มีใครยังใช้มือขวาถือไม้กวาด มือซ้ายถือที่โกยขยะอยู่บ้าง?!
ก็ต้องมีบ้างแหละเนาะ… แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่าถ้าเป็นชาวคอนโดแล้วหล่ะก็ ส่วนใหญ่หันมาจับเครื่องดูดฝุ่นกันแทนไม้กวาดแทบทั้งนั้น
คือไม่ใช่ไม้กวาดไม่ดีเน้อออ แต่ต้องยอมรับว่าไม่เหมาะกับคอนโดจริงๆ เพราะต้องมีที่โกยขยะและเอาไปทิ้งลงถังขยะอีกแลดูลำบากอ่ะ และด้วยพื้นที่อันจำกัดทำให้จะวางไว้ไหนก็ดูไม่สวยงาม
สู้เครื่องดูดฝุ่นไม่ได้ ที่มีดีไซน์ทันสมัยคล้ายหุ่นยนต์ ดูงามอล่ามแท้แลตะลึง (นี่ก็เวอร์ปายย) ใช้งานก็ไม่ยากและยังเป็นของตกแต่งห้องได้อีกด้วย
ที่พูดมาไม่ใช่อะไรหรอก จะมารีวิวเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้อยู่ให้ทุกคนได้ยลโฉมกัน คือแบบบบ… มันดี๊ดีอ่ะทู๊กคน!!! เมื่อเทียบจากบรรดาพี่น้องเราที่ซื้อมา (3 เครื่อง) เราชนะขาดลอยไม่เห็นฝุ่น… อยากรู้แล้วล่ะซี้! ว่ายี่ห้ออะไร รุ่นไหน ราคาเท่าไหร่ เจ๋งจริงหรือโม้… ไปอ่านกันในโพสต์หน้าค่า!!! #หยอกๆ #โพสต์นี้แหละ #ถถถถถ
ปอ.ลิง. ไม่มีสปอนเซอร์ใดๆ มาจ้างทั้งสิ้น เดินเลือกและรูดบัตรเองกับมือนะค้าา
(แต่ถ้าใครอยากจ้าง ไม่ว่าจะเจ้าเก่า เจ้าใหม่ เจ้าไหนเราก็รับนะ... ล้อเล่นค่า... แต่คิดจริง... ยังๆ... ยังไม่มีใครจ้าง?... ยังไม่เลิกเล่นเนี่ย! ฮ่าๆๆ)
เครื่องดูดฝุ่นที่เราใช้เป็นของอีเลคโทรลักซ์ รุ่น ZAP9940 รูปร่างหน้าตาเท่ไม่หยอก ตัวเครื่องก็สีแดงแรงฤทธิ์ทีเดียวเชียว
ขอยอมรับก่อนเลยว่าตอนที่ไปเดินดู แบรนด์นี้ไม่ได้อยู่ในสายตาสักกะนิด เพราะเคยใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นของคุณพี่เค้าแล้วมันไม่เวิร์กเลยจริงๆ แต่กับคนอื่นอาจดีก็ได้นะ อันนี้ความคิดเห็นเราเองล้วนๆ ไม่มีใครผสม (ไม่ฟ้องกันเนอะ แหะๆ)
เจ้าเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้เป็นแบบกล่องเก็บฝุ่นด้วยนะ ความจุกล่องเก็บฝุ่น 1 ลิตร และใช้ระบบกรองฝุ่น Cyclonic สามารถแกะออกง่าย ล้างสะดวก
มาพร้อมกับกำลังไฟ 1,900 วัตต์ ถือว่ากำลังดี ดูดแรงสะอาดอยู่เหมือนกัน (เพราะเราใช้ลมกลางๆ ค่อนไปทางแรง ฮ่าๆ) ใช้เวลาดูดแป๊ปปปปเดียวก็เสร็จเรียบร้อย
แต่ๆๆ เราชอบตรงการปรับแรงดูด คือมันสามารถปรับที่ด้ามจับได้เลย ซึ่งดีมากเวอร์ สบายไปอี๊กกก ไม่ต้องก้มลงไปปรับที่ตัวเครื่องให้เมื่อยหลังเหมือนรุ่นอื่นๆ… เริศตรงนี้แหละ!
