "ณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา" ก็เพิ่มขึ้นนิดหน่อยที่ 45 – 100 ล้านบาท*
ถือว่าพรั่งพร้อมด้วยศักยภาพที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตและการลงทุนได้ทุกมิติ
2. "บางนา" ทำเลแห่งอนาคตที่น่าจับตามอง
"บางนา" เป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯที่กำลังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งการกำลังมาของห้างใหญ่เบิ้มระดับปลาวาฬอย่าง "Bangkok Mall" ตบเท้าเข้าร่วมกับ ห้างชั้นนำที่มีอยู่แล้วอย่าง Central บางนา , Mega บางนา
และการมาของรถไฟฟ้าในอนาคต
จึงเป็นทำเลที่กำลังเติบโต และมีความต้องการซื้อ และเช่าของอสังหาฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาโดยตลอด
เห็นได้จากยอดขายโครงการใหม่ล่าสุดอย่าง "เศรษฐสิริ บางนา กม. 10" ที่พุ่งพรวด
ซึ่งก็มาจากปัจจัยรอบด้านทั้งตัวโครงการเองที่มีความน่าสนใจ , การปักหมุดของเมกะโปรเจ็กต์ และการลงทุนในภาคธุรกิจหลายๆภาค
"เศรษฐสิริ บางนา กม.10" ที่ค่าตัวอยู่ที่ 25 – 40 ล้านบาท* กลับสามารถสร้าง Yield ได้ราว 7-8% ค่าเช่า 150,000-250,000 บาท/เดือน
นับว่าคุ้มค่าที่จะลงทุน!!
ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ รายล้อมด้วยสนามกอล์ฟ และโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง อีกทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และโครงการใหม่ในอนาคต
เชื่อมไปถนนสุขุมวิทก็ง่าย รถไฟฟ้าสายสีเหลืองยังเข้ามาทำให้เดินทางสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว หรือจะออกไปทาง EEC ก็สะดวก
ไม่แปลกใจที่ ทำไมบางนาถึงกลายเป็นทำเลที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง บนทำเลเส้นเลือดใหญ่แห่งกรุงเทพฯตะวันออก ครบเครื่องจริงๆ
3. "ภูเก็ต" เมืองแห่งโอกาสการลงทุน ทำเลเนื้อหอมที่สุดตลอดกาล
ประเทศภูเก็ตนั้น เป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับขึ้นแท่น World Class Destination
มีการยกระดับ โครงสร้างคมนาคมพื้นฐานทั้งหลาย เป็นเหมือนประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว
สนามบินภูเก็ตเอย ระบบรถไฟฟ้ารางเบาเอย การพัฒนาท่าเรือ หรือการพัฒนาผังเมืองก็มี
ทั้งหมดนี้ภาครัฐกำลังทำเพื่อยกระดับภูเก็ตให้เป็น Smart City อย่างเต็มรูปแบบนี่เอง ผลักดันให้เป็น Premium Destination ของโลก!
ทำให้อสังหาฯที่ภูเก็ตขายดีมาก และยังขายดีต่อเนื่องจนถึงปีนี้
ทำเลเนื้อหอมแบบนี้ "Sansiri" ไม่พลาดแน่นอน มีตัวตึงอย่าง “The Tales Story One – Bang Jo” ราคาอยู่ที่ 45 – 68 ล้านบาท* มีการประเมินค่าเช่าสูงไปถึง 400,000 บาทต่อเดือนแล้ว โดยคาดว่าจะได้รับ Yield สูงถึง 9 – 10% หรือ "สราญสิริ เกาะแก้ว รีทรีต" ค่าตัวไม่สูงมาก เพียง 9-15 ล้านบาท* แต่ทำ Yield ได้ประมาณ 5% ด้วยค่าเช่า 35,000 – 62,000 บาท/เดือน ซึ่งถือว่าคุ้มค่าตัวมากๆ
ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อคือ "ใกล้โรงเรียนนานาชาติ" จึงมีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง ทั้งจากคนไทย และชาวต่างชาติ
ราคาที่ดินภูเก็ตยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนโควิดมีราคาไร่ละ 10-12 ล้านบาท และตอนนี้พุ่งไปถึงไร่ละ 25 ล้านแล้ว!
