ในบรรดาสถานีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เชื่อมจาก "หมอชิต" มีอยู่ 3 สถานีที่ผมสนใจเป็นพิเศษ
"สถานีห้าแยกลาดพร้าว" "สถานีรัชโยธิน" และ "สถานีม.เกษตรศาสตร์"
เหตุผลก็เพราะทั้ง 3 สถานีนี้ มี Landmark เป็นของตัวเอง
ห้าแยกลาดพร้าวมี "เซ็นทรัล ลาดพร้าว" รัชโยธินมี "เมเจอร์ รัชโยธิน" และ ม.เกษตรศาสตร์มี "ม.เกษตรศาสตร์" (จะเขียนทำไมฟระ? ฮ่าๆๆ)
จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้าเข้ามาเปิดคอนโดใกล้กับ 3 สถานีนี้กันเต็มไปหมด ทั้ง "ติด" และ "ใกล้"
อย่างไรก็ตาม ผมสังเกตว่า "สถานีรัชโยธิน" เป็นสถานีที่ยังไม่มีโครงการไหนที่เล่นกับคำว่า "ติด" เลยนะครับ
"ห้าแยกลาดพร้าว" มี "พี่แอพ" ที่ไปสร้างชีวิตติดสถานี และก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเมื่อปีก่อน
หรืออย่าง "ม.เกษตรฯ" ก็มี "อัศวิน" ไปบุกตั้งแต่ปีก่อนเช่นกัน และก็ขายดีเช่นกัน (แต่เมื่อไหร่จะเคลียร์ข้าวผัดปูครับ อิอิ) ถึงแม้จะไม่ถึงกะ "ติด" แต่ก็ใกล้มากๆ จนอนุโลมว่า "เกือบติด"
แต่ "รัชโยธิน" ยังไม่เห็นแบบ "ติด" ขนาดนี้เลยนะ (ไม่นับโครงการเก่านะครับ)
จนกระทั่งการมาของ "MAZARINE Ratchayothin" (แมสซารีน รัชโยธิน) นี่แหละ ที่กล้ามาบอกว่า "0 เมตร" นะคร้าบบบบ
ตั้งแต่ต้นปีมาแล้วที่ "Grand Unity" เค้าประกาศว่าปีนี้จะมี "แบรนด์ใหม่ๆ" ออกมาเขย่าตลาดคอนโดสักหน่อย
เคลียร์รูปลักษณ์เก่า เปิดภาพลักษณ์ใหม่ พัฒนาโพรดักต์ เพื่อเข้ามาแข่งขันในตลาดอันดุเดือดนี้
"CIELA Sripatum" (เซียล่า ศรีปทุม) ที่ติดสถานีศรีปทุม ถูกปล่อยออกมาเป็นตัวแรก ตามมาด้วย"De LAPIS" (เดอ ลาพีซ จรัญฯ 81) ที่อยู่ใกล้สถานีบางพลัด และโครงการที่ 3 ที่ว่ากันว่าเป็น "ไฮไลท์" ของปีนี้อย่าง "MAZARINE Ratchayothin" ก็กำลังจะถูกส่งมาในเดือนตุลาคม 61 นี้
ตอนที่ "Grand Unity" แถลงตอนต้นปีเกี่ยวกับการปรับภาพลักษณ์ในปีนี้ นอกเหนือจากทำเลที่จะเน้น "ติด" หรือ "ใกล้" รถไฟฟ้าแล้ว สิ่งที่เน้นมากเป็นพิเศษก็คือ "คุณภาพ" ของโครงการ
อ่านการแถลงข่าวครั้งนั้นได้ที่นี่เลย
การเปิดตัวของ "MAZARINE Ratchayothin" จึงน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
ทำเล
คำอธิบายที่ง่ายที่สุดก็คือ ตรงข้าม "เมเจอร์ รัชโยธิน" และติดกับรถไฟฟ้าสถานีรัชโยธินที่กำลังจะมาในอนาคตอันใกล้ ทำเลโคตรน่าสนใจเลยครับ ครบเลยทั้ง "ห้าง (โรงหนัง)" และ "รถไฟฟ้า"
แต่ผมจะมาเพิ่มเติมให้ว่าทำเลนี้มันมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด รู้ไหมว่า "เด็กเกษตรฯ" อาศัยอยู่ทำเลนี้กันเพียบเลย ซึ่งเหตุผลก็อาจจะเป็นเพราะ "เมเจอร์ รัชโยฯ" (เรียกตามเด็กเกษตรฯ .... ผมก็ใช่นะ ถึงแม้จะจบมานานมากแล้วก็เถอะ อิอิ) นั่นแหละ เชื่อไหมว่า "เด็กเกษตรฯ" หลายคนเดินจากมหาลัยมาที่เมเจอร์!!! ผมก็เคย!!!
