ถ้าพวกคุณได้อ่านเรื่องนี้ จงรู้ไว้เลยว่า... นี่คือมิชชันของโผมมม!!! 5555 ภารกิจไปสืบเสาะ โครงการ “RISE Phahon-Inthamara" ไรส์ พหล-อินทามระ เพื่อให้ทุกคนได้รู้ความจริงว่าจะเป็นอย่างไร!!!...
นั่นแปลความหมายได้ว่าที่นี่ต้องมีอะไร (ดีๆ) ซ่อนอยู่เป็นแน่แท้ เห็นว่าตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพไม่แพ้ที่อื่นอย่างย่านถนนสุทธิสาร...
อย่ารอช้ารีบเกาะไหล่ เกาะเอว เกาะแข่ง เกาะขา จะเกาะส่วนไหนก็ได้ แต่ห้ามขี่คอนะ ผมกลัววว!!! ฮ่าๆๆ
เอาหล่ะตามผมมาดูพร้อมๆ กันเลย!!!
หลังจากแสวงหาตำแหน่งที่ตั้งมาได้แล้วผมก็เริ่มออกเดินทางด้วย “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” อิอิ เพื่อลง “สถานี สะพานควาย” ทางออก 2
เดินลงมาข้างล่างปุ๊บ ผมต้องร้องเพลงของอะตอมเลย... จากตรงนี้ยังอีกไกล ยังมีคอน (โด) ที่เธอต้องไขว่และคว้าาา... ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตาาา~~~ พอๆ เดี๋ยวยาว 5555 เพราะเป้าหมายเราห่างจากสถานีประมาณ 800 เมตร เห็นจะได้
เป็นระยะที่ต้องบอกว่า หลายคนคงไม่ค่อยอยากใช้โควต้าการเผาพลังงานในชีวิตประจำวันซักเท่าไร อิอิ แต่ถ้าเดินบางวันก็พอได้อยู่
แต่ไม่ต้องห่วง มีบริการขนส่งที่เรียกว่า พี่วินมอเตอร์ไซค์ มารอรับเราถึงที่
แต่ถ้าใครใคร่เดิน... มาเลย!!! ผมจะเดินสำรวจให้ก่อน
เมื่อลงบันไดของ BTS มาแล้ว ก็เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล สะพานควาย ซึ่งอันนี้เป็นโรงพยาบาลที่ใกล้โครงการมากที่สุด ตามมาติดๆ ด้วย ซีใหญ่ (Big C) เอาไว้ซื้อของจับจ่ายใช้สอยเข้าห้องกัน โอ๊ะ ละก็จะเจอ ลอดช่องสิงค์โปร ร้านเก่าแก่ แต่ขอบอกว่ารสชาติไม่ธรรมดา ขอให้ได้มาลองกัน แล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกสะพานควาย
จากตรงนี้ เราสามารถเลือกเดินได้ 2 เส้นทาง ตามนี้
ทางแรก คือเดินข้ามสะพานลอยแยกสะพานควายไปและจะเจอกับ “ถนนสุทธิสารวินิจฉัย” หรือที่เราเรียกกันจนชินปากว่า ถนนสุทธิสาร
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยและมุ่งหน้าเดินตรงอย่างเดียวจนเจอกับสามแยก ก็ยังคงตรงต่อไป... เอี๊ยดดดด!!!
เบรกตรงนี้ไว้ก่อน เดี๋ยวผมจะพาไปเดินอีกทางหนึ่ง
ทางที่สอง จากแยกสะพานควายเมื่อกี้ เราไม่ต้องขึ้นสะพานลอย แต่ให้เลี้ยวซ้ายเข้า “ถนนสาลีรัฐวิภาค” และก้าวไปตามทางที่จะผ่านร้านรวงมากมายทั้ง ร้านขายยา ข้าวแกง วัตสัน Pizza Hut (แวะสั่งก่อนได้ อิอิ)
ตอนเดินต้องระวังรถตรงทางโค้งนิดนึง เพราะไม่มีฟุตบาทกั้น ดังนั้นห้ามเดินเล่นโทรศัพท์เด็ดขาด ย้ำ!!! เด็ดขาด!
พอเลี้ยวมาตามทางก็จะเจอกับสามแยกตามทางแรกที่บอกเมื่อกี้ ให้เลี้ยวซ้ายและก็เดินยาวไปปปป
หลังจากทั้งสองทางมาป๊ะกันเรียบร้อยคราวนี้ก็เดินตรงยาวอย่างเดียว
พอผ่านซอยอินทามระ 1 ยังคงเดินต่อ เดินมาอีกนิดจะเห็นปั๊มเอสโซ่ มีโลตัสเล็กๆ ด้วย อยู่ฝั่งตรงข้าม ให้ข้ามถนนมาฝั่งนี้ แต่รถจะเยอะพอสมควรเลย ค่อยๆ ข้ามนะครับ พอเห็นซอยอินทามระ 4 ที่ติดอยู่กับเซเว่น ให้เดินตรงต่อไปอีกไม่กี่ก้าว ก็ถึงเป้าหมายแล้ววววว!!!
