ถ้าถามถึงแบรนด์บ้านที่ผมว่าทำบ้านออกมาได้สวย ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม อยู่แล้วเหมือนได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

        "Iconature" จาก Prinsiri เป็นอีกแบรนด์ที่ผมว่าน่าสนใจมาก

        อย่างโครงการที่ผมไปดูมาล่าสุด "Iconature Wongwaen – Lamlukka" ตัวโครงการมาในคอนเซปต์ Oxygen Community มีส่วนกลางถึง 2 โซน

        รายล้อมไปด้วยธรรมชาติพร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ มองไปทางไหนก็เห็นสีเขียวภายในโครงการ 

        แต่ที่ผมชอบสุดคือการจัดฟังก์ชั่นภายในบ้านที่ไม่เหมือนใคร เพราะทุกส่วนภายในบ้านสามารถมองเห็น #สวนส่วนตัว ได้!!!

 

 

        พูดแบบให้เห็นภาพสวนนี้ก็คือสวนหลังบ้านที่เค้าเป็นระยะร่นไว้นั่นแหละ แต่ความพิเศษคือการจัดฟังก์ชั่นภายใน

        เพราะพื้นที่ส่วนชั้นล่างนี้เค้าจะไม่มีการกั้นห้องให้ดูรกตา เน้นการแบ่งสเปซให้เป็นสัดส่วนและวางตัวอยู่บนระนาบเดียวกัน

        ผลที่ได้ก็คือจะเห็นสวนหลังบ้านยาวตั้งแต่รั้วฝั่งซ้ายไปจรดรั้วฝั่งขวาเลย

        อันนี้ผมว่าดีมากนะ เพราะเวลาใช้ชีวิตภายในบ้านไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็จะมีหน้าต่างให้เรามองออกไปพักสายตาได้ตลอด

        รวมถึงเรื่องการดูและรักษาก็ด้วย สวยเป็นแนวยาวแบบนี้ก็ช่วยให้สอดส่องได้ทั่วถึง จัดสวนง่าย ทำความสะอาดง่าย

        ซึ่งแนวคิดนี้ทางโครงการเค้าก็ใส่ไว้ในแบบบ้านทั้ง 4 แบบที่มีในโครงการนี้เลยนะ

 

 

        "Iconature Wongwaen – Lamlukka" มีแบบบ้านให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 150 ตร.ม. ราคาเริ่ม 4.99 – 8 ล้านบาท

 

• Arden บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ฟังก์ชันรองรับ 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว, 2 ที่จอดรถ

 

• Birchwood บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว, 2 ที่จอดรถ

 

• Clifton บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว, 1 พื้นที่พักผ่อนชั้นบน, 2 ที่จอดรถ

 

• Dunham บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 237 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว, 1 พื้นที่พักผ่อนชั้นบน, 3 ที่จอดรถ

 

        มาถึงจุดเด่นของตัวบ้านกันบ้าง อย่างแรกตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปในบ้านทุกแบบ สิ่งที่พิเศษเลยก็คือทางโครงการออกแบบให้มีโถงทางเข้า (Foyer) เพื่อให้รู้สึกถึงความพรีเมียมด้วย

        ซึ่งต่างจากบ้านทั่วไปในระดับราคาเดียวกันที่จะไม่มี ช่วยให้เราสามารถจัดพื้นที่หน้าบ้านได้อย่างเป็นระเบียบ สะอาดตาขึ้น

 

 

        ส่วนพอขยับเข้ามาด้านในก็จะรู้สึกได้ถึงความโปร่ง โล่ง สบาย เพราะที่นี่เค้าออกแบบ Ceiling ที่สูงเป็นพิเศษถึง 2.7-2.8 ม.

