อยู่ฝั่งธนฯคิดถึงฝั่งกรุง ล่ะไปอยู่ฝั่งกรุง ก็คิดถึงฝั่งธนฯ อยู่ฝั่งกรุงจะกลับฝั่งธนฯ ล่ะพออยู่ฝั่งธนฯ ก็จะกลับฝั่งกรุง โอ้ปั๊ดโธ่ ปั๊ดโธ่ คิดถึงฝั่งธนฯ~ (ร้องให้เป็นทำนองเพลง “
สาวเมืองนนท์” นะครับ 5555)
ทุกคนเคยมีความรู้สึกเหมือนกันมั้ยว่า ฝั่งธนฯของเราเนี่ย มันมีเสน่ห์บางอย่างที่แตกต่างจากฝั่งพระนคร
อาจจะเพราะความเป็นเมืองเก่าก็เป็นได้
ซึ่งในวันนี้ ผมก็ได้มีโอกาสพาเพื่อนมาเยี่ยมชมโครงการย่านฝั่งธนฯกันบ้าง
สำหรับโครงการที่ผมจะพาเพื่อนๆไปเยี่ยมชมกันในวันนี้ก็คือโครงการ “เดอ ลาพีส จรัญ 81” (De LAPIS Charan 81) น้องใหม่ล่าสุดจากค่ายแกรนด์ ยูนิตี้ (GRAND UNITY)
หลังจากที่ เมื่อเดือนที่แล้วเค้าเพิ่งปล่อยตัว “CIELA Sripathum” ออกมาให้เราได้ยลโฉมกัน
บอกเลยว่าปีนี้ “พี่แกรนด์” เนี่ยแหละ ที่ทำให้ผมรู้สึกสนใจเป็นพิเศษเลย
อย่างที่เรารู้ๆกันตั้งแต่ต้นปีว่า ปีนี้ "พี่แกรนด์" เค้าจะปล่อยโครงการตามแผนมาทั้งหมด 4 โครงการ ในแนวคิด “สีฟ้าทั้ง 4 โครงการ”
ซึ่งถึงตอนนี้ก็ออกมาแล้ว 2 แบบ
ปีนี้พี่เค้าน่าสนใจ เพราะเค้าไม่ได้แยกแบรนด์ตามระดับของอสังหาฯ แต่เค้าเลือกที่จะแยกแบรนด์ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยมากกว่า
เริ่มสงสัยกันแล้วใช่มั้ยล่ะครับ ว่า “De LAPIS Charan 81” มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากคอนโดที่อื่นๆยังไง
เอาเป็นว่าไปลุยกันเลยดีกว่า การเดินทางนั้นง่ายกว่าที่คาด และค่อนข้างสะดวกทีเดียว
ซึ่งเส้นทางการเดินทางโครงการนั้นบอกเลยว่า มีหลายช่องทางให้เลือกสรรกันเลย
ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า (ช่องทางหลักของชาวดอยอย่างพวกเรา 555) รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รวมถึงท่าเรือก็มี ครบเครื่องใช่มั้ยล่ะ
สำหรับใครที่เดินทางมาจากอนุสาวรีย์ชัยฯแบบผมก็บอกเลยว่าสะดวกสบายตรงยาวลูกเดียว
มุ่งหน้ามาบนถนนราชวิถี ข้ามสะพานกรุงธนหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “สะพานซังฮี้”
เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์แปปเดียว ก็จะเจอโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือครับ
ซึ่งก่อนเราจะเห็นตัวสำนักงานขาย ก็จะพบสวนและป้ายของทางโครงการ
ใครที่ผ่านมาแถวนี้คงคิดเหมือนกับผมว่า ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้มันสวยดีนะครับ น่าจะอายุหลายปีเลย
อาคารสำนักงานขายที่นี่ เน้นความเรียบง่าย ตาม แนวคิด Simply Makes Sense ครับ
ซึ่งทางโครงการบอกว่า เมื่อตัวโครงการแล้วเสร็จสำนักงานขายนี้จะถูกปรับให้เป็นร้านค้าของโครงการด้วย