ไม่ซื้อบ้านตอนนี้ อีกหน่อยก็อาจจะซื้อไม่ไหวแล้วนะ ฮี่ฮี่
4. "เชียงใหม่" เมืองน่าอยู่ระดับนานาชาติ
ปิดท้ายด้วยทำเลยอดฮิตตลอดกาลอย่าง "เชียงใหม่" หนึ่งในพื้นที่ที่มีกลุ่มแรงงานต่างชาติในไทย (Expat) เข้ามาอยู่อาศัยมากที่สุด
แถมยังเป็นทำเลที่มีดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง และเติบโตมากขึ้นในทุกๆปี
ในอนาคตอันใกล้นี้ เชียงใหม่ ยังมีแผนพัฒนาโครงการใหญ่ๆ อีกเพียบครับ
ทั้งสนามบินเชียงใหม่ 2 และโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เชื่อมกรุงเทพฯ-เชียงใหม่
แถมจังหวัดนี้ยังมีจำนวนโรงเรียนนานาชาติมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศด้วยนะ
เรียกว่าเป็นจังหวัดที่ขยายตัว และเติบโตได้เร็วตามสัดส่วนของชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่แบบ Long Stay มันเลยทำให้เชียงใหม่เป็นของหวานน่าชิมสำหรับบรรดานักลงทุนที่อยากจ่ายเงินแบบคุ้มค่านี่เอง
"Sansiri" ส่ง "อณาสิริ พายัพ" เข้าฟาดฟันสมรภูมิ ด้วยราคา 7.9 – 10.9 ล้านบาท*
การลงทุนปล่อยเช่า สามารถสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ย 5%-7% ต่อปี ราคาค่าเช่าบ้านเดี่ยวอยู่ที่ประมาณ 50,000 - 70,000 บาท/เดือน จัดเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ คุ้มค่าสำหรับคนที่ตั้งใจหันมาลงทุนบ้านเดี่ยว
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้น "Sansiri" ยังมีจุดเด่นที่เอื้อต่อการลงทุนที่ดีอีก
"บริการหลังการขาย" ดูแลลูกบ้าน และโครงการในระยะยาวให้งดงามเหมือนกับวันแรกที่เข้าอยู่ เป็นสิ่งที่นักลงทุนอาจคาดไม่ถึง แต่ในระยะยาวจะทำให้เกิดดีมานด์การเช่าอย่างต่อเนื่อง และทำให้บ้านมีคุณค่าในระยะยาว และการที่เราจะขายต่อ หรือปล่อยเช่า ก็จะทำได้ง่ายขึ้น และได้ราคาที่ดี
การดูแลความปลอดภัยก็ได้มาตรฐานผ่านเทคโนโลยี LIV-24 ที่เป็นบริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง อีกหนึ่งของขึ้นชื่อของ "Sansiri" เพราะฉะนั้นผู้เช่าก็สามารถวางใจเรื่องคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ได้ นักลงทุนก็เบาใจ
และพอเป็นชื่อ "Sansiri" แล้ว ในฐานะที่คร่ำหวอดในวงการมามากกว่า 40 ปี ทำให้คนทั้งหลาย วางใจได้ว่า ทุกๆโครงการจะเนี้ยบหมด ทั้งงานดีไซน์ และคุณภาพ
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเดี๋ยวนี้ "การลงทุนบ้านเดี่ยว" นับได้ว่าเป็น "Lifetime Asset Value" ที่สามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับเราได้ และสามารถส่งต่อเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่นได้แล้ว ยังเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ที่เป็นหลักประกันให้กับความมั่งคั่ง ความมั่นคงในหลายๆ ด้านให้ผู้ลงทุนอีกด้วย
สำหรับคนที่สนใจ อยากได้ข้อมูลโครงการเพิ่มเติม คลิก ที่นี่ ได้เล้ย!!
#Sansiri #SansiriHomesforInvestment #บ้านแสนสิริน่าลงทุน
Tag :
"MARU CHULA" สรุป สิ่งที่ควรรู้ของคอนโดใหม่จากค่าย Major
ว่ากัน 'ซอยหลังสวน' เปรียบเสมือน "แมนฮัตตันแห่งกรุงเทพฯ" คำกล่าวนี้ผมว่าไม่เกินจริงเลยนะ เพราะซอยหลังสวน ได้ชื่อว่าเป็นย่านที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย และมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกปี!!
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
คอนโดสูงติดถนนพระราม 3 จาก 'ไทย ยูเนี่ยน พร้อพเพอร์ตี้ ดิเวลลอปเม้นท์' ที่ตอนนี้กำลังสร้างสำนักงานขาย วันที่ผมไปนี้จวนจะเสร็จแล้วนะ
นี่คือคอนโดใหม่จาก 'AP' ต้อนรับปีมะเส็งครับ จริงๆ จะบอกว่าเป็นโครงการเปิดปีก็ยังไงอยู่ จริงๆ ตัวนี้มาตั้งแต่ช่วงปลายๆ ปีแล้วครับ แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่เห็นเปิดเว็บไซต์ให้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วนะ
ในที่สุดก็มาแล้ว กับ Wellness Project ระดับบิ๊กบนหัวมุมถนนหลังสวน-สารสิน จาก BDMS ที่ตอนนี้ได้ชื่อแล้วคือ "PROJECT HERCULES" แค่ฟังชื่อก็รู้แล้วว่า ยิ่งใหญ่!
ในช่วง 3-4 ปีนี้ ผมรู้สึกได้ว่า เทรนด์การพัฒนาโครงการบ้าน มีการพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะตลาดของบ้านเดี่ยว Luxury
มีข่าวมีคราวมานานแต่ไม่ได้มีโอกาสแวะไปดูเท่าไหร่ วันนี้ผ่านไปช่วง "เจริญกรุง" พอดี เลยเดินเลยไปดูสักนิด
นี่คือความโรแมนติกที่ดื่มด่ำ แถมอร่อยด้วย รู้ยัง คริสปี้ ครีม เค้าออกเมนูเครื่องดื่มใหม่ต้อนรับวาเลนไทน์ ชวนคุณมาบอกรักด้วย Sweet Sips for Sweethearts Perfect Together
Next Station วาเลนไทน์ เผลอแป๊บเดียว จากปีใหม่ ไปตรุษจีน แปปๆ มาละจ้าา เทศกาลแห่งความรัก
PM 2.5 ไม่ใช่เรื่องใหม่ในประเทศไทย และไม่ใช่เรื่องใหม่ของโลกใบนี้ วันนี้ผมเลยอยากหยิบเอา 5 ประเทศที่เคยเจอปัญหา PM 2.5 เรามาอ่านดูครับ ว่าแต่ละประเทศใช้มาตรการไหนแก้ปัญหานี้กันนะ
นี่คือสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ตั้งอยู่ในย่านการเงินคิงอับดุลลาห์ (KAFD) และได้รับการออกแบบสถานีโดย Zaha Hadid Architects (ZHA)