ขณะที่หัวดูดพื้นและพรม ก็ไหลลื่นไปกับพื้นได้ดีทั้งพื้นกระเบื้องและพื้นไม้ ซึ่งช่วยให้ดูดสะอาดมากยิ่งขึ้น
ต่อๆ ข้อดีของนางยังมีอีก นั่นก็คือ… หัวดูด… เรียกว่าอะไรหว่าจำไม่ได้แล้ว ฮ่าๆๆ ขอเรียกหัวดูดที่นอนละกัน มีลักษณะเป็นแบบแปรงปั่นขน เอาไว้ดูดพวกผ้าปู หมอน ผ้าห่ม พี่(ตุ๊กตา)หมี ดูดได้ทุกอย่างที่อยู่บนที่นอน คือสามารถเก็บผมที่ร่วงเกินสิบเส้นและไรฝุ่นได้หมดจดจริงๆ (ออกแรงกดหัวดูดให้ทาบลงกับที่นอนนิดนึง)
ซึ่งหัวดูดอันนี้เสียงดังกว่าหัวดูดพื้นอ่ะ แอบรำคาญ... ไม่สิ ที่จริงก็ไม่แอบอ่ะ รำคาญเลยหล่ะ ต้องรีบดูด แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ก็โอเคยอมรับได้ (โนบอดี้เพอร์เฟคอ่ะเนอะ)
ส่วนหัวดูดอื่นๆ ลองของแค่ครั้งแรกด้วยความเห่อ แต่หลังจากนั้นก็เก็บเข้ากรุเพราะขี้เกียจเปลี่ยน อิอิ
(ซึ่งจำไม่ได้แล้วด้วยว่าเอาไว้ดูดอะไร... แอมซอรี่ จั๊กจี้หัวใจ ไอแอมตกบันได... ฮั่นแน่!! มีแอบร้องต่อ เรารู้นะ )
ความจริงอีกหนึ่งอย่างที่เราชอบไม่แพ้หัวดูดพื้นและที่นอน นั่นก็คือการไม่ต้องใส่หัวดูดเลย เหลือแต่ปล้องเปล่าๆ เราเอาไว้ใช้ดูดตะแกรงหน้าพัดลม ฝุ่นที่เกาะหายเกลี้ยง (นานๆ เราจะล้างพัดลมสักทีน่ะ เหตุผลก็เหมือนเดิมขี้เกียจ ฮ่าๆ)
อ่านมาถึงตรงนี้เดี๋ยวจะหาว่าอวยเวอร์เกิน… ข้อเสียของเจ้าเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้ก็มีเหมือนกัน คือถึงแม้ตัวเครื่องจะเล็กและมีน้ำหนักไม่มาก และเคลมว่าสามารถหมุนได้ 360 องศาก็จริง...
แต่การเลี้ยวรู้สึกว่ายากมาก ไม่ค่อยเลี้ยวได้ดั่งใจสั่งเลย หรือเราบังคับไม่เป็น เอ๊ะ! หรือเป็นเลี้ยวหักซอกเลยทำไม่ได้ ฮ่าๆ… ใครใช้รุ่นนี้อยู่เหมือนกัน แนะนำมาได้นะ (เผื่อผิดที่ฉันเองตัวของฉันเอง~)
ข้อเสียอีกอย่างก็ที่บอกไป... หัวดูดที่นอนดังมาก คือถ้าหัวดูดทาบกับที่นอนเสียงจะเบา แต่พอยกขึ้นเท่านั้นหล่ะ มันจิ๊ดเลย ขึ้นเลยเนี่ยยย!!! (เดี๋ยวๆ หัวร้อนทำไม มันคนละจี๊ดดด) แต่ข้างห้องคงไม่ได้ยินไม่อย่างนั้นคงมีสายด่วนโทรมาคอมเพลนเราละ ฮ่าๆๆ
อ่ออ! ราคาก็ไม่แพงแต่จำตัวเลขชัวร์ๆ ไม่ได้แล้วอ่ะน่าจะประมาณ 3,990 บาท (นี่คือไม่ชัวร์?) ตอนเราซื้อมีโปรลดราคาพอดี แต่ถ้าซื้อตอนนี้ราคาก็น่าจะลงแล้วหล่ะ(มั้ง)
มารีวิวให้ดูไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเพื่อนๆ ชาวคอนโดที่ยังคิดไม่ตก คิดไม่ออก บอกไม่ถูกว่าจะใช้รุ่นไหนดี ลองเอาตัวนี้ไปพินิจพิจารณา ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนกันดูค่า ไม่ซื้อไม่ว่าเพราะเราไม่ใช่คนขาย (แต่คนขายห้ามเอาขวานมาทุบเรานะ...อ่ะล้อเล่นนนน)
สุดท้ายนี้... ดูจากรูปที่โพสต์ก็น่าจะรู้ว่าใช้จริง เยินจัง โนสแตนด์อิน อย่าสตั๊นกันนะ ฮ่าๆๆ... ฟิ้ววววว (สลายตัว)