หลังทนกระแสรุมเร้าจากลูกเพจไม่ไหว ที่ทักมาถามถึงโครงการหนึ่งกันเยอะมากกกกกก... เป็นหมื่นคน?... หึ! ช๋องงงโคนนนน (สองคน) ล้อเล่นนะ อิอิ
ผมจึงดั้นด้นไปค้นหาข้อมูลมาให้ กับโครงการ "XT" ของ "แสนสิริ" ที่เผยโฉมออกมาถึง 3 โครงการ 3 สถานที่ ซึ่งหนึ่งในโครงการที่จะพูดวันนี้คือ "XT ห้วยขวาง"
บอกตรงนี้ตั้งแต่ต้นเลยว่ารายละเอียดค่อนข้างเยอะ ผมจึงขอดึงเฉพาะไฮไลท์ที่คิดว่าน่าสนใจมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน (ซึ่งก็ยังเยอะอยู่ดี ฮ่าๆๆ)
โครงการ "XT ห้วยขวาง" ตั้งอยู่บนทำเลที่มีประสิทธิภาพย่านห้วยขวาง ติดถนนรัชดาภิเษก โดยเดินทางง่ายๆ แค่นั่ง "MRT" แล้วมาลงที่สถานี "ห้วยขวาง" ทางออก 1 โผล่ขึ้นมาให้เลี้ยวขวาเดินย้อนกลับไปทางสุทธิสาร
จากตรงนี้ถึงตัวโครงการเพียง "75 เมตร!!!" งานนี้หวานหมูเดินชิลๆ กันไป ซึ่งข้างบนนี้ก็มีรถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ คอยบริการ และเดินไปอีกนิดจะเห็นโชว์รูมฮอนด้า
พื้นที่ติดกันมีสังกะสีสีขาวล้อมรอบพื้นที่หนึ่ง... นั่นแหละครับ โครงการ "XT ห้วยขวาง" ผมบอกแล้วว่าเดินแปปเดียวเอง 5555 แน่นอนว่ายังอยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งทาง "แสนสิริ" คาดเอาไว้ว่าจะเสร็จในปี64
ส่วนของกินรอบๆ โครงการมีร้านอาหาร คาเฟ่ เซเว่น อยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะในโครงการเองจะมี Family Mart ซึ่งมีของสดขายด้วยนะ หรือถ้าเขยิบไปอีกนิดประมาณ 1-2 สถานี แหล่งของกิน ที่ช้อปเพียบเลยหล่ะ
ไม่ว่าจะเป็น The Street รัชดา Esplanade ซึ่งข้างๆ กันตอนกลางคืนมีตลาดนัดรถไฟด้วยนะ Central พระราม 9 Fortune Town ก็อยู่ไม่ไกลกัน
ดูทำเลรอบๆ เรียบร้อยแล้ว ไปดูห้องกันบ้างดีกว่า ซึ่งแกลลอรี่โครงการนี้ตั้งอยู่อีกที่ ใกล้กับตึกแบงค์ออฟไชน่า คืออยู่ฝั่งเดียวกับฟอร์จูนและย้อนไปทางศูนย์วัฒนธรรมประมาณ 500 เมตร
แกลลอรี่ที่นี่ถือว่าแปลกใหม่เหมือนกัน ทั้งในเรื่องการนำคาเฟ่มาเป็นส่วนหนึ่งในการขาย และการทำห้องตัวอย่าง โดยการยกทางเดินให้สูงขึ้น
พร้อมกับเฉือนผนังห้องบางส่วนออกเพื่อให้สามารถมองเห็นจากมุมสูง และเข้าใจการออกแบบผังห้องได้ดีขึ้น คือเหมือนเราเข้าไปอยู่ในโมเดลจำลองอย่างไงอย่างงั้นเลยครับ (น่าจะเป็นที่แรกในไทยด้วยมั้งที่ทำห้องตัวอย่างแบบนี้)
