อีกหนึ่งความฝันของทุกคน แน่นอนว่า “บ้าน” คืออีกสิ่ง ที่ต้องติดแฮชแท็กตัวใหญ่ ๆ ว่า #ของมันต้องมี
เพราะ บ้าน คอนโด หรือที่อยู่อาศัย สำหรับหลาย ๆ คนแล้วมันคือ “คือวิมาน” คือจุดเริ่มต้องของความสุขอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่บางคนก็ยังดิดอยู่ในใจ ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นสร้างอะไรที่ใหญ่ ๆ ด้วยเพราะหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง แล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน กลัวเป็นหนี้บ้าง กลัวภาระที่จะตามมาบ้าง หรือกลัวความรับผิดชอบ...
ทำให้เราต้องเช่าที่อยู่อาศัยและต้องจ่ายเป็นเดือน ๆ ไป โดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย...
ซึ่งบางครั้งถ้าเราคิดให้ดีให้ถี่ถ้วนแล้ว ภาระการเช่าบ้านหรือบคอนโด(บางที่) บวก ลบ คูณ หาร แทบไม่ต่างจากการซื้ออยู่เองเลยแหละครับ
สมมุติ
คุณเช่าห้อง 7,500/เดือน + ค่าไฟ 6 - 8 บาท/หน่วย/เดือน + ค่าน้ำ 15 - 20 /หน่วย/เดือน (ซึ่งมันแพงมาก) พอสรุปแต่ละเดือน ไม่ต่ำกว่า 9,500/เดือน
แต่ถ้าเราผ่อนบ้านหรือคอนโด ราคา 2 ล้านกว่า คุณจะผ่อนประมาณ 13,000 บาท บวก ลบ ต่อเดือน (แล้วแต่ธนาคาร - แล้วแต่ช่วงเวลา) + น้ำไฟอัตราหน่วยปกติ 1,000 บาท บวก ลบ ต่อเดือน (แล้วแต่พฤกติกรรมการใช้ชีวิต) = คุณเสียอยู่ที่ 14,000/ เดือน
คุณเสียส่วนต่าง แค่ 3,500 บาท คุณจะได้บ้านเป็นของตัวเอง
ฉะนั้นวันนี้ เราจะมาพูดถึง “ข้อดีของการมีบ้านเป็นของตัวเองกันดีกว่า"
เริ่มจากข้อดีแรกกันนั้นก็คือ “บ้านคือสมบัติ” แน่นอนที่สุดสมบัติที่มีค่าอีกหนึ่งชิ้นที่เราควรจะมีไว้ประดับบารมีด้วยประการทั้งปวง นั้นก็คือบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเป็นที่คุ้มกะลาหัว คุ้มร้อน คุ้มหนาวเราได้ ....จนลาโลก และเราสามารถถือครองแล้วส่งต่อสู่ลูกสู่หลานได้
ทั้งในเรื่องของ "ราคาบ้านที่อยู่อาศัยยิ่งถือไว้ยิ่งมีแต่ได้" ราคาไม่ลดลงแน่นอนเว้น แต่วันหนึ่งเศรษฐกิจจะตกต่ำหรือฟองสบู่แตก โผล๊ะ ขึ้นมา อันนั้นตัวใครตัวมันเน้อ ฮ่า ๆ ๆ
นอกจากนี้บ้านคืออสังหาริมทรัพย์ ที่เราสามารถ “ลงทุนได้” ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่าหรือขายต่อเพื่อฟันกำไรในอนาคต
...ถ้าคุณถามว่าเราจะไปเสียเยอะไปเพื่ออะไร? ในเมื่อทุกวันนี้เช่าห้อง บวกค่าน้ำค่าไฟ เสียแค่ไม่กี่พันบาท ถูกจะตาย ...ใช่ครับ!! ถูกมาก!!
แต่ที่คุณเช่าเค้า จะ 20 ปี 30 ปี คุณก็จะม่ได้มาเป็นของตัวเอง ลองสู้ประหยัด แล้วเพิ่มส่วนต่าง(อย่างที่ผมได้เอ่ยไปข้างต้น) เพื่อเป็นค่าผ่อนบ้านตัวเอง 30 ปี บ้านหรือคอนโดที่คุณผ่อน ถึงเวลานั้นอาจจะ “ได้เป็นของคุณเอง”
ต่อมาเมื่อเรามีบ้าน เราก็สามารถ “ใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้” โดยที่ไม่ต้องคำนึงว่า เอ้... แต่งห้องแบบนี้ จะแต่งสีที่ตัวเองชอบได้ไหม ติดวอลเปอร์ได้ปล่าว จะเจาะผนังสักครั้ง ทำไม่ได้แน่นอน!!...
เพราะถ้าทำไปก็ต้องแลกกับการต้องเสียค่าปรับที่เราทำห้องเค้าเสียหายอีก... สุดท้ายมันไม่ใช่ตัวคุณ!!
ถ้าคุณมีบ้านเป็นของตัวเอง คุณจะพลิกใต้ไว้บน ทาห้องเป็นสีรุ้ง ติดวอลเปเปอร์ลายโดเรม่อนใส่ชุดซุปเปอร์แมนในห้องก็ได้ สิทธิ์ของคุณ!!
ประเด็นต่อมา “ความเป็นส่วนตัว” ทุกสิ่งมีชีวิตย่อมต้องการ Space ของตัวเอง
คุณแน่ใจหรือว่า? การที่คุณเช่าที่อยู่เค้าแล้วคุณจะได้พื้นที่ตรงนั้นและได้ความเป็นส่วนตัว 100 % !!??
บางอพาร์ทเม้นท์ ติดป้ายบอกไว้เลยว่า “ห้ามถอดสายโทรศัพ” ทั้ง ๆ ที่ เฮ้ย!! วันนี้วันหยุดชั้น!! ชั้นขอนอนติดเตียง ไม่ต้องการจะได้ยินเสียง กรี๊งงงง... จากใคร ๆ ทั้งสิ้น!!
วันดีคืนดีแม่บ้านมาเคาะห้อง ก๊อก ๆ ๆ สั่งนู่น สั่งนี่ บลา ๆ ๆ ซึ่งในแง่ของความรู้สึก ... การอยู่บ้านคนอื่นคำว่า “ส่วนตัวไม่มีจริง”
...ปิดท้ายด้วย “ประโยชน์ทางภาษี" เพราะการนำเงินดอกเบี้ยที่จ่ายชำระค่าผ่อนบ้านให้กับสถาบันการเงิน ในแต่ละปีเราสามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา ได้สูงถึง 50,000 บาทเชียว
ซึ่งถ้าหากคุณยังเช่าเค้าอยู่ก็ไม่มีโอกาสใช้สิทธิ์นี้นะจ๊ะ