กลับมาอีกครั้งกับ Conner ราชเทวี …
จากครั้งที่แล้วที่ผมได้พูดถึงตัวโครงการ และทำเลไปนั้น
พบว่ามี feedback และได้คะแนนความน่าสนใจไปไม่น้อยเลยทีเดียว+++
ไม่เสียแรงที่ผมทุ่มทั้งแรงกายแรงใจ
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้กล้อง เดินเท้าไปสำรวจ Location มาให้ทุกคนได้อ่าน ฮ่าๆๆ
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ทำการบ้าน
สำหรับวันนี้ถามว่าผมกลับมาทำไมงั้นหรือ?? นั้นซิ!! มาทำไม 555+
อ้อ มาตามคำเรียกร้อง(ของตัวเอง) อิอิอิ
จริงๆก็คือ ห้องตัวอย่างที่ Sales Gallery นั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวก่อนที่ไปยังไม่มีเลย
ผมเลยต้องไปเก็บตกมาให้ครบ เพื่อมิตรรักแฟนเพจนั่นเอง!!!
Conner ราชเทวี
ก่อนจะเปิดห้องตัวอย่างเรามาพูดถึง Concept โครงการกันก่อนดีกว่าครับ
“The Future is Just Around the Corner” ยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตแห่งอนาคตของคนเมือง ที่นำลักษณะการใช้ชีวิตของคนเมืองในแง่ต่างๆมาช่วยใช้ในการออกแบบ เพื่อส่งเสริมไลฟ์สไตล์ และแก้ปัญหาในจุดต่างๆ
ซึ่งผมมองว่าน่าสนใจ และสามารถตอบโจทย์คนที่ใช้ชีวิตในเมืองได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว...
"ส่วนกลาง" ที่น่าสนใจ!!
เริ่มจากในส่วนของ ล็อบบี้ เลาจน์ เพดานสูง 6 เมตร มีการออกแบบให้ล้อมรอบด้วยน้ำ เพื่อความสุนทรียภาพในการใช้บริการ
Delivery Box & Storage room ส่วนนี้ต้องบอกเลยว่าเก๋กว่า Storage Room เบๆ ธรรมดาๆ
เพราะส่วนนี้ใช้รองรับลูกบ้านสาย Delivery
ซึ่งหากลูกบ้านสั่งอาหารผ่านออนไลน์ ไม่ว่าร้อน เย็น หรือแช่แข็ง ทางโครงการก็มีห้องเก็บอาหารที่เหมาะสมแต่ละชนิดไว้ให้เลยแหละจ้า
ในส่วนของชั้นล่าง ส่วนกลางยังไม่หมดเท่านี้
ยังมี สวนภายนอก Hideway Courtyard อีกซึ่งเป็น Sunken ที่ลึกลงไปถึง 2.1 เมตร ทั้งไพรเวท ทั้งอากาศเย็นสบาย…
Waiting Lounge สำหรับรอรับรถจาก Automatic parking ที่โครงการนี้ให้ที่จอดรถ Automatic parking มากถึง 232 คัน คิดเป็น 78.9% โดยระบบที่ใช้ในโครงการคือ ระบบ Smart Park Gen 3 ที่ดีงามกว่าระบบถาดและระบบหนีบล้อแบบเดิม
“Vertical Forest” สูง 80 เมตร จากส่วนนี้จะทำให้โครงการมีพื้นที่สวนสีเขียวกว่า 5,800 ตร.ม.
สามารถผลิตออกซิเจน และช่วยกรองอากาศเสียจากภายนอก
ทำให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้ว่า แม้จะอยู่กลางเมืองก็ชุ่มปอด ปลอดภัยจากมลพิษได้นะเออ..
หากใครที่กลัวในเรื่องความคงทน แข็งแรง เอ้… จะอยู่ได้สักกี่ปี!!