สำหรับโครงการ "XT ห้วยขวาง" เป็นคอนโด High-rise 2 อาคาร โดยอาคาร A สูง 43 ชั้น และอาคาร B สูง 14 ชั้น รวม 1,404 ยูนิต ซึ่งอาคาร A ยูนิตต่อชั้นประมาณ 30 กว่าห้อง และอาคาร B ประมาณ 20 กว่าห้องต่อชั้น
ส่วนที่ "จอดรถ" จอดได้ 41% ขณะที่ "ลิฟต์" อาคาร A มี 5 ตัว ลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว และอาคาร B มี 2 ตัว ลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว
มาถึงพอยท์หลัก ที่ไม่นำเสนอก็คงจะไม่ได้ นั่นก็คือออออ... "Facility" ที่ต้องยอมรับเลยว่ามีความเป็นปัจเจกพอสมควร เดี๋ยวไล่ไปทีละอย่างเลยนะ
สตาร์ทที่ "Creative Studio" โดยมีห้อง 3 แบบให้เลือกใช้ ดังนี้
1. Arts & Crafts Studio สตูดิโองานศิลปะ พร้อมอุปกรณ์สำหรับทำ DIY
2. Cooking Studio สามารถใช้พื้นที่ในการทำอาหาร เบเกอรี่ได้ตามใจชอบ หรือจะเปิดคลาสสอนก็ยังได้
3. Photo Studio สตูดิโอถ่ายภาพพร้อมอุปกรณ์ครบครัน
"Oasis Garden" พื้นที่สีเขียวบนชั้น 6 ที่เชื่อม 2 อาคารเข้าไว้ด้วยกัน เป็นจุดที่ให้เราได้อยู่กับท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง
ต่อด้วย "Pocket Step Garden & Outdoor Theatre" มันคือสวนขั้นบันไดที่มีตั้งแต่ชั้น 11 ถึงชั้น 14 ไล่ะระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด ที่เอาไว้ให้ทุกคนเลือกพักผ่อนตามอัธยาศัย... ผมชอบไอเดียนี้นะ ดูเก๋แปลกตาดี
นอกจากนี้ยังมีจอ LED ขนาดใหญ่ ไว้ดูหนัง เชียร์กีฬา ซึ่งตรงนี้สามารถจองแบบส่วนตัวได้ เผื่อเวลาต้องการจัดงานปาร์ตี้ ส่วนกลางนี้อยู่อาคาร B ครับ
ไปดู "Facility" อาคาร A กันบ้างที่ชั้น 29 โดยออกแบบในสไตล์ Glass House เป็นสวนลอยฟ้า และมีห้อง Tea Room ที่เชื่อมต่อกับ Co-Working Space และ Game Room สามารถทำงานและผ่อนคลายได้ในชั้นเดียว
ถัดไปคือ "Hidden Sky Bar" บาร์แห่งความลับที่ซ่อนอยู่หลังชั้นหนังสือ มานั่งดื่มนั่งชิลชมวิวแบบพาโนรามากันได้
และยังมีอีกบนชั้น 42 และ 43 ที่รวมเอา "สระว่ายน้ำ" และสวนลอยเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสระว่ายน้ำมีความยาวกว่า 50 เมตร แต่ทีเด็ดอยู่ที่... มีสไลเดอร์ที่ความสูง 5 เมตรด้วยนี่แหละ!!!
