นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการและเลขานุการบริษัท บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้อนุมัติให้บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จํากัด (SPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทศุภาลัยฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท มั่นคงเคหะการ จํากัด (มหาชน) (MK) โดยการทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยสมัครใจ

 

        โดยเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ MK จํานวน 992,010,177 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 100.00 ของทุนจดทะเบียนและชําระแล้วของ MK โดยจะเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจากผู้ถือหุ้นของ MK ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 4.10 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 4,067.24 ล้านบาท

 

        ทั้งนี้ รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 รายแรก ปรากฎว่า นายประทีป ตั้งมติธรรม ถือหุ้น 112,038,620 หุ้น สัดส่วนร้อยละ 11.29

 

        สำหรับบริษัท มั่นคงเคหะการฯ โดยธุรกิจ ประกอบด้วย 2 ธุรกิจหลัก ซึ่งได้แก่

 

        1. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายมาแล้วกว่า 64 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ภายใต้ชื่อ “ชวนชื่น” และ “สิรีนเฮ้าส์”

 

        รูปแบบผลิตภัณฑ์ของ MK ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โดย MK โดยระดับราคาบ้านของ MK เฉลี่ยประมาณเท่ากับ 2.0 - 5.0 ล้านบาท ในปี 2560 MK มีโครงการประเภทที่อยู่อาศัยที่เปิดดําเนินการทั้งหมด 12 โครงการ

 

        2. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและบริการ เป็นธุรกิจที่ MK มุ่งเน้นให้เกิดรายได้ค่าเช่าค่าบริการในระยะยาวและต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและบริการหลายประเภท ได้แก่

 

        ธุรกิจอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานให้เช่า ขนาดพื้นที่ประมาณ 350 ไร่ ตั้งอยู่ในโครงการ Bangkok Free Trade Zone เป็นพื้นที่สัญญาเช่าช่วงที่ดิน

 

        โดยบริษัทย่อยของ MK และในโครงการดังกล่าว ยังมีพื้นที่อีกประมาณ 700 ไร่ ซึ่งวางแผนจะพัฒนาเป็นพื้นที่สําหรับพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการพาณิชย์ในรูปแบบอาคารโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่า

 

         นอกจากนี้ยังมีอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าประเภทอาคารสํานักงานในอาคารมั่นคงเคหะการ สําหรับพื้นที่ในส่วนที่บริษัทไม่ได้ใช้ประโยชน์ โครงการอพาร์ตเมนต์เพื่อเช่า

 

         โดยใช้ชื่อโครงการ Park Court สุขุมวิท 77 จํานวน 5อาคาร อาคารละ 7 ชั้น จํานวน 14 ยูนิตต่ออาคาร ขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 260 ตารางเมตร

 

         ในส่วนของธุรกิจบริการ MK มีธุรกิจสนามกอล์ฟ “ชวนชื่น กอล์ฟ คลับ” ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟ 18 หลุม พร้อมคลับเฮ้าส์และสนามไดร์ฟกอล์ฟ โดยมีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ และยังมีธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับการรับบริหารจัดการอาคารอีกด้วย

 

         สุดท้ายหากขั้นตอนการทำคำเสนอซื้อกิจการเป็นผลสำเร็จ หากพิจารณาในด้านสินทรัพย์แล้ว ก็จะทำให้บริษัทศุภาลัย มีมูลค่าสินทรัพย์ทะลุถึง 70,502 ล้านบาท