ร้านค้าที่นี่จะมีอยู่ 2 ร้าน แม้ยังไม่ฟันธง แต่ก็พอแย้มออกมาว่าเป็นประเภทร้านสะดวกซื้อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่นั่นเอง
บรรยากาศภายในสำนักงานขายพอเข้ามามันได้ฟีลไปอีกแบบนะครับ มันรู้สึกโล่ง โปร่ง สบายบอกไม่ถูก
อย่างที่ผมบอก สำหรับผม สำนักงานขายมันบ่งบอกสิ่งที่โครงการต้องการจะสื่อกับลูกค้าอย่างเราได้
ซึ่งที่นี่ก็ทำให้รู้สึกได้เลยแหละ ว่าความเรียบง่ายที่เห็นจริงๆแล้วมันแฝงด้วยรายละเอียดมากมาย
บริเวณด้านหน้าสุดก็จะมีโมเดลจำลองของตัวโครงการอยู่ครับ ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมของโครงการชัดเจนขึ้น
ตัวโครงการประกอบด้วย 3 อาคารนะครับ
เป็นอาคารที่พักอาศัย 1 อาคาร ทางด้านขวาของภาพ และอาคารจอดรถ 1 อาคาร ซึ่งมีความสูงต่ำลงมาทางด้านซ้ายของภาพ และอาคารด้านหน้าที่จะเป็นร้านค้า
ตัวโครงการมีระยะใกล้มากจากสถานีรถไฟฟ้าบางพลัด
ดูจากโมเดลจำลอง แทบจะรู้สึกว่ามันติดกับโครงการเลยทีเดียว
ขอพูดถึงรถไฟฟ้ากันหน่อยนะครับ สถานีรถไฟฟ้าบางพลัดที่ผ่านหน้าโครงการเราเนี่ย
เป็นหนึ่งในสถานีของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่มีการออกแบบให้เป็น "วงแหวน" ตั้งแต่แรก
โดยมันพิเศษตรงที่ เป็นแกนกลางในการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่น
ทีนี้ไปใกล้ ไปไกลแค่ไหนก็ไปได้ทั่วเมืองกันเลย แถมก่อสร้างแล้วเสร็จเกือบ 100% แล้วด้วย
สำหรับส่วนต่อขยายเตาปูน-ท่าพระ(เส้นที่ผ่านหน้าโครงการ) จะแล้วเสร็จในปี 2563
เมื่อถึงเวลานั้นคนที่อาศัยย่านฝั่งธนฯ. จะมีความสะดวกในการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากโมเดลจำลองของตัวอาคารแล้ว
ทางโครงการยังมีโมเดลจำลองของพื้นที่โดยรอบให้เราได้สำรวจกันด้วย
ซึ่งเมื่อเห็นภาพรวมแบบนี้ บอกได้เลยว่า “ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยากว่าที่คาด!!!!”
ถ้าอยู่ชั้นสูงหน่อย ผมว่าเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไม่ต่างจากพวกโครงการติดแม่น้ำเลยแหละ
แต่ราคาสบายกระเป๋าสตางค์กว่ามาก แถมยังได้รถไฟฟ้าวิ่งผ่านหน้าบ้านอีกด้วย 55555
เห็นอะไรกันมั้ย!!!
นอกจากโครงการของเราจะใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาและรถไฟฟ้ามากๆแล้ว
มองไปอีกฝั่งของแม่น้ำยังเห็นอาคาร “สัปปายะสภาสถาน” รัฐสภาแห่งใหม่ของไทยอีกด้วย
ซึ่งบอกเลยว่าคงจะเป็นวิวที่สวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว
ดูเวลาก็เกือบเที่ยงคืนนน~ เอ้ย… เที่ยงวัน!!!
