AssetWise เปิดตัวโครงการใหม่สูงสุดบนทำเลสุขุมวิท มองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า " โมดิซ สุขุมวิท 50 (Modiz Sukhumvit 50) " คอนโด High Rise สูง 25 ชั้น มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดตัวโครงการใหญ่แห่งใหม่ของปีนี้ โมดิซ สุขุมวิท 50 (Modiz Sukhumvit 50) คอนโด High Rise สูง 25 ชั้น จำนวน 3 อาคาร บนสุขุมวิท ที่สามารถมองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาถึงสองโค้งน้ำพร้อมทั้งวิวบางกระเจ้า
ภายใต้คอนเซ็ปท์ "Living in the Clouds" กับความโดดเด่นในเรื่องของ Facilities ส่วนกลางมากมายที่แทรกเข้าไปในทุกอาคาร ทั้งชั้น 1, ชั้น 8, ชั้น 25 และชั้น Rooftop รวมทั้งสวนสวยกว่า 1 ไร่ เพื่อให้โมดิซ สุขุมวิท 50 เป็นโอเอซิสของสุขุมวิท บนทำเลทองใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน บางนา-ดาวคะนอง-แจ้งวัฒนะ และจุดขึ้น-ลงทางด่วนพระราม 9-อาจณรงค์
รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้กับสถานี BTS อ่อนนุช เพียงแค่ 1.3 กม. จึงทำให้โลเคชั่นนี้ เป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพสูงและอยู่ใจกลางย่านธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกว่าคุ้มค่ากับราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยศักยภาพของทำเลสุขุมวิท ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โมดิซ สุขุมวิท 50 จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากดีมานด์กลุ่มลูกค้าคนเมืองที่มองหาคอนโดมิเนียมหรูบนทำเลสุขุมวิทกับราคาที่จับต้องได้ มีความคุ้มค่าทั้งสำหรับซื้อเพื่ออยู่เอง หรือเพื่อการลงทุนในอนาคต
โดยโครงการจะเปิดจองรอบ Pre - sales ในวันเสาร์ที่ 15 กันยายนนี้
สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 จากบริษัท บลูเวิร์ค ดีไซน์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบว่า โครงการ “โมดิซ สุขุมวิท 50” ตั้งอยู่บนทำเลที่พิเศษมาก เพราะอยู่ใจกลางสุขุมวิท แต่สามารถเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาถึงสองโค้งน้ำและบางกระเจ้า
จึงได้ออกแบบจัดวางอาคารเป็น 3 อาคาร สูงขึ้นไป 25 ชั้น เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้เห็นทัศนียภาพอย่างสวยงาม โดยมี Facilities มากมาย อาทิ เช่น Retreat Garden, Panoramic Fitness, Theater, Co-Living & Co-Working Lounge, Co-Dining & Sky Bar, Play Room, Kids Room, Private Onsen & Spa Room และสระว่ายน้ำ Rooftop ถึง 2 สระ คือ Blue Jacuzzi และ Lap Pool
ในส่วนของห้องพักมีแบบห้อง vertical height ฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร และระบบ Bluetooth Sound System ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการฟังเพลงได้ทุกที่ และเพิ่มความทันสมัยในเรื่องของระบบการจอดรถอัจฉริยะ
อินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์ บริษัท รอคส์เปซ จำกัด เล่าถึงแนวความคิดในการออกแบบโครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 โดยนำเอาความเป็นธรรมชาติ ให้เข้ามาอยู่รวมกับวิถีชีวิตของคนยุคใหม่
เนื่องจากโครงการที่มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ คือทางเชื่อมลอยฟ้า สระน้ำลอยฟ้า และ จุดชมดาว เราจึงพยายามหาธรรมชาติ ที่สอดคล้อง ที่มีความสัมพันธ์กับตัวโครงการเรามากที่สุดมาเป็นจุดเด่นในการออกแบบ ใช้ concept หลักในการออกแบบทั้งหมด คือ ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป้น พระอาทิตย์ทรงกลด, จันทรุปราคา, ฝนดาวตก และการเคลื่อนไหวของก้อนเมฆ มาเป็นองค์ประกอบในการออกแบบ โดยได้ผสมผสานสไตล์การตกแต่งแบบโมเดิร์น ลักชัวรี่ (modern luxury) เข้าไปเพื่อเพิ่มความหรูหรา และมีระดับเพิ่มขึ้นด้วยเส้นสายบนท้องฟ้า
นอกจากนี้ นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ยังได้เผยภาพรวมธุรกิจจนถึงปัจจุบันของแอสเซทไวส์ โดยในปี 2018 เปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 6 โครงการ เป็นมูลค่า 6,759 ล้านบาท โดยโครงการที่เปิดขายไปแล้ว คือ บราวน์ ห้วยขวาง, แอทโมซ ลาดพร้าว 15 และเคฟ ทาวน์ สเปซ 2 ตึกแรก โครงการที่กำลังจะเปิดขายอีก 3 โครงการ ได้แก่ โมดิซ สุขุมวิท 50, แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง และแกลม ลักชัวรี่ทาวน์โฮม ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ที่ 4,200 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วเป็นมูลค่า 3,286 ล้านบาท
ส่วนโครงการที่จะแล้วเสร็จในปีนี้มีทั้งหมด 8 โครงการ ส่งมอบให้ลูกค้าได้แล้วจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ วินน์ พหลฯ 52-สะพานใหม่, เอพพิโซด, โมดิซ สเตชั่น, บราวน์ รัชดา 32 และวินน์ ลาดพร้าว - โชคชัย 4 และกำลังจะส่งมอบอีก 3 โครงการ คือ เคฟ คอนโด, โมดิซ อินเตอร์เชนจ์ และบราวน์ พหลฯ 67 – สะพานใหม่ ตั้งเป้ารับรู้รายได้ตลอดปี 4,000 ล้านบาท และรับรู้รายได้แล้ว ณ ปัจจุบันเป็นมูลค่า 2,350 ล้านบาท
โดยในปีนี้ บริษัทฯจะนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาภาพลักษณ์องค์กร ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” สะท้อนภาพแอสเซทไวส์เป็นองค์กรที่รับฟัง เข้าใจ และคาดการณ์ความต้องการรวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค จึงออกแบบโครงการและบริการต่างๆ เพื่อความสุขของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง และจากการพัฒนาธุรกิจด้านอสังหาฯ ที่บริษัทฯ ทำมาอย่างต่อเนื่อง
แอสเซทไวส์ วางแผนการเติบโต ปี 2561-2564 เฉลี่ยปีละ 20% รวมถึงการผลักดันให้ระบบภายในบริษัทได้มาตรฐาน เพื่อเตรียมพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีหน้า 2562 นี้