รวมไปถึง "Fitness and Freestyle Exercise Studio" ห้องฟิตเนสที่มีให้ออกกำลังกายหลายแบบ อย่างการปั่นจักรยานแบบ Live Streaming Bike หรือปีนป่ายกับ Rock Climbing Treadmill และพื้นที่ไว้สำหรับโยคะ
ทั้งหมดนี้คือจุดเด่นสำหรับผมนะ 5555 เพราะที่จริงส่วนกลางยังมีอีกหลายอย่างที่กระจายตัวไปตามที่ต่างๆ ในคอนโดแห่งนี้ ซึ่งจะให้ผมอธิบายทั้งหมดก็คงทำไม่ได้ แหะๆ
โดยก่อนที่จะไปดูห้องตัวอย่าง เรามาดู "ขนาดห้อง" กันสักนิด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขนาด คือ
1. 1 ห้องนอน ขนาด 27.25-30.00 ตารางเมตร มีทั้งหมด 625 ยูนิต
2. 1 ห้องนอน ขนาด 34-34.75 ตารางเมตร มีทั้งหมด 648 ยูนิต
3. 2 ห้องนอน ขนาด 50-69.75 ตารางเมตร มีทั้งหมด 131 ยูนิต
แม้ว่าขนาดห้องจะเป็นไปตามมาตรฐานคอนโด แต่สามารถปรับเปลี่ยน "Layout" ได้ค่อนข้างหลากหลายรูปแบบ โดยคอนเซ็ปต์ที่เค้าวางไว้แบ่งออกเป็น 6 แบบ ดังนี้
1. The Fashionista – เพิ่มพื้นที่ในส่วนของ walk-in closet ให้ใหญ่ขึ้น
2. The Snoozy Head – แบบห้องนอนที่ขยายให้กว้างกว่าเดิม
3. The Visionary – ใครบ้างานต้องชอบอันนี้แน่ เพราะจัดพื้นที่ทำงานให้ไม่เล็กเลย
4. The Party Goer – รองรับสายปาร์ตี้ด้วยพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่กว้างขึ้น
5. The Master Chef – ถ้ารักการทำอาหาร ชอบเข้าครัว ต้องถูกใจกับการขยายพื้นที่ห้องครัวอย่างเป็นสัดส่วน
6. The Naturalist – สายรักธรรมชาติต้องการพื้นที่สีเขียว กับการเพิ่มพื้นที่ระเบียงสำหรับปลูกต้นไม้
ซึ่ง "Layout" พวกนี้ โครงการจะเขียนว่า ‘Default’ ตรงแปลนห้อง นั่นหมายความว่าเราสามารถปรับเปลี่ยนห้องได้ตามรูปแบบข้างบน (เลือกรูปแบบห้องได้ถึงแค่สิ้นปีนี้เท่านั้นครับ)
แต่ว่าก็จะมีห้องที่ทางโครงการ ‘Fix’ มาให้แล้ว ที่ไม่สามารถปรับหรือเปลี่ยนอะไรได้ (รูปแบบห้องที่ผมนำมาให้ดูเป็นแค่ส่วนหนึ่งนะครับ ไม่ได้ใส่มาทั้งหมด เพราะเยอะจริงๆ)
เอาหล่ะคราวนี้มาดูของจริงกันบ้างดีกว่าจะได้นึกออกและไม่งงงวย เพราะผมงงมาก่อนหน้านี้แล้ว ฮ่าๆๆ
สำหรับโครงการ "XT ห้วยขวาง" จะมีห้องให้ดู 2 Type ซึ่งขายแบบ “Fully Furnished” ได้ Digital Door Lock แอร์ 2-3 ตัว และฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
เริ่มที่ห้องแรกกับขนาด “34.75 ตารางเมตร” เปิดเข้ามาจะเจอกับ “ห้องครัว” เป็นครัวปิด ซึ่งของที่ได้ก็จะมีชุดเคาน์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน
ถัดเข้าไปจะเป็น “ห้องนั่งเล่น” ซึ่งผนังตรงที่วางทีวี มีพื้นที่จำกัด ทำให้ตัวทีวีถูกกำหนดขนาดไปโดยปริยาย และโซฟา โครงการมีให้เลือกถึงสองสี คือ เขียว-เทา กับ แดง-เทา อันนี้ดีงามมมมมม
ติดๆ กันความจริงจะเป็นส่วนของระเบียง แต่เค้าทำให้เป็นเหมือนกับโต๊ะวางของ หรือโต๊ะทำงานแทน ห้องแบบนี้เลยไม่มีระเบียง และข้างใต้ซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์เอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีเสียงรบกวนแน่นอน ส่วนโต๊ะสีดำและเก้าอี้ 2 ตัว โครงการแถมให้ครับ