โครงการ “Rise พหล-อินทามระ” อยู่ระหว่างซอยอินทามระ 4 และ 5 ที่การเดินทางสะดวกมากๆ สามารถตัดเข้าถนนได้ทั้งเส้นพหลโยธิน และวิภาวดีรังสิต หรือถ้าตรงออกไปก็จะทะลุไปโผล่ช่วงแยกรัชดา-สุทธิสาร
ซึ่งบอกได้เลยว่าคึกคักทุกเส้นทาง มีครบหมดไม่ว่าจะเป็น
- ของกินที่มีอยู่ตลอดทาง ทั้งแบบร้านอาหารตามสั่ง ข้าวมันไก่ คาเฟ่น่ารักๆ และอื่นๆ อีกเยอะแยะ สามารถเลือกตามใจอยากเลย
- แหล่งช้อปปิ้งก็มี เช่น Villa อารีย์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ เป็นต้น
- สถานศึกษา อย่าง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี โรงเรียนหอวัง เป็นต้น
- โรงพยาบาลก็ตามที่บอกไปข้างบน หรือในละแวกใกล้เคียงก็เช่น โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลทหารผ่านศึก เป็นต้น
- ออฟฟิศทั้งเอกชน รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ที่บอกได้คำเดียวว่าเพียบ!!!
อยากขับรถไปเองก็ทำได้ หรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ แท็กซี่ ก็โบกได้ชิลๆ แต่เจ้าของรถจะไปหรือไม่ไปนั่นอีกเรื่องหนึ่งนะ ฮ่าๆๆๆๆ
เมื่อเห็นแกลเลอรี่สีขาว-เงิน ตั้งเด่นชัดกว่าใครในย่านนี้ ผมไม่รอช้ารีบเข้าไปทันที… เข้าไปสำรวจ? หึ! เข้าไปตากแอร์เย็นๆ แล้วเดินออกมา 55555… ไม่ช่าย!!! เข้าไปทำภารกิจให้สำเร็จสิค้าบบบ…
โครงการนี้เป็นคอนโดมิเนียมรูปแบบ “High Rise สูง 40 ชั้น” 1 อาคาร มีจำนวน 384 ยูนิต เท่านั้น
เท่าที่เดินมาผมยังไม่เห็นคอนโด หรืออาคารไหนสูงเท่าที่นี่นะ
โดยตัวคอนโดแห่งนี้ดีไซน์ด้วยคอนเซ็ปต์ Iconic Blade Skyscrapers คือมีความโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย อย่างตัวอาคารเองออกแบบให้คล้ายรูปดาบ มีการไล่สเต็ปของชั้นอย่างมีระดับ
ที่นี่มีแพลนว่าจะเริ่มต้นสร้างปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2564
ดังนั้นในวันนี้ เราจะได้เห็นของจริงแค่ห้องตัวอย่างครับ ส่วนที่เหลือนั้น... ดูภาพจำลองไปก่อนละกันเนอะ
หลังจากเห็นภาพ ยอมรับเลยว่าส่วนกลางที่นี่ ดูดีมีชาติตระกูลใช่ย่อยเลย
สตาร์ทชั้นแรกในส่วนของ ‘Lobby’ ที่สร้างกิมมิกเล็กๆ ด้วยการมีน้ำล้อมรอบพื้นที่รับรอง
ผมชอบการออกแบบที่มีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้องนะ มองแล้วทำให้รู้สึกสบายตายังไงไม่รู้ และชั้นนี้ยังมี ‘Co - Working Space’ คือสวนพักผ่อนที่เวลาคิดงานไม่ออก หรืออยากเปิดหูเปิดตาจากการอยู่แต่ในห้อง ต้องมาที่นี่เลย
ส่วน ‘ที่จอดรถ’ มีประมาณ 60% เกินครึ่งมาผมถือว่าโอเคแล้ว โดยเป็นแบบ Smart Auto Parking เราไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอด แถมยังรองรับการจอดทั้งรถเล็กและรถใหญ่ แต่รถบรรทุกไม่ได้นะ อิอิ
ในเรื่องของ “พื้นที่ส่วนกลาง” ให้ Sky Rise Facility มาถึง 4 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 35-36 ต่อด้วย ชั้น 39-40 ซึ่งจะมีทั้ง
- ‘Blade Pool’ ตัวสระว่ายน้ำแนวเฉียงทรงใบมีด แบบ Infinite Edge Design สวยงามโดยเฉพาะยามกลางคืน
- ‘Sky Fitness’ ฟิตเนสที่ออกกำลังกายแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรง และได้อาหารตาด้วย… ผมหมายถึงได้ชมวิวเมืองอะไรแบบนี้นะ… ไม่ได้คิดถึงสิ่งใดเล้ยยยย ฮ่าๆๆ
- ‘Rising Star Terrace’ เป็นระเบียงเปิดโล่งที่มีความสูงหลายระดับให้เลือกนั่งเล่น พักผ่อน ชมดาว (ชมพระอาทิตย์คงไม่เหมาะ 5555) กับแฟน ครอบครัว เพื่อนพ้อง หรือจะฉายเดี่ยวก็อย่าได้แคร์ใครค้าบบบ
แต่จุดคลายแม็กของส่วนกลางอยู่ที่ตรงนี้ >>> “Iconic Rising Garden” สวนพื้นที่สีเขียวแบบวางไต่ระดับทางสูงที่ด้านหน้าของอาคาร!!!