 

 

        ซึ่งนอกจากจะเพดานสูงแล้ว พื้นที่ใช้สอยก็เป็นหน้ากว้างอย่างที่ผมเล่าไปตอนต้น โดยจะมีลักษณะเป็น Open Plan ที่เชื่อมพื้นที่รับแขก, ห้องทานอาหาร, และครัว 

        พอเราซื้อบ้านไปแล้วเราก็สามารถปรับตามไลฟ์สไตล์ พร้อมออกแบบสวนหลังบ้านให้ใหญ่และเป็นส่วนตัว มองเห็นวิวสวนจากทุกมุมแบบจุใจ

 

 

        ซึ่งบ้านทุกแบบมีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง รองรับการทำงานที่บ้าน, การดูแลผู้สูงอายุ หรือเป็นห้องเล่นสำหรับเด็กก็ยังได้ด้วยนะ

 

 

        ที่สำคัญสำหรับใครที่เป็นสายต่อเติมบ้านภายหลัง บริเวณที่จอดรถและส่วนซักล้างที่นี่ก็เลือกใช้เป็นโครงสร้าง On Beam 

        ซึ่งมีข้อดีเรื่องความแข็งแรง ป้องกันการทรุด พร้อมปูกระเบื้องเพื่อความสวยงาม ซึ่งโครงการอื่นมักไม่ได้ทำให้นะ อิอิ

 

 

        และยั่วใจสุด ๆ ก็คือบ้านทุกหลังติดตั้ง Smart Home Automation, Smart Camera, Smart Remote, Smart Door Sensor, Smart Smoke Detector, Smart Siren Alarm และ Smart Door Lock เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยมาให้เรียบร้อยแล้วด้วย

        ปิดท้ายกันด้วยพื้นที่ส่วนกลาง ทางโครงการจัดมาให้แบบครับครัน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โซน รองรับการใช้งานของลูกบ้านทุก Generation 

 

 

        ซึ่งใครที่ชอบพื้นที่สีเขียว อยากมีบ้านที่หายใจเข้าปอดได้อย่างบริสุทธิ พื้นที่ส่วนกลางโครงการนี้เน้นออกแบบมาภายใต้คอนเซ็ปต์ Oxygen Community 

        จะสังเกตุได้จากพื้นที่ส่วนกลางทุกส่วน ได้แก่ O2 Club สไตล์ Modern English, สระว่ายน้ำแบบ Overflow ขนาดเกือบเท่า Half Olympic พร้อมสระเด็ก

 

 

        Lobby Lounge สำหรับรับรองแขก, Kids Room รองรับน้อง ๆ หนู ๆ ในครอบครัว, Fitness เครื่องออกกำลังกายครบ เปิดรับวิวธรรมชาติได้ 2 ฝั่ง, Co-Working Space รองรับการทำงานและการพักผ่อนได้อย่างลงตัว

 

 

        อีกโซนจะเป็น O2 Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่ แบบ Universal Design ที่มีการออกแบบ Facilities ที่หลากหลาย 

        ซึ่งส่วนนี้ผมแอบชอบมากกว่าส่วนข้างหน้าโครงการอีกนะ เพราะสามารถตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้ทุก Generation 

        ไม่ว่าจะเป็น Grand Pavilion, สนามเด็กเล่น, สนามบาสเก็ตบอล, Reflexology Path, Jogging Track และมีพื้นที่นั่งเล่นรอบสวนอีกหลายจุด ให้ลูกบ้านได้นั่งทำกิจกรรม โดยรองรับการใช้งาน Wheelchair ได้ด้วย

        แต่สำหรับ  O2 Park ตอนนี้จะยังไม่เสร็จดีนะ แต่สามารถดูรูปสามมิติประกอบการตัดสินใจกันไปได้ก่อน รับรองสวยเหมือนกัน 5555

 

 

        สำหรับใครที่สนใจอยากมีบ้านอยู่ติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฯ ฝั่งตะวันออก "Iconature Wongwaen – Lamlukka" อาจจะเป็นคำตอบของคุณ

        เพราะนอกจากความน่าอยู่ของบ้านที่ผมเล่าไปทั้งหมดแล้วนั้น ที่ตั้งโครงการยังสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกสบาย ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก และทางด่วนฉลองรัช เชื่อมต่อรามอินทรา-ลาดพร้าว-เอกมัย-พระราม 9

        ซึ่งถ้าคิดเวลาในการเดินทางแล้ว ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที* ก็จะถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคูคต ที่มีอาคารจอดแล้วจรให้ใช้งาน และในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายขยับเข้ามาใกล้โครงการ ทำให้ใช้งานรถไฟฟ้าได้สะดวกและเชื่อมต่อใจกลางเมืองได้ง่ายมากขึ้น

        ใครสนใจก็ลองแวะไปเยี่ยมชมกันดูนะค้าบบบ แล้วจะหลงรักไม่รู้ตัว อิอิ