เรียกได้ว่าช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ถือเป็นช่วงเวลาฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ เลยก็ว่าได้ครับ จากการจัดงานมหกรรมต่างๆ พบว่าได้รับผลตอบรับดีจากผู้บริโภคกันอย่างเนืองแน่น ล่าสุดอย่างทางฝั่งของงาน “รับสร้างบ้าน Focus 2025” ทาง "สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน" ได้ออกมาเผยว่า แรงตอบรับดีเกินคาด ดันยอดขายโต 20% ทะลุเป้า 3,240 ล้านบาทเลยทีเดียว

        โดยการจัดงาน “รับสร้างบ้าน Focus 2025” ระหว่าง 12 – 16 มีนาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 8 ที่จบลงไปแล้วนั้น ได้สร้างผลตอบรับที่ดีเกินคาดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยสรุปยอดขายภายในงาน รวม 5 วัน เติบโต 20% เมื่อเทียบกับการจัดงานในปี 2567 พร้อมกันนี้นับเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นประมาณ 8% หรือ 3,240 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้น 10% จากที่คาดการณ์ไว้เดิม 10,000 คน

        จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นภายในงาน มี 2 กลุ่มราคาบ้านที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างมาก ได้แก่ บ้านราคา 2.51 – 5 ล้านบาท 39.91% และบ้านราคา 5.01 – 10 ล้านบาท 28.90% จากยอดขายทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มบ้านราคา 10.01 – 20 ล้านบาท 14.22%, ราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท 8.72%, และราคา 20.01 ล้านบาทขึ้นไป 8.25%

        ยอดขายภายในงานที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลจากการสร้างการรับรู้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอคอนเทนต์ในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้ พบว่ามีผู้บริโภคต่างจังหวัดเข้ามาใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น ทำให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีด้านการตอบรับและความเชื่อมั่นบริษัทรับสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นจากในอดีตส่วนใหญ่เน้นใช้บริการกับผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมาจากข้อดีในด้านการสร้างความน่าเชื่อถือของบริษัทรับสร้างบ้าน ประสบการณ์ และความถนัด ผลงานของบริษัทรับสร้างบ้าน การรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการสร้างบ้าน นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นด้านสัญญาที่เป็นธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ความสะดวกสบายต่อผู้ว่าจ้างในการรับบริการที่ครบวงจรจากบริษัทรับสร้างบ้านเพียงรายเดียว รวมทั้งบริการสร้างบ้านจนเสร็จโดยที่งบไม่บานปลาย และความไว้วางใจได้หากเป็นบริษัทรับสร้างบ้านสมาชิกของสมาคมฯ

ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวในหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจสร้างบ้านของผู้บริโภค และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของผู้ให้บริการรายใหม่ โดยการเปิดตัวบริการรับสร้างบ้านของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ที่เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งในตลาดรับสร้างบ้านรวมทั่วประเทศที่มีมูลค่ารวม 210,000 ล้านบาท

จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้เห็นถึง “โอกาส” ของธุรกิจรับสร้างบ้านที่ยังมีช่องทางให้ขยายตัวได้อีกมากจากความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยเฉพาะบ้านระดับราคา 10 – 20 ล้านบาทขึ้นไป ทำให้มีดีเวลลอปเปอร์สนใจเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ทั้งนี้ การที่บริษัทอสังหาฯ เข้ามารุกธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น นายอนันต์กร มองว่า เป็นการสร้างโอกาสที่ดีให้ผู้บริโภคมากขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านต้องปรับตัว โดยหาจุดขายของตัวเองให้เจอ และทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในคุณภาพงานก่อสร้าง การบริการ รูปแบบบ้าน ราคาที่เหมาะสม และการใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพตามที่ตกลงกับลูกค้า เพื่อสร้างข้อได้เปรียบในตลาด และ ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านเป็นที่รู้จักมากขึ้นในการรับรู้ของผู้บริโภค