มีประมาณ 15 ระดับได้ ต้องยอมรับตามตรงว่า ผมนี่อยากเห็นของจริงไวๆ เลย
หลังจากเห็นภาพตัวอย่างในส่วนของ Facility กันไปแล้ว น่าจะพอนึกของจริงกันออกอยู่บ้าง และต่อจากนี้ไปๆๆๆ (ทำเสียงเอคโค่ด้วยนะ คิคิ) ก็ถึงเวลาอันสมควรที่จะได้ชมห้องตัวอย่างของ โครงการ “Rise พหล-อินทามระ” กันแล้ววววว!!!
โดยห้องจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 9 - 34 ห้องต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 18 ห้อง ซึ่งทางคอนโดมีห้องให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ
1 ห้องนอน ขนาด 25 - 37.5 ตารางเมตร
2 ห้องนอน ขนาด 42 - 53 ตารางเมตร
ทั้งนี้ทางโครงการมีให้ดูแค่แบบเดียวคือ 1 ห้องนอน แต่มี 2 ขนาด โดยพื้นถึงฝ้าสูง 2.5 เมตร และให้เป็น "Fully Fitted" ได้ประตูเป็น Digital Door Lock… เดี๋ยวผมจะพาไปชมทีละห้อง
เริ่มที่ห้อง “ขนาด 37.5 ตารางเมตร” เป็นแบบ 1 ห้องนอน + ห้องอเนกประสงค์
แปลนห้องที่ผมให้ดูต่างกันที่ขนาดห้องแค่นั้นครับ เข้ามาเจอกับ ‘ห้องครัว’ เป็นอย่างแรกซึ่งเค้าแถมในส่วนของเคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ เครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า มาให้เรียบร้อยครบ อาจจะเล็กไปนิด แต่ก็เหมาะกับคนสมัยนี้ที่ก็ไม่ค่อยเน้นทำอาหารทานเองมากนัก
ใกล้เข้าไปอีกนิด… ชิดๆ เข้าไปอีกหน่อย~~ ไม่ใช่ละ ฮ่าๆ ข้างในเป็น ‘ห้องน้ำ’ ที่แน่นอนว่าให้ครบตามในภาพที่ผมถ่ายให้ดูเลย มีฉากกั้นพร้อม Rain Shower มาให้ด้วย (แต่กระจกเป็นแบบส่องธรรมดานะ)
อันนี้ผมปลื้มตรงที่มีหน้าต่างระบายอากาศบานใหญ่มาก ห้องน้ำไม่เหม็นอับชัวร์ ซึ่งเปิดออกไปจะเจอกับคอมเพรสเซอร์แอร์ซ่อนอยู่
อ่อ!!! ทางโครงการแถมแอร์ให้ 2 ตัวนะครับ โดยทั้งสองห้องจะเป็นแนวลึกเข้าไป และถูกแยกออกจากโซนอื่นๆ ด้วยกระจกใสบานเลื่อน 3 บาน
ถัดไปเป็น ‘ห้องนั่งเล่น’ ที่มีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่ง การจัดวางจึงทำได้ง่ายและเหมาะสมลงตัว ทั้งโซฟา ชั้นวางทีวี (อันนี้โครงการก็แถมให้ครับ) โต๊ะกินข้าว รวมๆ กันแล้วยังมีพื้นที่ให้เดินได้แบบสบายๆ
นอกจากนี้สิ่งที่ช่วยให้ห้องดูสว่างมากขึ้นคือกระจกบานใหญ่ ที่เกือบเต็มผนังหนึ่งด้าน ทำให้ห้องดูว่าง โปร่งดี
ด้านในสุดของห้องเป็น ‘ห้องนอน’ ขนาดไม่ใหญ่มากพอจะวางเตียง 5 ฟุต กับตู้เสื้อผ้าที่บิ้วมาให้พร้อมใช้งาน แต่ให้หน้าต่างเป็นแบบ Bay Window เต็มผนังเหมือนกับห้องนั่งเล่น ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ห้องโปร่งโล่งขึ้น