ในส่วนนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเค้ามีระบบรดน้ำอัจฉริยะ Smart Irrigation System นวัตกรรมใหม่นำเข้าจากอเมริกา
ซึ่งสามารถรู้ได้ด้วยตัวเองว่า อุณหภูมิแบบไหน อากาศแบบไหน บริเวณนี้ควรปล่อยน้ำเวลาไหน เท่าไหร่ บลาๆ (แหม่ ฉลาดกว่ามนุษย์ไปอีก 555+ )
ซึ่งถ้าหากลูกบ้านต้องการจะ Take View ในส่วนของ Vertical Forest นี้
ก็สามารถออกมา Take ได้ ณ ส่วนกลาง Step Garden ชั้น 12 A, 15 และ 17
ในส่วนชั้น ที่ 19 และชั้นที่ 20 จะเป็นในส่วนของ สระว่ายน้ำและฟิตเนส ซึ่งสระว่ายน้ำเองเป็นแบบ พาโนรามาวิว แบบเห็นวิว 360 องศาไปเลยจ้า
สำหรับ Recreation Hall หรือว่าทั่วไปเรียกว่า Co-Working
ที่เรียกแบบนี้เพราะมีถึง 2 ชั้น และแบ่งตามสัดส่วนของลูกค้าแต่ละสไตล์
เริ่มจากชั้น 4 ที่ออกแบบเป็นสเต็ป และห้องประชุมส่วนตัว ซึ่งเหมาะกับกลุ่มวัยเรียน วัยรุ่นที่มีกลุ่มเพื่อนเยอะๆ ส่วนนี้เรียกว่า "Study Area"
ส่วนชั้น 5 จะเหมาะกับในส่วนของวัยทำงานซึ่งจะออกแนวห้องทำงาน กึ่งห้องประชุมที่เรียกว่า "The Club"
ปิดท้ายส่วนกลางด้วยเก้าอี้ Arne Jacabsen Egg Chair Fritz Hansen
ออกแบบโดย Arne Emil Jacobsen สถาปนิก และนักออกแบบระดับโลกในปี 1956
โดยการออกแบบได้คำนึงถึงสรีระคนนั่ง ให้สอดรับกับกระดูกสันหลังทำให้การนั่งของคุณมีคุณภาพมากขึ้น
เค้าว่ากันว่า เป็นเก้าอี้ที่มีชื่อเสียง ออกแบบได้ Classic สุดๆ ที่เอามาไว้ภายในโครงการถึง 6 ตัว
ตกราคาตัวละ 7-8 แสนเองจ้า.. เบาๆ 555+
เรามาต่อกันแบบไม่พิรี้พิไรที่ “ห้องตัวอย่าง” กันเลยดีกว่าครับ
ผมขอเปิดห้องตัวอย่างแรกซึ่งผมขอยกให้เป็นพระเอกของโครงการนี้เลย นั้นก็คือ Type B 3 Loft "1 bedroom 1 bathroom loft" ขนาด 34.9 ตร.ม.”
ตอนผมเปิดประตูเข้ามาครั้งแรก ถึงกับ ว้าว!! ตกออกมาจากปากโดยสมองมิทันสั่งการ เลยทีเดียว
ไม่ผิดหวังกับการรอคอย การตกแต่งและดีไซน์ ดูเท่ คุมโทนคลาสสิค และดูแพง (แต่ราคาไม่แพงอย่างที่คิดนะจ๊ะ อิอิ)
เริ่มจากในส่วนของชั้นล่างก่อนแล้วกันครับ
สำหรับความสูงของเพดาน 4.5 เมตร ถือว่าสูงกำลังดี
ส่วนประตู แน่นอน โครงการแพงขนาดนี้ Digital Lock เท่านั้น ซึ่งเป็นตัวใหม่ล่าสุดของ Yale
ด้านขวาของประตูจะมีช่องใส่จดหมาย ซึ่งลูกบ้านสามารถเปิดรับจดหมายได้จากภายในห้องได้เลย โดยไม่ต้องออกไปนอกห้อง
อันนี้ซื้อเลย
ส่วนแถบด้านล่างที่อยู่ใต้ช่องใส่ซองจดหมาย ก็ออกแบบมาให้เปิดปิดไว้รับลม ระบายอากาศ ในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้เปิดแอร์ภายในห้อง
บรรยากาศภายในห้อง เราจะได้ความรู้สึกถึงความโล่ง ด้านซ้ายมือเป็นเป็นบันไดที่จะขึ้นไปชั้น Loft
สำหรับส่วนกลางออกแบบให้เป็นส่วน Living ที่มีพื้นที่กว้างพอวางโต๊ะทานข้าวขนาดกลาง
ผนังด้านขวาจะเป็นในส่วนของชั้นวางทีวี และโครงการได้ Built in ตู้เก็บของและชั้นวางรองเท้าให้ด้วย
ซึ่งจะกระซิบบอกว่านี่แค่ห้องตัวอย่าง สเปคจริงได้ใหญ่กว่านี้อีกครับ!!
