เชื่อว่าหลายคนที่เคยผ่านช่วงชีวิตนักศึกษาแบบพี่หมีต้องผ่านการอยู่หอพักเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ แต่ก่อนยอมรับเลยนะ ว่าพี่หมีมองว่ามันเป็นอาชีพที่โคตรสบาย เหมือนเป็นเสือนอนกินเก็บค่าเช่ารายเดือนไปเรื่อย ๆ แถมมีสัญญาเป็นปี ๆ เท่ากับมีรายรับต่อเนื่องเป็นปีเลยทีเดียว

 

         แต่เวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน เดี๋ยวนี้คอนโดฝุดขึ้นรายวันยิ่งกว่าคนอยู่อาศัยซะอีก ทำให้ธุรกิจหอพักเริ่มเกิดความซบเซาอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว สังเกตได้จากหอพักรอบมหาลัยบางที่ ถึงกับยอมขายตึกขายที่ดินเพื่อให้เค้าทุบแล้วมาก่อสร้างเป็นคอนโดก็มี

 

 

         ในแง่มุมของวัยทำงานหรือเหล่านักศึกษาทั้งหลาย ที่มักจะมองหาที่พักอาศัยชั่วคราว ก็มักจะมองหาห้องที่มีความสวยงามและสะดวกสบายต่อการอยู่อาศัยที่สมเหตสมผลกับราคา ซึ่งในเมื่อปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมมาบุกตลาดย่านที่พักอาศัยทำให้ราคาค่าห้องต่อเดือนก็มีราคาเพิ่มจากการพักหอพักเพียง 2,000-3,000 บาทต่อเดือน ทำให้การเลือกที่จะพักในคอนโดก็มีสัดส่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

         นอกจากนี้หากใครที่มีหน้าที่ทางการงานมั่นคงมากขึ้น เการเลือกผ่อนชำระคอนโดเพื่อเป็นทรัพย์สินของตัวเองยิ่งมีมากขึ้น เพราะหากเทียบกับค่าเช่าที่เสียเปล่าแล้ว การเลือกลงทุนระยะยาวยังได้กรรมสิทธ์เป็นของตัวเอง และยังสามารถขายเพื่อเก็งกำไรได้ในอนาคตอีกด้วย

 

 

         แล้วหอพัก-ห้องเช่า จะกลับมายืนหยัดได้อย่างไร???

 

         สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่หันไปเช่าหรือผ่อนคอนโดกันมากกว่า อย่างแรกที่ต้องยอมรับกันเลยก็คือความสวยงามของอาคาร ของรูปแบบห้อง ความเป็นสัดส่วน สาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งนี่เป็นจุดที่หอพักต้องปรับปรุงหรือเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มากขึ้น

 

         เราอาจจะเห็นได้จากหอพักหลายๆที่สมัยนี้เริ่มมีการบริหารจัดการส่วนกลางเหมือนคอนโดมากขึ้น บางหอพักมีสระว่ายน้ำ มีฟิตเนสส่วนกลาง รวมถึงสวัสดิการอีกอย่างที่หอพักรอบรั้วมหาลัยชอบใช้นั่นก็คือ รถตู้รับส่งไปยังสถานศึกษานั่นเอง ศึกนี่ก็เป็นอีกจุดแข็งที่นักศึกษาส่วนใหญ่มักจะเลือกหอพักที่มีรถรับส่งบริการ เพราะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลยทีเดียว

 

 

 

         ส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้หอพักจะยังสามารถยืนหยัดต่อไปได้นั่นก้คือจะต้องมีการหมั่นปรับปรุงและดูแลรักษาหอพักของเราอยู่เสมอ คอยเอาใจใส่ต่อผู้เช่าอย่างใกล้ชิด และไม่หยุดที่จะพัฒนาให้ตัวหอพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์กับผู้เช่าอยู่เสมอ

 

         เพราะฉนั้นถ้าหากธุรกิจหอพักจะอยู่รอดต่อไป ต้องก้าวออกมาจากการเป็นธุรกิจ “เสือนอนกิน” แต่ต้องปรับตัวเพื่อเป็นเสือที่คอยวิ่งตะครุบเหยื่อ วิ่งตามล่าผู้เช่า เพราะเราต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นที่อยู่อาศัยที่มีค่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกของการอยู่อาศัยด้วยเช่นกัน