ได้ข่าวว่า แอร์บีแอนด์บีจะเข้าไปพบปะพูดคุยกับหน่วยงานภาครัฐ เรื่องกฎหมายรวมถึงระเบียบและข้อบังคับอื่น ๆ เกี่ยวกับการเช่าที่พักระยะสั้นในไทยได้

 

        คือมีการเก็บภาษีนักท่องเที่ยว และเจ้าของที่พัก รวมทั้งสามารถส่งรายชื่อผู้เข้าพักถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย

 

        พูดง่ายๆ ว่าทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องเป็นราวมีกิจลักษณะถูกกฏหมายนั่นเอง

 

        แต่เหมือนว่า ณ ปัจจุบันนี้จะยังทำไม่ได้ แต่ก็คาดหวังว่าน่าจะในเร็วๆ นี้ เพราะในช่วงที่ผ่านมาแอร์บีแอนด์บีได้พยายามนำเสนอข้อมูลแก่ภาครัฐ เกี่ยวกับผลกระทบเชิงเศรษฐกิจว่าแอร์บีแอนด์บีสร้างประโยชน์ต่อคนในท้องถิ่นและภาคการท่องเที่ยวไทยมากแค่ไหน

 

        โดยปัจจุบันมีเจ้าของที่พักในไทยอยู่ในระบบแอร์บีแอนด์บีกว่า 61,400 ราย ยกตัวอย่างสถิติเมื่อปี 2560 มีจำนวนผู้เข้าพักในไทยกว่า 1.2 ล้านคน เติบโต 66%

 

        เมื่อเทียบกับปีก่อน สร้างรายได้ให้กับเจ้าของที่พักในไทยรวมกว่า 4,000 ล้านบาท โดยเจ้าของที่พักมีรายได้เฉลี่ยผ่านแอร์บีแอนด์บีที่ 67,000 บาท จากการให้เช่าที่พัก 29 คืนต่อปี

 

        ซึ่งก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นคู่แข่งกับโรงแรมในไทย เพราะปีที่แล้วมียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวในไทย เติบโต 9%

 

        ส่วนของรายได้เองก็เติบโตถึง 12% เลยทีเดียว จึงไม่น่าเป็นห่วงหรือต้องกังวลอะไร

 

        ทั้งนี้การเช่าที่พักแบบระยะสั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้นักท่องเที่ยว และยังเป็นการช่วยเพิ่มรายได้เข้าไทยอีกด้วย ซึ่งเจ้าของที่พักต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าจะสำเร็จเมื่อไหร่

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