ในส่วน Living จะมี yard ไว้ปลูกต้นไม้ ออกไปรับลม หรือไว้ทำอะไรก็ตามแต่ได้เลยจ้า...
แคบหน่อยแต่ไม่ได้ถึงกับอึดอัด ใช้งานได้เต็มพื้นที่ เพราะทางโครงการแขวนคอยล์ร้อนไว้ด้านบน ไม่เกะกะแน่นอน!!!
ส่วนครัว จะเป็นครัวแบบปิด ปิดด้วยประตูสไลด์กระจก 2 ตอน เคาเตอร์ และตู้แขวนโครงการใช้เป็นสีชา
ข้อดีของสีนี้ผมว่ามันไม่มืดไป แต่ก็ไม่ได้สว่างมาก เลยทำให้ดูไม่สกปรกง่าย
อุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าครบ พร้อมให้แม่ครัวหัวเห็ดย้ายเข้าควงตะหลิวได้เลย แต่ อย่าลืมซื้อตะหลิวมานะ ฮ่าๆๆ
ภายในครัวจะได้อะไรบ้าง!??
เตาแม่เหล็ก 2 หัว เครื่องดูดควัน อ่างล้าง 1 หลุมแบบฝัง ไมโครเวฟรุ่นพิเศษ ปิ้งย่างได้ และตู้เย็น Built in
ทั้งหมดนี้เป็นของ Gorenje รุ่นพิเศษ ดีไซน์โดย Ora-ito Collection
ยกเว้นตู้เย็น ที่เป็น Gorenje เหมือนกันแต่เป็นรุ่น standard ธรรมดา
ส่วนท็อปเป็นลายหินอ่อน เข้ากับในส่วนของเคาน์เตอร์ ได้งดงามทีเดียวครับ
สำหรับพื้นกระเบื้องในครัว จะเป็น Cotto Italia (แบรนด์ตัวท็อปของคอตโต้) โดยมีลายที่ Inspire มาจากหินธรรมชาติ แต่พื้นในส่วนของ Living Room และห้องนอนจะได้เป็นพื้น Engineering Wood
มาถึงส่วนสุดท้ายของชั้นล่าง นั้นก็คือห้องน้ำ
หน้าห้องน้ำจะมีช่อง หรือห้องเล็กๆใต้บันได สำหรับเก็บเครื่องซักผ้า หรือเก็บอุปกรณ์สำหรับคุณแม่บ้าน
ภายในส่วนของห้องน้ำ ขนาดไม่ได้กว้างมาก มีสกรีนแบ่งส่วนเปียกกับส่วนแห้งอย่างชัดเจน
เคาน์เตอร์ปูหินอ่อน ดูหรู สายงาม ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องคอตโต้ พอร์ซเลน หรือเรียกง่ายๆก็พื้นหยาบนี่แหละครับ
ซึ่งมันจะมีข้อดีมากเพราะจะช่วยในเรื่องกันลื่น
สำหรับชักโครกเป็นระบบ Automatic จาก Cotto รุ่น Tunio "ยิ้มได้ถ่ายคล่อง" เลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ
เปิดชั้น Loft กันบ้างครับ
สำหรับชั้นบนมีความสูง 2 เมตร สำหรับหนุ่มเอเชียไม่อึดอัดแน่นอนครับ
ภายในกว้างขวาง วางเตียง King size ได้อย่างสบาย
ที่สำคัญเค้าคิดเผื่อไว้แล้วในเรื่องของการเว้นระยะขอบเตียง
โดยทั้ง 3 ด้าน จะเว้นระยะพื้นที่ไว้ 60 เซนติเมตร เป็นมาตรฐานขั้นต่ำของ Loft ทุก Type เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตของลูกบ้าน
อีกส่วนของภายในห้องคือ Closet ตู้เสื้อผ้า บานตู้เป็นกระจก สวยดีนะ
มีการกั้นกระจกกันตกบริเวณปลายเตียงให้เต็มฝาด้วย ไม่ได้มีเพียงราวอลูมีเนียมเหมือนโครงการส่วนใหญ่
และสำหรับห้อง Type นี้โครงการจะให้แอร์ฝังฝ้า 2 ตัวครับ
มาถึงอีกห้องตัวอย่างที่ดีงามไม่แพ้กัน Type 2 "2 bedroom 2 bathroom" ขนาด 73 ตร.ม.
