เมื่อหลายวันก่อน ผมมีโอกาสได้คุยกับ 1 ในผู้เชี่ยวชาญ Auto Parking ในไทยเรา รู้สึกว่า มีหลายเรื่องน่าสนใจดีนะ  

 

        "ในหลายประเทศที่มีการใช้ Auto Parking อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ก็ได้ผ่านจุดที่ในกรุงเทพฯ เผชิญอยู่ นั่นก็คือ มีปัญหาและการต่อต้านการใช้ Auto Parking พอสมควร"

 

        "ซึ่งเมื่อมีปัญหา จึงเกิดการปรับปรุง แก้ไข และการพัฒนาตามมาในที่สุด ในกรุงเทพฯ ก็เช่นกันนะ ตอนนี้เราต้องการระบบ Auto Parking ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่เข้ามาใช้ เพราะนอกจากมันจะปลอดภัย สะดวกสบาย และประหยัดกว่า ยังทำให้ปัญหาที่จอดรถไม่พอถูกขจัดออกไปอีกด้วย"

 

        หลังจากฟังอย่างเพลิดเพลิน จากผู้เชี่ยวชาญที่ไปดูงานมาในหลายประเทศแล้ว ก็รู้สึกสนใจเป็นพิเศษ เพราะ "สายคอนโด" อย่างเราต้องเกี่ยวข้องกับที่จอดรถอยู่เสมอ และในช่วงหลังคำว่า Auto Parking ก็วิ่งเข้าหูบ่อยเหลือเกิน ผมเลยอยากเขียนเป็นบทความนี้ขึ้นมาเล่าสู่กันอ่าน

 

        1. สมัยเมื่อราวสัก 10 กว่าปีก่อน ผมมักรู้สึกว่า อาคารหรือคอนโดใดที่มี "Auto Parking" มันเท่มากๆเลยนะ แค่เลี้ยวเข้าซอง ก็ออกจากรถไปเดินเฉิดฉายได้เลย ไม่ต้องไปเสียเวลาหาที่จอดเอง แหม มันช่างดูสะดวกสบาย หรูหราจริงๆเนอะ คล้ายๆกับที่ตามห้าง โรงแรมหรู มีบริการพนักงานมาคอยจอดรถแทนเรานั่นแหละ เพียงแต่อันนี้เป็นเครื่องยนต์ ที่จะมาช่วยเราจอดรถ

 

        2. ภาพลักษณ์ของ "Auto Parking" สำหรับผม ณ ตอนนั้น จึงเป็นอะไรที่ ต้องเป็นที่หรูๆเท่านั้น ถึงมีได้ 

 

        3. ในไทยเอง มีระบบ "Auto Parking" มาร่วมหลัก 10 ปีแล้วนะครับ เพียงแต่จะอยู่ในวงแคบๆเท่านั้น บางคนอาจไม่เคยใช้งานเลยด้วยซ้ำ คนทั่วไป เริ่มจะมาคุ้นหูเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง เพราะเริ่มมีโครงการดังๆใช้ระบบ Auto Parking เช่น ห้างเอ็มควอเทียร์ และคอนโดใหม่ๆในช่วง 3-4 ปีหลัง ก็เริ่มมีกันเยอะขึ้นด้วย

 

 

        4. ระบบ "Auto Parking" เริ่มนำมาใช้ในคอนโดมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหา จำนวนที่จอดรถที่เริ่มต่ำเตี้ยลงมาเรื่อยๆ จนสัดส่วนมาแตะแถวๆหลัก 20%แล้ว!!! ตอนซื้อก็ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไรหรอกครับ อาจมีกังวลบ้าง แต่ก็จำใจ ด้วยงบที่มีจำกัด แต่พอมาอยู่จริงๆ แทบจะเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีหาที่จอดกันเลย จนลามไปลำบากคนในพื้นที่ใกล้เคียงไปด้วย

 

        5. ปัญหาที่จอดรถไม่พอ ปล่อยไปแบบนี้ ไม่ดีแน่ เหล่า Developer จึงเริ่มหาทางแก้ปัญหา หวยเลยมาออกที่ระบบ "Auto Parking" นั่นเอง ซึ่งก็ทำให้สัดส่วนจำนวนที่จอดรถมีเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ก็จะ 30%+ละ เอาจริงๆมันก็อาจจะยังไม่พอต่อความต้องการ แต่มันก็ยังดีกว่าสัดส่วนเก่าอะเนอะ

 

