เมื่อ “ป้าศุ” พาไปดู “จิงโจ้”

เมื่อ “ป้าศุ” พาไปดู “จิงโจ้”

Home   /   ติดดอยล้อมวงเล่า

โซน :

MRT : ลุมพินี / /

11 Jan 2018   13:00
 

เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผมได้รับเกียรติจาก “ป้าศุ” พาผมเข้าไปชื่นชม “จิงโจ้” เวอร์ชั่นเก่าเป็นครั้งสุดท้าย

อันนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณมาเป็นพิเศษจริงๆ เพราะโอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ เลย และคนที่ได้เข้าไปก็มีจำนวนจำกัดมาก

ถึงแม้ว่า “สถานฑูตออสเตรเลีย” ที่ผมเข้าไปเยี่ยมชมนั้น จะปิดทำการไปแล้ว (ที่ทำการใหม่ได้ย้ายไปอยู่แถวถนนวิทยุ) แต่ความยิ่งใหญ่ของสถานที่เดิมยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย

ตอนผมเดินอยู่ข้างในนั้น ใจก็คิดว่า “จะมีโอกาสสักกี่ครั้งในชีวิตที่เราจะได้มาเดินเล่นในบ้านของ ท่านทูตฯ แบบนี้นะ”

ใช่แล้วครับ “สถานฑูตออสเตรเลีย” ที่ผมได้เข้าไปเยี่ยมชมนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ ก็คือ ตัวของที่ทำการทั่วไป (ซึ่งคนที่มาทำวีซ่าก็จะต้องมาที่นี่) และ ส่วนที่เป็นบ้านของท่านฑูต

แน่นอนว่าส่วนที่เป็น “ไฮไลท์” ก็ต้องเป็น “บ้านพักของท่านทูตฯ” นั่นแหละครับ

ต้องขอเล่าก่อนว่า “สถานฑูตออสเตรเลีย” ถูกสร้างขึ้นในปี 2523 (ปีเดียวกะผมเกิดเลย!!!) โดยการออกแบบนั้น สถาปนิคของทางออสเตรเลีย ได้ใช้คอนเซปต์แบบผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมไทย และ สถาปัตยกรรมออสเตรเลีย

โดย สถาปนิคชาวออสเตรเลีย ได้เข้ามาเยี่ยมชม “วัง” หลายแห่งใน กรุงเทพฯ เช่น วังผักกาด เพื่อจะได้เข้าถึงความเป็นไทย ก่อนนำไปประยุกต์กับรูปแบบของออสเตรเลียเอง

ยกตัวอย่าง กระเบื้องสีน้ำตาลทอง ที่เป็น “ธีม” หลักของสถานฑูตทั้งหมด ก็ได้แรงบัลดาลใจมากจาก “กระเบื้องหลังคาวัดของไทย” ผสมผสานกับรูปแบบของกระเบื้องของทางออสเตรเลีย

 
 

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สัญลักษณ์อีกอย่างที่เป็นความภูมิใจของที่นี่ก็คือ “คานไขว้” ที่มีให้เห็นอยู่มากมายภายในอาคาร
 
 
 

พื้นที่ทั้งหมดของสถานฑูตออสเตรเลีย คือ 7 ไร่ ซึ่งพื้นที่ขนาดนี้บนถนนสาทรถือว่าใหญ่มาก ที่สำคัญข้างในยังมีความร่มรื่นอยู่มาก ทั้งต้นไม้ บ่อน้ำ ที่ยังมีสิงสาราสัตว์ใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์อย่างเป็นปกติสุข

ก่อนที่ผมจะเข้าไป 1 วัน ทางกรมปศูสัตว์ได้เข้ามาจับสัตว์น้ำที่อยู่ในบ่อไปไว้ในที่ที่ปลอดภัย

ผมได้รับการบอกเล่าว่าพนักงานทุกคนที่ทำงานในสถานฑูตแห่งนี้ ทั้งคนไทยและออสเตรเลีย ต่างก็อาลัย อาวรณ์กับสถานที่แห่งนี้กันทุกคน

น้ำตาไหลกันในวันที่จากลา ......

ผมถามว่า “เอ๊ะ เค้าไม่ได้ทำงานกันต่อหรือครับ?”

“เปล่าเลย ทุกคนได้ทำงานต่อที่สถานฑูตกันหมด แต่เค้าก็ผูกพันกับที่นี่มากๆ”

ก็ไม่น่าแปลกใจครับ สถานที่นี้มีความน่าอยู่มากๆ เป็นเหมือน “โอเอซิส” ท่ามกลางเมืองใหญ่ ที่สถานที่รอบข้างกลายเป็นตึกระฟ้าที่ทันสมัยกันไปเกือบหมดแล้ว

หลังจากที่ผมเดินผ่านประตูรั้วเข้าไป ผมก็มุ่งตรงไปยัง “บ้านท่านทูต” ก่อนเลย

ผมไม่ขออธิบายอะไรมากมาย เพราะไม่มีความรู้เรื่องสถาปัตยกรรมเท่าไหร่ แต่ถ้าถามความรู้สึกก็คงต้องหล่นคำว่า “Classic” ออกมาจากปาก

นี่คือบ้านอายุเกือบ 40 ปี ที่ยังดู “Modern” และ “Classic” ไปในตัว

แน่นอนว่าระหว่างทางก็คงมีการ “รีโนเวต” อยู่บ้าง แต่รูปแบบหลักๆ ยังเป็นของเดิมจากเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้วอยู่

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ผมเดินชมบ้านเพลินๆ อยู่นาน ก็ได้รับเสียงเรียกให้ไปดูตัวที่ทำการสถานฑูตฯ ได้แล้ว

ผ่านประตูกระจกเข้าไปก็ได้ปะกับ “แผ่นหินรูปจิงโจ้กับนกอีมู” เป็นอย่างแรก ซึ่งผมคิดว่าคนที่เคยมาทำวีซ่าก็คงเคยเห็นกัน

สำหรับคนออสเตรเลียแล้ว สัญลักษณ์ “จิงโจ้” และ ”นกอีมู” หมายถึง การก้าวไปข้างหน้า

แผ่นหินนี้มีคู่มากับสถานฑูตฯ ตั้งแต่เริ่มแรกเลยนะครับ ซึ่งทาง “ป้า” เอง ก็สองจิตสองใจอยู่ว่า จะเก็บแผ่นหินนี้ไว้ในโครงการใหม่ดีไหม

 
 

ความยากอยู่ที่ “การทำให้กลมกลืน” กับโครงการใหม่นั่นแหละ

แต่ถ้าทำได้ “สวยและกลมกลืน” ก็น่าทำนะ ผมเชียร์ๆ

ผมเคยได้ยินจากพี่ที่จบสถาปัตยกรรมมาจากประเทศอังกฤษ เค้าบอกว่า การขออนุญาตก่อสร้างที่อังกฤษ “ความกลมกลืนกับอาคารเก่าๆ (Contemporary)” ถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการอนุญาตให้ก่อสร้างด้วยนะครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นและตั้งตระหง่านอยู่สูงกว่าตัวอาคารก็คือ “ต้นพระยาสัตบรรณ”

 
 

ผมถามคำถามคลาสสิค “เก็บมั้ย?”

คำตอบก็คลาสสิค “ยังไม่รู้เลย”

เข้าใจได้ครับ การล้อมต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แถมแบบของโครงการใหม่ก็เป็นปัจจัยในการทำ “landscape” ด้วยนะ

ผมเดินเล่นอยู่เกือบครึ่งวันก็พบว่าใกล้เที่ยงแล้ว ช่วงที่ไปตอนนั้นอากาศค่อนข้างเย็นครับ ผมเลย “ชิลด์ๆ”

ความรู้สึกของผมก็คือ ถ้าจะมีโครงการใหม่มาเกิดขึ้นในที่แห่งนี้ ผมคงอยากจะให้มีความเคารพในประวัติศาสตร์ของสถานที่เดิมอยู่บ้าง