คอนโด "พี่แอล" ตัวเก่า ที่เปิดมาแล้วหลายปี ทำเลอยู่เยื้องๆ เมเจอร์เช่นกัน มีเด็กเกษตรฯ เช่าอยู่เยอะมาก พี่ที่รู้จักกันมีห้องที่นี่ 2 ห้อง ปล่อยเช่าให้แต่นิสิตเกษตรฯ มาหลายปีแล้ว
แน่นอนว่าการมาของ "รถไฟฟ้า" ยิ่งทำให้ทำเลนี้ดียิ่งขึ้นไปอีก อย่าลืมว่ารถไฟฟ้าสายนี้คือ ไดเร็กต์ไปสู่ "สยาม" และ "สุขุมวิท" นะครับ ไม่ต้องต่อที่ไหนเลย
อาจมีหลายคนเป็นห่วงเรื่องการจราจรที่หนักหนาสาหัสจากการสร้างอุโมงค์รวมถึงรถไฟฟ้า (มีส่วนทำให้ เมเจอร์ เองก็ดูเงียบลงไปด้วย) ซึ่งก็ต้องบอกว่าปัจจัยเหล่านี้เป็น "ปัจจัยชั่วคราว" เมื่อทุกอย่างถูกคลี่คลาย ความคึกคักที่เคยมีจะกลับมาเอง (เอาจริงๆ แค่อุโมงค์เสร็จ ก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ)
แล้วอย่าลืมว่า "MAZARINE Ratchayothin" กว่าจะสร้างเสร็จก็หลังจากรถไฟฟ้าเริ่มเดินแล้ว
ดังนั้น เรื่องทำเล ........ จัดว่าแจ่ม
โพรดักต์
อย่างที่บอกว่า "Grand Unity" เค้าพัฒนาคุณภาพโครงการให้ดีขึ้นด้วย "MAZARINE Ratchayothin" เป็นโครงการที่จำนวนยูนิตไม่เยอะมาก แค่ 474 ยูนิต แต่ที่ผมชอบคือให้ที่จอดรถถึง 70% ทั้งๆ ที่เป็นโครงการติดรถไฟฟ้า (ปกติโครงการใกล้รถไฟฟ้า ให้ที่จอดรถเฉลี่ยแค่ 40 - 50%)
ราคาเปิดมา 4.2 ล้านบาท แต่มีส่วนลดหน่อยนึง แล้วก็แต่งแบบ Fully Furnished ด้วย ราคาเฉลี่ยโครงการอยู่ที่ประมาณ 175,000 บาท/ตร.ม. ถามว่าสูงไหม? ก็ต้องบอกว่า "นิวไฮ" ในทำเลเดียวกันเลย
ลองคิดแบบค่าเช่าดู ต้องการ 21,000 บาท/เดือน สำหรับห้อง Studio 24 - 25.5 ตร.ม. หรือคิดว่าโดยเฉลี่ยห้อง 1-bedroom ต้องการประมาณ 25,000 บาท/เดือนขึ้นไป
ค่าเช่าที่ว่ามาไม่เคยมีมาก่อนในพื้นที่ แต่ลองเทียบกับคอนโดเก่าดู อย่างห้อง 20 กว่าตร.ม.ของ "พี่แอล" ให้เช่าอยู่ 12,000 บาท/เดือน คนเช่าคือเด็กเกษตรฯ ถ้าเปลี่ยนเป็นคอนโดที่ใหม่กว่า 10 ปี ค่าเช่า 2 หมื่นกว่าจะเป็นไปได้ไหม? ผมตอบไม่ได้เลย มันมีโอกาสที่จะได้และไม่ได้พอกัน แต่ผมบอกได้เลยว่าหาคนเช่าไม่ยากแน่นอน เพราะอย่าลืมว่าจะมีกลุ่มคนทำงานเข้ามาในพื้นที่อีกเยอะเมื่อรถไฟฟ้าเริ่มเดิน