ข้างๆ กันเป็น “ห้องนอน” ซึ่งจะได้แบบประตูทึบ เตียงนอนจะได้สีเข้าชุดกับโซฟาเลย พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและกระจกที่สามารถเปิดเก็บของได้ด้วย
แต่ที่ชอบคงเป็น “ห้องน้ำ” เพราะมีขนาดพอเหมาะไม่ดูอึดอัด ได้ของตามที่เห็นในภาพเลยครับ ที่สำคัญคือการทำทางเข้าออกไว้สองทาง คือ ตรงห้องนอน ซึ่งทำให้สะดวกกับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น
และอีกทางที่จะออกไปเจอกับ "walk-in closet" อันนี้ผมว่าแจ่มว้าว เหมาะสำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะ โดยเฉพาะสาวๆ ซึ่งโซนนี้สามารถเข้าออกทางห้องครัวได้เหมือนกัน
ห้องต่อไปมีขนาด “58.25 ตารางเมตร” อันนี้เป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ประตู ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอก 5555 ส่วนรูประตูที่เราเห็น ของจริงไม่สามารถมองทะลุได้นะครับ
ถ้าเปิดประตูที่สอง (ที่ไม่ใช่ประตูหลักอ่ะ อิอิ) จะเจอพื้นที่จิปาถะ คือทำได้สารพัดอย่างแล้วแต่เรา ฮ่ๆๆ จะทำเป็นพื้นที่นั่งใส่รองเท้า บิวท์ตู้รองเท้า ตู้เก็บของ เก็บจักรยาน อะไรทำนองเนี้ย โดยมีประตูบานเลื่อนกั้นอีกโซนหนึ่งเอาไว้
ต่อด้วย “ห้องนั่งเล่น” ซึ่งชั้นข้างหลังและไอส์แลนด์ เค้าไม่ได้แถมมาให้นะครับ แต่เราจะนำไอเดียนี้ไปใช้ที่ห้องเราก็ไม่ผิด เพราะช่วยทำให้พื้นที่ว่างมีประโยชน์และใช้สอยได้อย่างเต็มที่
ห้องนี้มี “ระเบียง” ละ อิอิ ซึ่งมีความกว้างและยาวที่ใช้ได้เลย ได้ทั้งเอาไว้ตากผ้า และนั่งเล่นสบายๆ
“ห้องนอนใหญ่” ทางเข้าจะเจอกับตู้เสื้อผ้าก่อน ซึ่งหน้าตาสู้ผ้าก็มีหลายแบบแล้วแต่ห้องที่เราเลือก แล้วค่อยเข้าไปเจอกับเตียงนอน ซึ่งถือว่าเริ่ดดด เพราะทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนลงตัว พร้อมห้องน้ำให้ในตัวเรียบร้อย
อีกห้องจะเป็น “ห้องนอนเล็ก” ซึ่งความจริงเราจะประยุกต์เป็นห้องทำงาน ห้องหนังสือ ห้องแต่งตัว ก็ได้ทั้งนั้น
ติดกับห้องนอนเล็กเป็น “ห้องน้ำ” อีกหนึ่งห้อง ซึ่งแม้จะมี 2 ห้องน้ำ แต่ขนาดก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ตัดจบด้วย "ห้องครัว" ที่พื้นที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่เป็นครัวปิดทำอาหารได้เต็มที่
โดยเราสามารถดูทุกอย่างในโครงการนี้ได้ผ่านทางจอมอนิเตอร์ ซึ่งจะมีบอกหมดละเอียดยิบ ตั้งแต่ที่ตั้ง,Facility, Floor Plan ไปจนถึงขนาด แบบของห้อง และเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้ในแต่ละห้องอีกด้วย
ของเล่นยังไม่หมดเท่านี้ top up ไปอีก!!! กับ "Flexible Furniture" คือเราสามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ พับเตียงเก็บ หรือการเลื่อนผนังเข้าออก ให้กลายเป็นพื้นที่ใช้สอยใหม่ได้ทันที ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งผมยังไม่เห็นของจริงหรอกนะว่าทำยังไง แต่เค้าบอกมีแน่ๆ ชัวร์!!!