แน่นอนว่ารูปแบบของโครงการใหม่ๆ ในปัจจุบันมีความล้ำหน้าไปมาก เรียกได้ว่ามีการก้าวกระโดดของรูปแบบอาคารใน “อัตราเร่งที่สูงขึ้น” กว่าในช่วง 10 ปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผมเองก็ชอบโครงการที่มันล้ำๆ นะ ไม่ได้ปฏิเสธมันเลย

แต่ถ้ามีโครงการสักแห่งที่เอาความทันสมัยมาทำให้ “กลมกลืน” และ “ร่วมสมัย” ได้ มันก็คงจะดีไม่น้อย

ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา มีคนปรามาส “ป้า” เอาไว้มาก ว่าคงจะทำได้ “ไม่ดี” แน่นอน

ผมเองคงไม่ได้มา “สนับสนุน” หรือ “แก้ตัว” ให้กับทางป้านะครับ แต่จะเป็นอีกคนที่จะ “รอคอยชม” สิ่งที่จะปรากฏโฉมออกมาว่าจะเป็นอย่างไร (แว่วว่ารูปโฉมของโครงการน่าจะได้เห็นกันในช่วงปีนี้แหละ)

รูปแบบโครงการยังไม่ลงตัวว่าจะเป็นอย่างไร แต่ผมเดาว่า Mixed use น่าจะเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดบนทำเลตรงนี้

“ป้า” บอกว่า งานนี้ทุ่มเทเต็มที่ครับ มีเท่าไหร่ใส่เกิน 100 อยากลบคำสบประมาทของทุกคน และอยากสร้าง landmark ใหม่ให้กับทั้งตัวเองและ “สาทร”

ติดตามด้วยใจระทึกครับ

#คอนโดติดดอย #ติดดอยล้อมวงเล่า #ศุภาลัย

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

Tag :



ติดดอยแนะนำ

ติดดอยรีวิว

"The Base Wongsawang" คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ มี "Pet Park" ที่แรกในย่านนี้ สมมงเป็น "Pet of Sansiri" ของแทร่

ตอนที่ ‘The Line วงศ์สว่าง’ ขายหมด ผมยังคิดอยู่เลยว่า ‘แสนสิริ’ น่าทำโครงใหม่เส้นสีม่วงเพิ่มอีก หลายคนไม่ชอบรถไฟฟ้าเส้นนี้ แต่ในฐานะ ‘ชาวนนทบุเรี่ยน‘ ผมยังเชียร์คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีที่ถัดจากสถานี ‘เตาปูน’ ไปสัก 3-4 สถานีอยู่นะ

"Supalai Blu สาทร-ราชพฤกษ์" ใกล้ "บางหว้า" สถานีรถไฟฟ้า interchange 570 ม. เริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท เท่านั้น!!

นี่คือคอนโดใหม่แกะกล่อง ที่อยู่ใกล้กับ "บางหว้า" สถานีรถไฟฟ้า interchange ของ 2 สายที่คนใช้งานเยอะที่สุด อย่างสายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน

"Ideo Sukhumvit-Rama 4" คอนโดที่มีน้ำตกสูง 18 ม.+สวนป่า เป็นส่วนกลาง!! แถมได้อยู่ใกล้ทองหล่อ ในราคาที่อาจถูกกว่าอ่อนนุช!

เพิ่งเคยเจอ คอนโดที่มีน้ำตกสูง 18 ม. เป็นส่วนกลาง!! จัดเป็น “Ideo” ที่ไม่ทำให้รุ่นพี่เสียหน้าจริงๆ ”ส่วนกลาง“ สวยงามตามแบบฉบับ ”Ananda“


ติดดอยโร้ดทู

SUPALAI PREMIER TAKSIN WONGWIENYAI (ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน วงเวียนใหญ่) คอนโดใกล้แยกตากสิน และรถไฟฟ้าถึง 3 สาย!!

