หลังจากเหตุการณ์ที่คนไทยไม่อยากให้เกิดขึ้นได้ผ่านพ้นไป ผมก็เพิ่งจะมีโอกาสได้รู้จักกับวัดนี้เอง
ช่างน่าอายจริง ทั้งที่ "พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ" ได้สร้างมานับสิบปีแล้ว
หลังจากนั้น ผมจึงพยายามหาเวลาไปเยือนมาตลอด จนเพิ่งมาสบโอกาส ก็ไม่กี่วันนี้เอง
"พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ" ตั้งอยู่ริมทะเลบ้านกรูด ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
วิธีเดินทางไป ลองเซิชหาในอากู่ดูนะ ไม่ยาก
ผมเองก็ขับมั่วๆหลงๆไป คงแนะนำไม่ค่อยได้ 555
"พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ" จะอยู่ในวัดทางสายนะครับ ซึ่งจะอยู่บนเขาธงชัยอีกที
ตอนที่เราขับรถขึ้นเขามาสัก 1 กม. เราก็จะเจอกับ "พระพุทธกิติสิริชัย" ตั้งอยู่ก่อนเลย
"พระพุทธกิติสิริชัย" เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิปิดทอง แบบศิลปะอินเดีย นั่งขัดสมาธิบนดอกบัว
หน้าตักกว้าง 5 วา เปรียบได้กับขันธ์ทั้ง 5 มีความสูง 9 วา เปรียบได้กับนวโลกุตตรธรรม 9
มีฐานกว้างโดยรอบ 16 วา เปรียบได้กับโสฬสญาณ
มีศาลาพัก 3 หลังหมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา ทางเดินขึ้น 2 ข้าง เปรียบได้กับสมถะและวิปัสสนา
บรรยากาศโดยรอบ สงบ ร่มรื่น มากครับ มีลมทะเลพัดขึ้นตลอด
มีให้ทำบุญพระประจำวันเกิดด้วย ทำกันตามศรัทธาได้เลย
หลังกราบ "พระพุทธกิติสิริชัย" กันแล้ว ก็ได้เวลาขึ้นเนินไป "พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ" กันต่อ
ทางเดินขึ้นไปจะเป็นเนินสูง ตัวผมเอง ไม่ค่อยถนัดการเดินขึ้นเขาขึ้นเนินเท่าไร ลองสอบถามแม่ค้าท้องถิ่นดูก่อน น่าจะเป็นการดี
แม่ค้าแถวนั้น เขาบอกว่าเดินขึ้นไม่ไกลหรอก พ่อหนุ่ม แค่ 120 ม. เอง
อ๋อ 120 ม. เอง ก็น่าจะไหวน่า
ผมเลยกวักมือเรียกภรรยา และลูกน้อย "ไป ขึ้นโลด"
หลังขึ้นไปได้หน่อย โอ้ย 120 ม. จริงเหรอ ทำไมไม่ถึงสักกกที เป็นเสียงบ่นอุบอิบเป็นระยะของผม และภรรยา 555
เดะบุญ ที่เอารถขนเด็กมาด้วย
ถ้าต้องให้อุ้ม "เจ้ล่ำ" (สมญาที่พี่สาวตั้งให้ลูกผม) ขึ้นไปด้วย
สงสัยจะขึ้นไปไม่ถึงนะ อิอิ
เดี๋ยวลงไปนี่ น่าดู แม่ค้า หลอกกันได้ ฮึ่มๆๆ
ผมขึ้นไปถึงในสภาพเหงื่อซกทีเดียว 120 ม.เองนี่หว่า รู้สึกอย่างกับ 12 กม. ความแก่นี่มันไม่ดีจริงๆเนอะ
พลันที่ผมขึ้นไปถึง ความเหนื่อยล้า ก็ดูจะหายเป็นปลิดทิ้ง
เฮ้ย นี่มันฝีมือมนุษย์จริงหรือเนี่ย?!! ช่างงดงามราวกับ เทวดาเป็นผู้สรรสร้าง
"พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ" มีลักษณะเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูง 5 ชั้น(ขันธ์ 5) เนื้อที่กว่า 3 ไร่ กว้างด้านละ 50 เมตร และสูง 50 เมตร สื่อถึงการครองราชย์ครบ 50 ปีของรัชกาลที่ 9 และเจดีย์หมู่ 9 องค์สื่อถึง รัชกาลที่ 9
พลันที่ผมจะเดินเข้าอุโบสถ ผมก็เกิดอาการร้อนรุ่มทางกายทันที
โอ้ยๆๆๆ หรือว่าผมจะไม่สามารถเดินเข้าไปในศักดิ์สิทธิ์สถานแห่งนี้ได้กันนะ..!!!
