สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวติดดอยทุกคน หลากหลายสาเหตุที่เพื่อน ๆ เริ่มที่จะสนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ นอกจากจะเป็นการหาที่พักอาศัยให้ตัวเองแล้ว การซื้อเพื่อปล่อยเช่านั้นก็คงจะเป็นอีกตัวเลือกที่เพื่อน ๆ สนใจกันใช่มั้ยล่ะ

         ในสมัยนี้จะฝากเงินไว้กับธนาคารแล้วรอผลดอกเบี้ยก็ดูจะเลือนรางเหลือเกิน ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะให้ “เงินมันทำงาน” และให้มันดึงดูดเพื่อน ๆ เข้ามาหากระเป๋าของเรานั่นเอง ฮา ๆๆๆ อย่างน้อยไม่ต้องหวังกำไรมากมาย แต่เพียงให้ห้องมันได้ค่าเช่าเพื่อส่งตัวมันเองเป็น passive income ก็คุ้มค่ามากแล้ว

         วันนี้พี่หมีจึงจะมาเสนอแนวทางวิธีในการวางแผนก่อนที่จะเลือกซื้อคอนโดใด ๆ เพื่อปล่อยเช่า ว่าจะต้องคำนึงถึงเรื่องได้บ้าง เพื่อที่จะให้ผู้เช่าของเราสนใจ และเราเองก็ปล่อยเช่าได้ง่าย ไม่ต้องถือห้องติดมือไปนาน ๆ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

         1.กำหนดกลุ่มเป้าหมาย

 

         เป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดสำหรับทุกคนที่สนใจจะลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า นั่นก็คือกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง เพราะกลุ่มเป้าหมายก็คือลูกค้า คือคนที่จะยอมจ่ายเงินให้เรา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการเข้ามาอยู่อาศัยในห้องของเรา

         ดังนั้นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนจะเป็นการมองหาตลาดได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเรามีไลฟ์สไตล์แบบไหน ต้องการอยู่อาศัยในย่านใด รวมถึงการเดินทางว่าเค้าจะสะดวกการเดินทางแบบไหนเป็นหลัก และที่สำคัญที่สุดคือเค้ามีกำลังทรัพย์ในการจ่ายค่าเช่ามากแค่ไหน

         ยกตัวอย่างเช่นเราต้องการเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษา เราก็ต้องคำนึงถึงคอนโดที่อยู่ใกล้มหาลัยต่าง แต่ก็ไม่ควรจะอยู่ใกล้มากจนเกินไป เพราะจะทำให้ค่าห้องมีราคาแพง อาจจะหาผู้เช่าได้ยาก แต่ก็ทดแทนด้วยการเลือกคอนโดที่มีบริการรถรับส่ง หรืออยู่ใกล้รถสาธารณะนั่นเอง

         2.การเลือกทำเล

 

         ทำเลเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้เช่าทุกคนมันจะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเราเลือกทำเลที่ไม่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแล้ว นอกจากจะไม่มีผู้เช่าแล้ว คอนโดของเราเองก็จะติดมืออีกด้วย

         เรื่องทำเลที่คนส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจก็คือ ใกล้รถไฟฟ้าไหม อยู่ในย่านชุมชนหรือป่าว การเดินทางคมนาคมสะดวกสบายมากแค่ไหน และที่สำคัญก็คืออาหารการกินง่ายต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากแค่ไหน เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่นะทุกคน ฮา ๆๆๆ

         3.มีความต้องการห้องประเภทไหน

 

         ข้อนี้หลายคนอาจจะสงสัย ว่าถ้าเราเลือกลงทุนเพื่อปล่อยเช่าแล้ว เราจำเป็นต้องเลือกห้องที่มีฟังก์ชั่นพิเศษต่าง ๆ ด้วยหรอ ทำไมไม่ลงทุนในห้องที่มีขนาดถูกที่สุด จะได้เป็นการลงทุนน้อยที่สุด

         ป่าวเลย... ในปัจจุบันนี้คนเรามีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตก็มีความแปลกใหม่มากขึ้นเช่นกัน หลายคนอาจจะชอบทำอาหาร ทำให้การที่เราเลือกลงทุนห้องที่มีห้องครัวเป็นสัดส่วน อาจจะทำให้ค่าเช่าของเราก้าวกระโดดกว่าห้องแบบธรรมดาก็ได้

         ดังนั้นข้อคิดที่สำคัญก็คือ “ห้องที่พิเศษ ก็จะได้ราคาที่พิเศษเช่นกัน” เลือกลงทุนเพิ่มมากอีกหน่อย แต่ให้ผลระยะยาวที่ดีกว่านะ

         4.เปรียบเทียบราคาในทำเลเดียวกัน

 

         เป็นเรื่องธรรมดาที่ย่านคอนโดชุกชุมจะมีการแข่งขันของราคาสูง ซึ่งมันก็สอดคล้องกับข้อคิดในข้อที่สามนั่นแหละ เพราะคอนโดที่มีราคาพิเศษ ไม่ว่าจะ “แพงกว่า” หรือ “ถูกกว่า” มันก็ต้องมีสิ่งที่แตกต่างทำให้ราคามันต่างกัน

         สิ่งที่ควรจะสังเกตและทำการบ้านเป็นพิเศษก็คือความแตกต่างนั้นมันมีผลในระยะยาวแตกต่างกันมากไหม เช่นในเรื่องของวัสดุ ถ้าห้องที่มีราคาสูงกว่าแต่ใช้วัสดุในการตกแต่งห้องที่ได้คุณภาพมากกว่า ก็ควรจะลงทุนไป

         เพราะถ้าเราเลือกที่จะลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าแล้ว นั่นหมายความว่าการลงทุนของเราเป็นการลงทุนระยะยาว การรักษาสภาพของห้องโดยที่เราไม่ได้เข้าไปดูแลเอง ก็คือการเลือกให้วัสดุมันดี เพื่อที่มันจะได้ปกป้องตัวมันเองได้ขั้นหนึ่ง อย่างน้อย ๆ ระยะสัญญาเช่าก็ต้องเป็นปีเน้ออ

         5.เช็คส่วนกลางของคอนโด

 

         จุดเด่นสำคัญที่จะทำให้ห้องเราของนั้นน่าสนใจเมื่อเทียบกับตลาดปล่อยเช่าในพื้นที่ทำเลเดียวกัน นั่นก็คือส่วนกลางของคอนโด เพราะไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน จะทำให้ผู้เช่าสามารถตัดสินใจเลือกส่วนกลางที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้มากขึ้น

         พื้นที่ส่วนกลางของคอนโดเดี๋ยวนี้มีการพัฒนาให้ตอบโจทย์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นห้องอ่านหนังสือ ห้องชมภาพยนตร์ หรือแม้แต่ห้องครัวส่วนกลางที่มีอุปกรณ์ครัวให้ใช้ จะเป็นได้ว่าแปลกใหม่มากกว่าฟิตเนสและสระว่ายน้ำอย่างที่เคยเป็นมา