น้ำย่อยในกระเพาะน้อยๆของผมเริ่มออกมาโจมตีเสียแล้ว
อย่ากระนั้นเลย ก่อนจะเข้าไปชมห้องตัวอย่างกัน ผมเลยขอแวบออกมาหาอะไรรองท้องกันก่อนดีกว่า 555
เวลาท้องหิวๆเนี่ยมักจะไม่ค่อยมีพลังงาน
ไหนๆก็เขียนถึงทำเลอยู่แล้วอะเนอะ จะได้ไม่งงกัน
ว่าแล้วผมก็เลยเดินจากโครงการออกมาทางรถไฟฟ้ากันก่อนเลยครับ เพราะอยากเห็นว่ามันจะใกล้ซักแค่ไหนกันเชียว
ซึ่งบอกเลยว่าเดินไม่กี่ก้าว น้ำย่อยไหลไม่ถึงนาที ก็เจอกับทางขึ้นรถไฟฟ้าแล้วครับ
ทางขึ้นด้านนี้จะแตกต่างจากที่เราเห็นในโมเดลของโครงการนิดหน่อย เพราะไม่ได้วางอยู่บนทางเท้า
แต่เป็นการเลื่อนออกไปตั้งข้างๆฟุตบาทแทน แถมเป็นด้านที่มีลิฟท์โดยสารซะด้วย
ใครที่กลัวว่าการขึ้นบันไดเลื่อนของรถไฟฟ้าจะไม่ปลอดภัยก็หมดห่วงได้เลย (อุ๊ปส์!!!!! ไม่ได้แซวใครนะครับ 555)
ตรงแถวสถานี ตอนนี้ยังไม่มีของหย่อนใส่ท้องเท่าไร แต่คาดว่าหลังรถไฟฟ้าเปิดทำการแล้ว น่าจะมีตามมาไม่น้อย
แหล่งบันเทิงของกระเพาะเรา ต้องเดินย้อนขึ้นไปทางซอยจรัญ 79
ตรงนี้จะมีป้ายรถเมล์ด้วยนะครับ อยู่กึ่งกลางระหว่างซอยจรัญ 79 และ 79/1 สะดวกสบายกันไป หายห่วง
ทีเด็ดเรื่องของกินของที่นี่ ผมขอยกให้ซอยจรัญ 79 เค้านี่แหละ เพราะข้างในเป็น “ชุมชนบางพลัด” ที่อุดมไปด้วยร้านค้า และของกินมากมาย
แถมยังคึกคักตลอดทั้งวันอีกด้วย ไม่ว่าจะหิวเมื่อไหร่แวะมาซอยนี้ มีของให้อิ่มท้องแน่นอน
หรือใครมีเป้าหมายแน่วแน่ที่ชอบเข้าร้านสะดวกซื้อ (แบบผม 5555) ไม่ต้องเข้าซอยชุมชนบางพลัด แค่เดินย้อนขึ้นมาทางซอยจรัญ 77/3 ก็จะเจอ 7-eleven ครับ จากโครงการเดินมาชิลๆแป๊บเดียวก็ถึง
ข้างๆ 7-eleven ก็ยังมีร้านอาหารน่าลิ้มลองอีกหลายร้านเลยครับ ไว้คราวหน้ามีโอกาส คงต้องขอเข้าไปฝากท้องซะหน่อย
สำหรับใครที่จะซื้อของใช้เข้าคอนโด เข้าบ้าน หรืออยากมาหาอะไรกินในห้าง
เลย 7-eleven ไปหน่อย ฝั่งตรงข้ามจะมี Tesco Lotus ตั้งตระหง่านอยู่ เราสามารถข้ามสะพานลอยตรงหน้า 7-eleven ได้เลย
จากโครงการมา ก็ยังเป็นระยะที่พอเดินได้ครับ ถือว่าออกกำลังกายไปในตัวเนอะ อิอิ ไม่ไกลอย่างที่คิด
นอกจากนั้น ตรงสะพานลอยที่เราข้ามมาแล้ว จะเจอกับซอยวัดอาวุธ ซึ่งเป็นซอยที่เงียบสงบดีครับ มีร้านค้าบ้างประปราย บริเวณท้ายซอยฝั่งซ้ายต่อจากวัดอาวุธมีสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษาด้วย
บริเวณติดแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะมีท่าเรือข้ามฝากในราคา 5 บาทเอง
ซึ่งพอข้ามไปก็จะไปลงบริเวณท้ายซอยของการไฟฟ้านครหลวงพอดี หรือใครที่ทำงานอยู่ในเขตสามเสนก็ถือว่าร่นระยะเวลาในการเดินทางไปได้เยอะมากๆเลย
ที่สำคัญเห็นอะไรในภาพที่กำลังก่อสร้างอยู่มั้ย “สัปปายะสภาสถาน” รัฐสภาแห่งใหม่ของไทยนั่นเอง
เห็นบรรยากาศใกล้ขนาดนี้ ก็อดตื่นเต้นในความสวยงามของมันไม่ได้ ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ อดใจรอกันต่อปายยย
เอาล่ะ หลังเติมพลังงานเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่จะพาเพื่อนๆมาชมห้องตัวอย่างกันครับ
ก่อนจะพาไปชมห้องตัวอย่างก็ขอเล่ารายละเอียดคร่าวๆของโครงการให้เพื่อนได้อ่านกันก่อนนะครับ
โครงการ “เดอ ลาพีส จรัญ 81” เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวน 635 ยูนิต ,อาคารร้านค้า 1 อาคาร มีร้านค้า 2 ร้าน (ปัจจุบันเป็นสำนักงานขายครับ) และอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น 1 อาคาร แยกออกจากตัวอาคารพักอาศัย ซึ่งมูลค่าโครงการประมาณ 2,018 ล้านบาท
พื้นที่ส่วนกลางให้มาเยอะมากทั้งส่วนของ Roof Top ซึ่งจะมี Sky Fitness, Infinity Edge Swimming Pool, Sky Garden และ Sky Lounge ที่จะมองเห็นวิวแม่น้ำแบบพาโนราม่า แถมวิวรัฐสภาแห่งใหม่อีกด้วย
โถงล็อบบี้ ให้ความสูงเพดานมาถึง 9 เมตร ใช้วัสดุตกแต่งภายในที่ดูทันสมัย หรูหรา ส่วนตัวห้องพักก็มีให้เลือกมากถึง 5 แบบ กันเลยครับ (มีห้องตัวอย่างให้ชม 3 แบบ)
- Studio ขนาด 26 ตารางเมตร
- 1 Bedroom ขนาด 26 ตารางเมตร
- 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตารางเมตร
- 1 Bedroom Corner ขนาด 34.5
- 2 Bedrooms ขนาด 60 ตารางเมตร
โครงการก็จัดเต็มเพดานสูง 2.75 เมตร ทุกห้องกันไปเลย ไม่รู้สึกคับแคบอึดอัดแน่นอน
แม้โครงการจะขายห้องแบบ Fully Fitted แต่ก็แทบเหมือนแต่งครบแล้ว ขาดเตียงและโซฟา เท่านั้นเอง
โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.49 ล้านบาทครับ (สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom)
มาเริ่มที่ห้องแรกกันก่อนเลย เป็นห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตรครับ เป็นห้องที่ออกแบบให้ทุกพื้นที่เชื่อมต่อกัน
ภายในห้องเข้ามาเราก็จะพบกับส่วนของห้องนอนเลย
ทางด้านซ้ายมือเป็นห้องครัวแบบเปิด
คนที่ชอบให้ห้องมีความต่อเนื่องกัน น่าจะโดนใจอยู่ ไม่เน้นทำครัวหนักเท่าไร
ห้องนอนเชื่อมต่อกับห้องน้ำด้วย walk in closet และแยกส่วนระเบียงครับ
ซึ่งผมชอบแนวคิดของที่นี่นะ เค้าเลือกที่จะใช้ช่องทางเดินเชื่อมเข้าสู่ห้องน้ำทั้งสองด้านให้เกิดประโยชน์
ด้านนึงทำเป็นตู้เสื้อผ้า ด้านนึงทำเป็นระเบียง
สำหรับการใช้งาน ผมว่าสะดวกดี ซักผ้า เก็บผ้า อาบน้ำ แต่งตัว ก็ทำทุกอย่างได้เสร็จภายในโซนเดียว
ไม่ต้องเดินโทงๆทั่วห้อง 555
จุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้ คือทุกระเบียงห้องพักจะเป็น private balcony
คือการสร้างส่วนบังสายตาจากนอกเข้ามาสู่ด้านในครับ อย่างที่เห็นจะมีลักษณะเป็นระแนงกั้นสายตาไว้
ทำให้ไม่ว่าจะตากผ้าระดับไหน มองจากภายนอกตัวอาคารก็จะยังคงดูมีความสวยงาม ไม่มีอะไรลอยละล่อง 555
และที่สำคีญคือเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย
ห้องต่อมาเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 ตารางเมตรครับ ขนาดห้องเท่ากับห้อง Studio เลย
จะแตกต่างกันที่รูปแบบฟังก์ชันห้องครับ
มีการแบ่งพื้นที่ภายในให้เป็นสัดส่วน เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จะเป็นยังไงไปดูกัน
เมื่อเปิดเข้ามาก็จะพบกับส่วนของห้องนั่งเล่นกันก่อนครับ ถัดจากห้องนั่งเล่น จะเป็นห้องนอนที่มีการแบ่งพื้นที่ไว้ด้วยบานกระจกสไลด์ ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ฝั่งตรงข้ามโซฟาด้านข้างทีวี ก็เป็นประตูที่กั้นออกไปสู่บริเวณห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงครับ
มุมนี้ผมว่าทำออกมาได้ดี เพราะจะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นในการทำอาหารไปได้ 100% เลย
ถือว่าเป็นห้องที่เหมาะกับคนที่ชอบกั้นห้องเป็นสัดส่วน มีการทำครัวหนัก ไม่ต้องพะวงเรื่องกลิ่นเพราะกั้นไว้แล้วนั่นเอง
มาถึงห้องตัวอย่างไฮไลท์ของโครงการครับ ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตารางเมตร
โดยจุดเด่นของห้องนี้ก็คือส่วนของคำว่า Plus ที่เพิ่มเติมเข้ามาครับ จะเป็นยังไงไปชมกัน
เมื่อเปิดเข้ามาก็พบกับส่วนของห้องนั่งเล่นก่อนอีกเช่นเคยครับ
ถัดจากห้องนั่งเล่น จะเป็นห้องนอนที่มีการกั้นพื้นที่ไว้ด้วยบานกระจกสไลด์เช่นเดียวกับห้องแบบ 1 Bedroom
ด้านหลังโซฟาของห้องนั่งเล่น เป็นส่วนของห้องครัวที่สามารถเดินผ่านไปสู่ห้องน้ำทางด้านซ้ายมือครับ
แนวคิดการออกแบบจะเห็นได้ว่า ไม่มีการกั้นพื้นที่ห้องครัวด้วยผนังหรือกระจก
แต่เลือกที่จะใช้ Counter bar เป็น Island เพื่อแบ่งพื้นที่ ทำให้ได้บรรยากาศไปอีกแบบ นั่งรับประทานอาหารอยู่ในห้องครัวก็สามารถมองข้ามโซฟามาใช้ทีวีร่วมกันกับห้องนั่งเล่นได้เลย
ถัดจากห้องครัวก็จะเป็นส่วนของห้อง Plus ที่เพิ่มเข้ามาครับ
เห็นได้ว่าห้องนี้มีพื้นที่ใหญ่พอสมควร ถือว่าเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่เราสามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ
จะห้องทำงานหรืออีกห้องนอนก็ย่อมได้ หรือทำเป็นห้องเก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่ของสาวๆก็น่าสนใจไม่น้อย
ถัดจากห้อง Plus ไปก็จะเป็นส่วนของระเบียงครับ
อีกอย่างที่ผมชอบของที่นี่ก็คือ ทุกบานสไลด์ของที่นี่ไม่ว่าจะห้องไหน จะใช้เป็นบานกระจกแบบ 3 ตอน ทำให้เมื่อมีการเลื่อนเปิดแล้วเกิดพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า และยังทำให้เกิดการระบายอากาศได้ดีกว่าด้วย
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับโครงการ “เดอ ลาพีส จรัญ 81” (De LAPIS Charan 81) น้องใหม่ล่าสุดจากค่าย "พี่แกรนด์"
โดนใจใครกันบ้างหรือเปล่าเอ่ย
อย่างที่ผมบอกไป ย่านนี้มันให้ความรู้สึกมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ที่ไม่จำเป็นต้องใกล้ห้าง หรือว่าใกล้ย่านธุรกิจใจกลางเมือง
แต่ถ้าจะเดินทางไปก็สะดวกสบายไม่ได้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตเลย แถมยังมีเสน่ห์ของความเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ยังคงให้เราได้เห็นรอบๆ ถือเป็นอีกไลฟ์สไตล์ที่คงจะถูกใจใครหลายๆคนแน่นอน
รอแค่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเปิดอย่างสมบูรณ์ก่อนเถอะ
ส่วนในแง่ซื้อเพื่อลงทุน "De LAPIS Charan 81" ก็ถือว่าเป็น 1 ในตัวเลือกที่น่าสนใจ
เพราะอยู่ใกล้กับหน่วยงานสำคัญๆ และใกล้กับมหาวิทยาลัยหลายแห่ง คอนโดคู่แข่งที่ระดับใกล้เคียงกันยังไม่ค่อยมี จึงมีโอกาสที่ดีในการปล่อยเช่าไม่น้อย และด้วยราคาที่จัดว่าไม่สูงนัก กับความใกล้สถานีรถไฟฟ้า จึงพอทำกำไรในระยะยาวหลังรถไฟฟ้าเริ่มวิ่งได้
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ “เดอ ลาพีส จรัญ 81” (De LAPIS Charan 81) พี่แกรนด์เค้าเปิดจองอย่างเป็นทางการในวันที่ 19-20 พฤษภาคมนี้แล้วนะครับ
ไปลงทะเบียนเพื่อรับ
ส่วนลดสูงสุดถึง 250,000 บาท ก่อนที่
คลิก ได้เลย