"พอเถอะ พ่อคุณณ.. อย่าเยอะๆ แค่พื้นมันตากแดดร้อนแค่นี้" เสียงภรรยาของผมบ่นออกมา
เอ้า เหรอ 555 เอาล่ะ เข้าไปข้างในกันดีกว่าเนอะ
อัยยะ..!!! ด้านนอกว่างดงามแล้ว ด้านในกลับวิจิตรยิ่งกว่า
ผมไม่รู้ว่าจะบรรยายว่าอย่างไรดี บรรยายยังไงก็ไม่เท่าภาพที่เห็นจริงๆ
จิตรกรรมตามผนัง ประตู องค์พระ ล้วนแต่งดงามเกินกว่าจินตนาการ
โดยเฉพาะพระประธาน "พระพุทธลีลากาญจนวบพิตร" ปางลีลา จำลองมาจากสมัยกรุงสุโขทัย ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่า เป็นพระพุทธรูปปางลีลาที่งามที่สุดในโลก
ตอนที่ผมเดินดู รู้สึกว่าเป็นอุโบสถที่แปลก เหมือนมีสถาปัตยกรรมความเป็นโบสถ์มารวมอยู่ด้วย ซึ่งผมว่าสวยทีเดียว
ภายหลังกลับมา ลองหาข้อมูลดู ก็เป็นจริงดังคาด
แนวคิดการก่อสร้างเป็นแบบใหม่ โดยร่วมเอาโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญมารวมอยู่ในตึกเดียวกัน สวยดีๆ
วิวภายนอกก็ดี อากาศก็สดชื่นสบาย
น่าเสียดายจังที่ไม่ได้ขึ้นไปสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปทองคำปางประจำพระชนมวาร ของรัชกาลที่ 9
เพราะเขาจะเปิดให้คนทั่วไปได้สักการะในช่วงวันวิสาขบูชาเท่านั้น ว้า...
เผลอแว่บเดียว ผมก็ใช้เวลาอยู่ที่นี่ไปหลายชม.อย่างไม่รู้ตัว
มารู้ตัวอีกที่ก็ตอนที่ สัญชาตญาณนักล่า(ของอร่อย)ในตัว ได้ส่งสัยญาณไปหาสมองว่า "หิวแล้วจ้า" อิอิ
ก็ถึงเวลาที่ผมต้องกราบลา "พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ" แล้ว ชื่อนี้เป็นฃื่อที่รัชกาลที่ 9 พระราชนามให้นะครับ
ใครยังไม่เคยมา ผมขอแนะนำอย่างยิ่งว่า
มาเถอะครับ กับ “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” พระมหาธาตุเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 9
วัดที่สร้างขึ้นมาเพื่อพ่อ โดยเงินบริจาคของประชาชนผู้มีจิตศรัทธาล้วนๆ
ตอนลงมาถึงด้านล่าง ผมรีบปรี่ไปหาแม่ค้าที่ผมเคยถามทางทันที หนอย 120 ม.
พร้อมกับพูดว่า "แม่ค้า!! โกโก้เย็น 2 แก้วจ้า" อิอิ
ก็แหม จริงๆก็คงจะ 120 ม.นั่นแหละครับ
แต่ผมคงขาดการออกกำลังกายไปหน่อยเอง สงสัยกลับไปต้องฟิตหน่อยซะแล้ว
ก่อนจากกันไป มีร้านอาหารที่คนท้องถิ่นแนะนำให้ไปลองลิ้มดู
สโลแกนของร้านคือ "อาหารทะเลสไตล์พื้นบ้าน"
แต่ขอบอกว่ารสชาดไม่บ้านๆเลยครับ อร่อยดีทีเดียว และที่สำคัญราคาสบายกระเป๋า
ร้านอาหารที่ว่าก็คือ "สองอ่าว ซีฟู้ด" ที่ตั้งก็ไปเซิชหาในอากู๋ได้อีกเช่นกัน
ผมลองชิม ปลาลิ้นหมาทอดน้ำปลา ดูด้วย
ก่อนสั่ง คุณภรรยาทักว่า จะดีเหรอ ชื่อดูไม่ค่อยน่าทานนะ 555
ตั้งแต่เกิดมา ผมก็ไม่เคยกินปลาลิ้นหมาเลยแหะ
แต่เนื่องด้วยเป็นคนชอบลอง จึงสั่งไปเรียบร้อย
ซึ่ง...อร่อยดีครับ แนะนำๆ
เมนูอื่นๆ อย่าง กุ้งซอสมะขาม ออส่วน ก็ล้วนแต่อร่อยลิ้นดีแท้
เผลอแป๊บเดียว ของทุกอย่างที่สั่ง ก็ไปรวมกันในตัวพวกผมเสียแล้ว 555
เช็กค่าเสียหายดู ไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น เออ ถูกจริง
ถ้าจะไป แนะให้ไปตอนเย็นๆนะครับ ถ้าไปค่ำๆ อาจจะไม่มีโต๊ะว่างแล้ว..!!!