เริ่มจากประตูจะได้เป็นระบบ Digital Lock และมีชั้นวางรองเท้าให้เช่นกัน
ภายในออกแบบได้กว้าง โอ่อ่าไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับห้องนี้จะแบ่ง Layout เป็น 4 ส่วนหลักๆด้วยกันคือ ส่วนครัว, Living, ส่วนห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเล็ก
เริ่มจากภายในครัวกันก่อนดีกว่า ห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิด
อุปกรณ์ต่างๆเหมือนห้องตัวอย่างที่แล้ว แต่สเปคบางตัวเจ๋งกว่า เช่น มีเตาแม่เหล็ก 4 หัว มีเคาน์เตอร์ บาร์ที่ใหญ่กว่า เพราะมีพื้นที่กว้างกว่าตามสัดส่วน ซึ่งเคาน์เตอร์ห้องนี้ จะมีที่วางเครื่องซักผ้าด้วย
ส่วน Living จะมีความกว้างพอสมควร มีผนังกระจก(เกือบ)เต็มฝาให้ Take View รับแสง
ภายในโซนนี้โครงการนำโต๊ะทานข้าวขนาด 6 คนนั่งมาวางได้แบบพอดี
ห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียง King sizeได้ พร้อมมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะทำงาน มีผนังกระจก(เกือบ)เต็มด้านให้ Take View
ภายในจะมี ตู้เสื้อผ้า Walk in closet เข้าห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งสเปคห้องน้ำก็ได้สเปคเดียวกันกับห้องที่แล้วครับ
ในส่วนของห้องน้ำจะมี 2 ห้อง ห้องแรกจะอยู่ภายในห้องนอนใหญ่ และอีกห้องจะอยู่ระหว่างห้องนอนเล็ก และ โซน Living ซึ่งสามารถใช้รวมกันได้
ทุกห้องของโครงการจะได้ฝักบัวอาบน้ำ และแบบ Rain shower จาก Hans Grohe
สำหรับห้องสุดท้ายห้องนอนเล็ก
จะมีตู้เสื้อผ้าภายใน และมีผนังกระจก(เกือบ)เต็มด้านให้เช่นกัน
ขนาดห้องไม่ได้เล็กเหมือนห้องนอนเล็กทั่วๆไป สามารถวางเตียง King size ได้ แต่ถ้าจะให้พอดีเลยก็ต้องเป็นเตียง Queen size
และสำหรับ Type นี้จะได้เครื่องปรับอากาศไป 3 ตัวจ้า...
ก่อนจะเทตัวเองออกจาก Sales Gallery เรามา"สรุปง่ายๆสไตล์ดอย"กันดีกว่าครับ
สำหรับห้องตัวอย่างโครงการออกแบบได้โดดเด่นเลยทีเดียว มีความน่าสนใจที่แตกต่างจาก Loft หลายๆโครงการ...
โครงการนี้เป็นอีกโครงการที่ใจป๋ากล้าทุ่ม ใส่ใจ Detail ต่างๆได้อย่างดี เหมาะแก่การลากกระเป๋ามาอยู่เองอย่างมาก
ใครอยากรู้ว่าจริงไม่จริง ก็สตาร์ทรถเหยียบคันเร่งมาได้เลยนะจ๊ะ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้แค่รายละเอียดบางส่วนเท่านั้น
ซึ่งพนักงานกระซิบมาว่า ขายไปแล้วกว่า 65% และบาง Type ก็เกลี้ยงแผงไปซะแล้ว แต่ห้องตำแหน่งดีๆก็ยังมีเหลืออยู่นะ
สนใจเข้าไปดูก่อนได้จ๊ะ ช้าหมดอดไม่รู้ด้วยน้า...
อ้อ!! 18 -19 สิงหาคมนี้ เค้ามีจัดงานให้เข้าชม Sales Gallery อีกรอบ พร้อมโปรโมชั่น Furniture Package ในราคาเริ่มต้นที่ขยับเป็น 8.7 ล้าน แต่คุณภาพคับห้องเหมือนเดิมนะจ๊ะ
ข้อมูลโครงการ คลิก!! หรือโทร 093-289-8988