ทั้งหมดนี้ใน "ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท" (โดยราคาเฉลี่ย อยู่ที่ 165,000 บาทต่อตารางเมตร)… เห็นในวงเล็บใช่ไหม นั่นแปลว่าราคาจริงๆ ก็เอาขนาดห้องคูณด้วยราคาเฉลี่ย ผลออกก็ประมาณนั้นเลยครับ ฮ่าๆ
ซึ่งถ้าถามว่าโอเคไหม คุ้มกับราคารึเปล่า อืมมมม… ได้อยู่นะ อันที่จริงผมชอบเลยแหละ คือเริ่มตั้งแต่การเดินทางที่จะไปไหนมาไหนก็ง่าย
ตัวโครงการเองก็ไม่ธรรมดา แม้ว่ายูนิตจะเยอะแต่เค้าออกแบบอาคารให้มีการเหลื่อมล้ำ ไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกัน มีการเว้าเข้าไป ยื่นออกมา และไล่ระดับ เพื่อให้ดูไม่อึดอัดแต่ขณะเดียวกันก็ได้ความเป็นส่วนตัว
ส่วนใครที่คิดว่าอยากได้วิวสวยต้องชั้น 35 ขึ้นไป เพราะถ้าต่ำกว่านั้นอาจโดนตึกข้างๆ บัง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเลยครับ เพราะว่าตัวโครงการเขยิบเข้าไปจากถนนใหญ่ ประมาณ 130 เมตร จึงทำให้สักประมาณชั้น 20 กว่าๆ ก็น่าจะได้วิวที่เวิร์กแล้ว
ขณะเดียวกันระยะทางจากถนนใหญ่เข้าตัวโครงการจะมีรถกอล์ฟคอยบริการรับส่งลูกบ้าน เผื่อใครไม่อยากเดิน แต่ผมว่าพอรวมระยะทางทั้งหมดจาก MRT มาถึงที่นี่ ก็ยังอยู่ในระยะที่เดินได้ไม่เหนื่อยเท่าไหร่นะ
นอกจากนี้ตัว "Facility" ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือถ้าใครชอบใช้ส่วนกลางแล้วหล่ะก็ แฮปปี้ดี๊ด๊าแน่นอนนนน เอาแค่เฉพาะโครงการนี้ก็จัดเต็มแล้ว
แต่เค้ายังแชร์กับโครงการ "XT" อื่นๆ ให้เราสามารถเข้าไปใช้ "Facility" ที่นั่นได้อีกด้วย
เรื่องที่ชอบที่สุดคงเป็นขนาดและรูปแบบของห้อง เพราะผมเป็นคนอยู่ติดห้อง ส่วนกลางไม่ค่อยได้ใช้ เรื่องนี้จึงสำคัญอย่างมาก อิอิ
อย่างที่บอกไปว่ามีหลายแบบให้เลือก โดยทาง "แสนสิริ" ได้พยายามคิดทุกอย่างให้ตอบโจทย์ครอบคลุมกับทุกสไตล์ เพื่อพร้อมใช้งานได้จริง
ด้วยเหตุนี้ ผมอยากให้ลองแวะเข้าไปชมกันก่อนได้ ไม่ซื้อเค้าคงไม่ว่า 5555 หรือถ้าใครลังเลว่าจะเลือก "XT" ที่ไหนดี
ให้ไปในงาน "XT Dimensions" โลดดดด เพราะจะเปิดขายพร้อมกันทั้ง 3 โครงการ (XT เอกมัย XT ห้วยขวาง และ XT พญาไท) เห็นว่ามีไฮไลท์เด็ดๆ เพียบบบบบ
ระหว่างวันที่ 3-5 สิงหาคมนี้ ณ ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน
สำหรับโครงการ "XT ห้วยขวาง" ก็มีประมาณนี้ ตกหล่นผิดพลาดตรงไหน ประจานผมได้เลย 55555 หยอกๆ อย่ารังแกเก๊าน้าาาาาา