ผมมองว่า MAZARINE เหมาะกับผู้อยู่อาศัยจริงเป็นหลัก คนที่เน้นทำเลแบบติดรถไฟฟ้าสายหลัก และมีห้าง+โรงหนัง+ร้านอาหารดีๆ อยู่ตรงข้ามเลย
ส่วนราคาในอนาคตยังไปต่อได้แน่นอน เพราะทำเลแบบนี้หาได้ยากมากแล้ว แต่จะขึ้นมากหรือน้อยก็แล้วแต่สภาพเศรษฐกิจและตำแหน่งห้องที่เลือกครับ
สรุปตามสไตล์คอนโดติดดอย
สำหรับการอยู่เอง ใครที่หลงใหลเรื่องการอยู่คอนโดติดรถไฟฟ้าคงชอบใจมาก แถมยังมีเมเจอร์อยู่ตรงข้ามอีก ชีวิตมีสีสันมากมาย เข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าสบายมาก มุ่งตรงสู่สยามและสุขุมวิทเลย ตัวโพรดักต์เองโครงการก็พัฒนาขึ้นมากเมื่อเทียบกับโครงการเก่าๆ ส่วนกลางมีครบถ้วนตามสมัย ที่สำคัญที่จอดรถเยอะกว่าโครงการติดรถไฟฟ้าโดยทั่วไป
สำหรับการเล่นสั้น ผมว่าเล่นได้นะ แต่ก็ย้ำๆๆๆ ว่าต้องรอบคอบและมีสติ อย่าโลภมากเกินไป ตัดใจใหเป็น ต้องเลือกตำแหน่งดีๆ และถ้ามีประสบการณ์ในการเล่นสั้นมาก่อนก็จะดีมากครับ
สำหรับการปล่อยเช่า เรื่องหาคนเช่าไม่น่าใช่ปัญหา นิสิตเกษตรฯ มีแน่นอน แต่จะได้คนทำงานทั่วไปเพิ่มมาอีกด้วย แต่เรื่องผลตอบแทนอาจจะไม่สูงมากนัก ตีสัก 4%
สำหรับการเล่นระยะยาว ราคาไปต่อได้แน่นอนครับ ถ้ามีสายป่านยาว เก็บได้หลายปีเลย ผมเชื่อว่าเมือการก่อสร้างอะไรต่างๆ ของสี่แยกรัชโยธินถูกคลี่คลายไป เมเจอร์ รัชโยฯ ก็จะกลับมาคึกคักอย่างที่เคยเป็นแน่นอน ยิ่งพอรถไฟฟ้าเริ่มเดิน มูลค่าของทำเลนี้ก็จะยิ่งแพงขึ้นไปอีก และ "MAZARINE Ratchayothin" จะถูกสร้างเสร็จหลังทุกอย่างที่เขียนมา
"MAZARINE Ratchayothin" (แมสซารีน รัชโยธิน) เป็นคอนโดที่เหมาะกับคนที่หลงใหลทำเลติดรถไฟฟ้า และใกล้ห้าง จำนวนยูนิตไม่เยอะ มีความเป็นส่วนตัว ที่จอดรถให้มาเยอะ สามารถเข้าสู่ใจกลางเมือง (สยาม - สุขุมวิท) ด้วยรถไฟฟ้าแบบมุ่งตรง ไม่ต้องไปต่อที่ไหน หากอยากเล่นสั้นก็พอทำได้ แต่อย่าโลภเกินไป สามารถปล่อยเช่าได้สบายๆ ทั้ง นิสิตเกษตรฯ และคนทำงานทั่วไป แต่ผลตอบแทนอาจจะไม่สูงมากนัก เก็บไว้ระยะยาวจะเป็นทรัพย์สินที่ดี สร้างมูลค่าเพิ่มได้
นึกถึงลงทุนคอนโด นึกถึงคอนโดติดดอย ^0^