ต่อด้วย ‘ห้องอเนกประสงค์’ ที่สามารถใช้สอยได้อย่างเต็มที่ ใครเสื้อผ้าล้นตู้แนะนำทำเป็นห้องแต่งตัวไปเลยครับ หรือใครเป็นชาวเวิร์กกิ้งตัวจริงเสียงจริง จะทำเป็นห้องทำงานก็ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับใครต้องการฟังก์ชันแบบไหนก็จัดไปอย่าให้เสีย โดยทั้งสองห้องเป็นประตูทึบนะครับ
มาดูอีกห้องกันบ้างดีกว่ากับ “ขนาด 31 ตารางเมตร”
ของแถมจะเหมือนกับห้องข้างต้นทุกอย่างครับ เจอกับห้องครัว และห้องน้ำเหมือนกัน (เกือบ) เป๊ะ ต่างตรงที่ห้องน้ำไม่มีหน้าต่าง กับเปลี่ยนโซนนี้เป็นแนวกว้างแทน และเพิ่มเข้ามาคือโต๊ะกินข้าว ซึ่งวางอยู่ข้างห้องน้ำ แต่ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ น่าจะไปนั่งกินหน้าทีวีกันทั้งนั้นนะ 5555 ตรงนี้ตอนอยู่เองจริง ก็ปรับเปลี่ยนเอาตามใจชอบ
ตัวห้องนั่งเล่นเองขนาดกำลังพอดี ตรงระเบียงให้มาไม่กว้างแต่ยาว และยาวกว่าห้องเมื่อกี้อีก
ข้างหลังเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยกระจกใสแบบบานเลื่อน ซึ่งผมว่าดีกว่ากั้นด้วยประตูทึบที่จะทำให้ห้องดูตัน พอเป็นกระจกใสจะทำให้ห้องดูมีพื้นที่เยอะขึ้น แถมยังสามารถนอนดูทีวีจากที่นอนได้อีกด้วย เพราะจัดองศาได้ตรงกลางเหมาะเจาะมาก
ทิ้งท้ายกับห้องนี้ที่ไลค์สุดๆ คงต้องยกให้การบิ้วท์ตู้เสื้อผ้าที่จัดมาเต็มฝาผนัง พร้อมกระจกเต็มตัว 1 บาน ที่ทุกห้องต้องมีจริงๆ ไม่มีไม่ด๊ายยยยย
เสริมให้อีกนิดไม่รู้มีใครสังเกตไหม ว่าส่วนกลางไม่ได้อยู่ 4 ชั้นติดกัน แต่เว้นไว้ 2 ชั้น คือชั้นที่ 37-38 ซึ่งนั่นเป็นส่วนของห้องเพนท์เฮ้าส์ นั่นเองงงง!!!
'ราคาเริ่มต้น' ของโครงการ “Rise พหล-อินทามระ” อยู่ที่ 2.89 ล้านบาท ตกเฉลี่ยก็อยู่ที่ 1 แสนต้นๆ/ตร.ม.
เมื่อมาเทียบ กับความเป็นแหล่งชุมชนเก่า อยู่ติดถนนหลัก ดีไซน์การออกแบบตัวตึกที่ทันสมัย ส่วนกลางน่าใช้แทบทุกอัน วัสดุ และของแถมที่ให้มาก็เก๋กู๊ด ซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อยสามารถเข้าอยู่ได้เลย พร้อมกับทำเลที่จะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรก็ง่ายเข้าไปอี๊กกกกก… โดยเฉพาะการหาของอร่อยหย่อนใส่ท้อง
ถือว่าเป็น 1 ในคอนโดที่ นับว่าน่าอยู่เลยหล่ะครับ ราคาจับต้องได้จริงๆ ยิ่งใครทำงานหรือเรียนแถวนี้ด้วยนะ สะดวกสบายเลยแหละ
ซึ่งผมว่าถ้าสร้างเสร็จคงจะว้าว!!! น่าดูชม แต่อย่าชะล่าใจคิดว่าสร้างเสร็จค่อยไปดูนะครับ ลองไปเห็นไปสัมผัสเองตั้งแต่เนิ่นๆ เลยดีกว่า ถ้าชอบอย่างน้อยก็จะได้จองทัน ดีกว่ามาชอบตอนสร้างเสร็จแต่ห้องอาจขายหมดแล้วก็เป็นได้ และเห็นว่าจะมี Pre Sale 23 มิถุนายนนี้ นี่ผมมาบอกด้วยความหวังดีนะค้าบบบ… สนใจก็ลงทะเบียนกันก่อนเลย คลิกที่นี่
สำหรับวันนี้มิชชันผมก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว คงต้องขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบายยยยย