"ชีวิต อโศก" อีก 1 คอนโดในตำนาน ผมขอสรุปที่มาที่ไปของคอนโดตัวนี้ให้อ่านกันสำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยนะครับ
1. เมื่อกลางปี 2558 AP ได้ปลุกแบรนด์ "LIFE" กลับมาอีกครั้ง กับ Project "Life Asoke" ด้วยคำโปรย "One Step to MRT"
2. จริงๆ ทำเลของ "Life Asoke" ไม่ได้ติดรถไฟฟ้าขนาด "1 ก้าว" แต่ AP ลงทุนขออนุญาตเจาะบันไดของทางเดิน Skywalk ที่เชื่อมระหว่าง "MRT เพชรบุรี และ ARL มักกะสัน" ให้มาลงหน้าโครงการพอดี อย่างไรก็ตามต่อให้ไม่เจาะบันไดตัวนี้ "Life Asoke" ก็ใกล้ทั้ง "MRT เพชรบุรี" และ "ARL มักกะสัน" อยู่แล้ว โดยอยู่ตรงบริเวณด้านหลังของ "รพ.ผิวหนังอโศก"
3. ในช่วงนั้น AP เปิดตัวขาย 2 โครงการพร้อมกัน นอกจาก "Life Asoke" แล้วอีก 1 โครงการก็คือ "Rhythm รางน้ำ" ซึ่งกระแสในตอนแรกโน้มเอียงไปทาง "Rhythm รางน้ำ" มากกว่า
4. ด้วยความ Hot ของ Rhythm รางน้ำ ทำให้ AP ตัดสินใจเปิดรอบ "Investor Day" เป็นครั้งแรก โดยมีการกำหนดว่า "สามารถซื้อ Rhythm รางน้ำ ได้ไม่เกิน 5 ห้อง แต่ต้องจอง Life Asoke ไปด้วยนะ" เรียกได้ว่า "Rhyrhm รางน้ำ" เป็น "นางเอก" แต่ "Life Asoke" เป็นแค่ "เพื่อนนางเอก"
5. แต่สถานการณ์กลับ "พลิกผัน" ในช่วงก่อนการ Pre-Sale ไม่นาน อยู่ๆ คนก็เทมาทาง "Life Asoke" กันเยอะขึ้น จนทำให้มีการ "ต่อคิว" ล่วงหน้าถึง 3 วัน!!! ทาง AP มีการจัด "Food Truck" มาบริการตรงจุดที่มีการยืนต่อคิวกันเลยทีเดียว มีการ "ขายคิว" กันในราคาหลายพันจนถึงหลักหมื่นบาท!!! ในวันนั้นมีคนไปร่วมงาน "หลายพันคน" ทั้งๆ ที่มีห้องแค่ 1,600 กว่ายูนิต
6. สาเหตุที่ทำให้ "Life Asoke" Hot ขึ้นมาก็เพราะ "ราคา" ที่ไม่แพงจนเกินไป ขนาดว่ามีการขายต่อกันในระดับบวกกำไรกัน 2-3 แสนบาท ราคาต่อตารางเมตร ยังอยู่ในระดับ 130,000 - 140,000 บาท/ตร.ม. เลย ซึ่งในทำเล "กลางเมือง" และ "ติดรถไฟฟ้า" แบบนี้ ถือว่าไม่แพงเลย
7. หลังงาน "Investor Day" และ "Pre-Sale" ผ่านไป โครงการขายได้ประมาณ 70-80% ภายใน 2 วันที่เปิดขาย ด้วยความที่ยูนิตค่อนข้างเยอะ (1,600 กว่ายูนิต) จึงไม่ถึงกับ Sold Out (หลายคนก็มีตำแหน่งที่ต้องการ ถ้ามีคนจองไปแล้วก็ไม่เอาห้องอื่น) แต่อีกไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ทางเวปไซต์ของ AP ก็ขึ้นคำว่า "Sold Out" อย่างเป็นทางการ
8. "Life Asoke" มีการ "Resale" เปลี่ยนมือกันเป็นว่าเล่น สร้างกำไรระยะสั้นกันถ้วนหน้า อย่างไรก็ตามคนที่อยากอยู่อาศัยจริง (Real Demand) ก็มีเยอะเช่นกัน จึงทำให้การซื้อขายดาวน์จึงเกิดขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
9. หลังจากเปิดขายไปได้ไม่นาน ทาง AP ก็ได้ถอน Sale ออกจากโครงการนี้เกือบทั้งหมด โดยแต่งตั้งให้ "Bangkok Citismart" หรือ "BC" ที่เป็นบริษัทลูกของ AP เอง เข้ามาจัดการโครงการ "Life Asoke" ต่อ ทั้งในแง่การขาย "Resale" หรือ บริการในด้านอื่นๆ
10. "BC" เป็นบริษัทลูกของ "AP" ที่ทำหน้าที่เป็น Agency จัดการทางด้าน Resale ให้กับคอนโดทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะเพียงคอนโดในเครือ AP เท่านั้น ซึ่ง "BC" เองก็สามารถจัดการ Resale ให้กับลูกค้าในโครงการ "Life Asoke" ได้หลายร้อยห้องในระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา
11. หลัง "Life Asoke" ก่อสร้างมาได้เกือบ 2 ปี ทาง "พี่สิงห์" ก็ประกาศอภิมหาโครงการ "พี่สิงห์ ซับซ้อน" ขึ้นที่ฝั่งตรงข้าม (แต่ราคาสูงกว่า 2 เท่า!!!) โดยไฮไลท์ก็คือ "การขอ MRT เจาะทางเชื่อมใต้ดิน" เพื่อเข้าสู่ตัวโครงการเลย แต่นั่นยิ่งเป็นประโยชน์ต่อ "Life Asoke" เข้าไปอีก เพราะทำให้คนที่อยู่ "Life" สามารถเดินผ่านทางเชื่อมรถไฟฟ้าไปใช้สิ่งที่อำนวยความสะดวกที่ "พี่สิงห์ ซับซ้อน" ได้ง่ายขึ้นไปอีก
12. อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ MRT เองก็ได้สร้าง "Metro Mall" ขึ้นมาในตัวสถานีเองแล้ว ที่ "Exit 2" โดยได้นำเอาร้านค้าชื่อดัง เช่น Starbucks, Gourmet Market หรือ Lawson ฯลฯ มาบริการอย่างเต็มรูปแบบ ยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับ "Life Asoke" เข้าไปใหญ่เลย
13. "Life Asoke" ในวันนี้ (22 กพ. 61) เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยทาง AP ตั้งเป้าที่จะทยอยเรียกตรวจห้องในเร็วๆ นี้ โดยจะเริ่มจากชั้นเตี้ยๆ ก่อน
14. จากที่ผมไปด้อมๆ มองๆ ห้องจริงมา ผมชอบ ห้อง 1-bed 29 ตร.ม.ที่สุดนะ มันดูกว้างกว่าที่คิด (จากที่เห็น layout ในหน้ากระดาษ) รองลงมาก็คือ ห้อง 2-bed 54.5 ตร.ม. คือมันดูไม่ใหญ่ก็จริง แต่มีความเป็นสัดส่วนที่ลงตัวดีนะ
15. ส่วนกลางยังไม่เรียบร้อยนัก แต่ก็พอมีเค้าที่โอเคอยู่ ถึงแม้ผมจะคิดว่าสู้ "Rhythm" ไม่ได้ก็ตาม (ก็คนละเกรดนี่นา) แต่ก็สวยกว่า "Life" โครงการที่ผ่านมานะ
16. "Life Asoke" เป็นโครงการที่ "ต่างชาติ" สนใจกันมาก เพราะสามารถเดินขึ้น "ARL มักกะสัน" ไปลง "สนามบินสุวรรณภูมิ" ได้เลย อย่างไรก็ตามทาง "BC" ยืนยันว่า จากข้อมูลล่าสุด สัดส่วนของคนต่างชาติยังเหลืออีกเยอะ (คนที่รอขายต่อคนต่างชาติสบายใจได้ ฮ่าฮ่า)
17. ทาง "BC" ฝากมา "โปรโมต" ว่า ใครสนใจซื้อ Resale ก็ลองมาดูได้ เค้ามีโปรฯออกมาน่าสนใจ คือ ถ้าใครซื้อผ่าน "BC" จะได้ "Free All" พวกค่าโอน ค่าส่วนกลาง เงินกองทุน บลาๆๆๆ (อันนี้ไปถามละเอียดๆ กับ BC เองละกัน อิอิ) ซึ่งคนที่ซื้อกับ AP มือแรกกับคนที่ซื้อต่อจากเอเยนต์เจ้าอื่นก็จะ "ไม่ได้ Free All นะ" ในมุมผม ถ้าลองไปเลือกห้องที่บวกกำไรมาไม่มาก แล้วได้ "Free All" ก็น่าสนใจนะครับ โดยเฉพาะคนที่จะซื้ออยู่เองแล้วจะใช้สินเชื่อ คุณจะได้เหลือเงินไปแต่งห้องได้มากขึ้นนะ แต่ๆๆ โปรนี้เค้ามีจำกัดบางชั้น คือ "ชั้น 5-18 " และมีระยะเวลาที่จำกัดนะ คือต้องจองภายใน วันที่ 24 กพ. - 15 เม.ย. 61 และจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ภายใน วันที่ 26 เม.ย. 61 เท่านั้น ก็ต้องรีบหน่อยนะ
18. ปัญหาอีกอย่าง (อันนี้ผมก็เคยเจอ) บางคนที่อยากจะซื้ออยู่เอง และมี "ศักยภาพ" ในการกู้ แต่เงินสดอาจจะไม่พร้อม เช่น ราคาห้อง 4 ล้าน แต่ผ่อนดาวน์มาแล้ว 4 แสน ถ้าเราจะไปซื้อต่อก็ต้องเอาเงินสดให้คนขาย 4 แสน+กำไร ซึ่งเราอาจจะไม่สะดวกจ่ายเงิน 4 แสน+ ในตอนนี้ แต่เราก็มั่นใจว่า "กู้ได้แน่ๆ" ครั้นจะไปให้ธนาคารออกสินเชื่อมาให้ก่อนแล้วค่อยเอาไปจ่ายผู้ขาย ก็ทำไม่ได้อีก ......แต่วันนี้ BC เค้าไปคุยกับ "ธนาคาร" มาให้แล้วครับ เค้ามีวิธีที่จะจัดการให้มัน Smooth ได้ ขอแค่คุณคิดว่าคุณมีศักยภาพในการกู้ได้จริงๆ เอาเอกสารต่างๆ ไปแสดง เดี๋ยวเค้าจัดการให้ ..... รายละเอียดตรงนี้ ลองไปคุยกับทาง "BC" ก่อนได้เลยนะครับ
19. ส่วนผมน่ะเหรอ ...... ขายไปหมดละ แต่พอไปดูมาแล้ว คันไม้คันมือแฮะ .... ขอตัวไปหา "ทัพพี" ก่อนนะ อิอิ
#Lifeasoke #BC #BangkokCitismart #คอนโดติดดอย