อ้าว!! โกวศุ สอยไปซะแล้ววว ที่ดินข้างๆ ซอยตากสิน 14 ที่ก่อนหน้านี้ ตรงนี้เป็นที่ดินที่ 'แสนสิริ' จะสร้างเป็นโครงการ 'NYX by Sansiri' ก่อนจะยุบโครงการภายหลัง

"Chapter One ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์" ในที่สุดเราก็มีคอนโดสถานีท่าพระมาทำให้คึกคักกันอีกครั้ง!

นานๆ ทีจะมีคอนโดท่าพระโผล่มา เพราะจะว่าไปดีเวลลอปเปอร์มักจะขยับไปตั้งโครงการกันทางโซน สถานีจรัญ-บางพลัด กันมากกว่า

"M Ari" พี่มาเพื่อประกาศเป็นแนวสูงตัวใหม่ริมถนนพหลโยธิน

ไม่ทำแล้วมิกซ์ยูส ทำคอนโดดีกว่า เพราะทำเลมันสวยด้วยความชิดติดริมถนนพหลฯ แบบนี้


ติดดอยสไตล์

แวะไปจิบกาแฟพร้อมเลือกหนังสือดีๆ สักเล่ม ที่ "ร้านหนังสือริมขอบฟ้า" Book cafe ที่ฮอตที่สุดในตอนนี้!

แวะไปจิบกาแฟพร้อมเลือกหนังสือดีๆ สักเล่ม ที่ "ร้านหนังสือริมขอบฟ้า" Book cafe ที่ฮอตที่สุดในตอนนี้!

ไวเหลือเชื่อ Reference Sathorn Wongwianyai พร้อมโอนเดือน พ.ย. 67 นี้แล้ว!!!

ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งได้เห็นหน้า คุณเบลล่า ราณี ที่มาเปิดร้านคาเฟ่ "Jo’s 365" แสนอร่อย ที่ตั้งอยู่ใน Sales Gallery ของ "Reference Sathorn-Wongwianyai" ได้ไม่ทันไรเลย

"MUNIQ สุขุมวิท 23" คอนโดระดับ Luxury หนึ่งเดียวในอโศก ที่ให้ราคาดีเกินใคร เฉพาะ 19 - 20 ตุลาคมนี้ เท่านั้น!

คอนโดใจกลางอโศก 175,000 บ./ตร.ม.?! ไม่อยากเชื่อสายตา จนต้องอ่านซ้ำ 3 รอบ 555 ราคาอย่างกับย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน

อนันดา ปรับโฉม ASHTON รับ 2025 ปีหน้าดีกว่าในทุกด้าน!!!

เอาจริงกดดันเหมือนกันนะ สำหรับโครงการที่สร้างมาตรฐานไว้สูงอยู่แล้ว เมื่อออกมาบอกว่าจะปรับใหม่นี่ก็ย่อมเป็นที่น่าจับตา

Senna Tower ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในบราซิล ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ Ayrton Senna นักแข่งรถชื่อดังชาวบราซิล

ล่าสุดประเทศบราซิลเตรียมสร้าง 'หอคอยเซนนา' (Senna tower) ตึกระฟ้าที่จะมาเป็นหอคอยที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดในโลก (ไม่ใช่ตึกที่สูงที่สุดในโลกนะ)

"Day and Night Park" ไอเดียร้านหนังสืออิสระแบบป็อบอัพจากปักกิ่งที่ช่วยทำให้คนเข้าถึงสื่อสิ่งพิมพ์ได้ง่ายกว่าเดิม

"Day and Night Park" ไอเดียร้านหนังสืออิสระแบบป็อบอัพจากปักกิ่งที่ช่วยทำให้คนเข้าถึงสื่อสิ่งพิมพ์ได้ง่ายกว่าเดิม


© 2018 CONDOTIDDOI

ME ESTATE CO.,LTD
92/21 HOLLYWOOD STREET CENTER
PHAYATHAI RD. RACHATEVEE
BANGKOK 10400 THAILAND

02-656-6776
condotiddoi@gmail.com

CONTACT US

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

085-546-4694

info.condotiddoi@gmail.com

Copyright www.condotiddoi.com © 2018
web design & programming by www.smilephp.com