        6. มาถึงในยุคนี้ ระบบ "Auto Parking" จึงเริ่มเปลี่ยนภาพลักษณ์จากของหรูหรา เป็น 1 ในการแก้ปัญหาของที่จอดรถแทน คือยังดูหรูอยู่นะแต่ลดลง ไม่เท่าสมัยก่อน 

 

 

 

        7. ในช่วง 1-2 ปีนี้ คอนโดที่มีระบบ "Auto Parking" ก็เริ่มทยอยสร้างเสร็จละ การใช้งานจริงเกิดขึ้น มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ

 

        8. คนที่ไม่ชอบ ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้เวลารอนาน ทั้งการเอารถเข้า และออกจากที่จอด , ลืมของบนรถ ขึ้นไปเอาไม่ได้ , ค่าบำรุงรักษา ทำให้ค่าส่วนกลางแรงขึ้น และ ถ้าลิฟท์รถเสียพร้อมกันหมด (ประมาณว่าดวงกุดมากๆ ซึ่งผมเคยมาแล้ว 555) เอารถขึ้นหรือลงไม่ได้ โดยหลักๆก็จะประมาณนี้ ส่วนเหตุผลที่คนชอบก็คือ สะดวก , โอกาสรถมีรอยจากรถคันอื่นน้อย (หรืออาจไม่มีเลย) และสามารถจอดรถได้มากขึ้น

 

        9. ตัวผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการระบบ "Auto Parking" อยู่บ่อยครั้ง ผมเองจึงค่อนข้างเห็นด้วยกับทั้งข้อดี และข้อเสียเลย

 

        10. แต่หลังจากที่ผมได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญ จึงทำให้ผมรู้ว่าระบบ "Auto Parking" เอง ก็มีหลายแบบ และหลากคุณภาพ ข้อเสียที่ว่ามา ถึงแม้อาจแก้ไม่ได้ 100% แต่ก็บรรเทาไปได้เยอะนะ 

 

        11. ระบบโดยทั่วไป (ถูก) จะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในกรณีไม่มีคิว สำหรับการเรียกรถลงมา หรือเอาไปเก็บ แต่ระบบที่ดี (แพง) จะใช้แค่ประมาณ 3 นาที อาจจะดูไม่ต่างมาก แต่ถ้าหลายๆคันมาต่อๆกัน ผมว่าประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยนะ และบางทีเราเองก็ลืมไปว่า การวนหาที่จอดรถ หลายครั้งใช้เวลามากกว่า 5 นาทีของแบบระบบทั่วไปเสียอีกนะ 

 

        12. ระบบที่ดี จะมีการถามเตือนเราตอนที่เราเอาบัตรไปสแกนให้จอด ทำให้เรามีโอกาสลืมของน้อยลง และถ้าลืมจริงๆ อย่างน้อยจะมีการออกแบบพื้นที่ให้เราเรียกรถแล้วนั่งรอเย็นๆสบายๆ พอรถลงมาก็ค่อยลุกไปเอา (แบบที่ เอ็มควอเทียร์) 

 

 

 

 

        13. ระบบที่ดีจะไม่ต้องให้ผู้ขับขี่ต้องขับรถเข้าไปในตัวลิฟต์ แต่จะมีถาดมาช้อนรถเข้าไปแทน ซึ่งทำให้มีความปลอดภัยมากกว่ามาก หากมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นในลิฟต์จะไม่เกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่เลย 

 

        14. ระบบที่ดีจะไม่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนของโครงสร้างจากการใช้งาน 

 

        15. ระบบที่ดีจะมีค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่าระบบทั่วไปเกือบครึ่งเลย!!! คือก็ยังเสียตังเพิ่มน่ะแหละ แต่เสียน้อยลงเยอะ ทำให้ค่าส่วนกลางที่เพิ่มขึ้นนั้นลดลง 

 

        16. ตัวลิฟท์เสียหมด อันนี้ดวงจริงๆครับ 555 ระบบอาจช่วยอะไรมากไม่ได้ โดยปกติเกือบทุกเจ้าก็จะซ่อมเร็วอยู่แล้ว แต่ระบบที่ดี จะสามารถเอาอะไหล่สำรองมาเปลี่ยนให้ใช้ชั่วคราวก่อนทันที ซ่อมเสร็จก็ค่อยกลับมาเปลี่ยน จะใช้เวลาที่น้อยกว่า

  

        17. การมี "Auto Parking" อาจทำให้มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางเพิ่มก็จริง ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยชอบเรื่องการจ่ายเงินเพิ่มเหมือนทุกคนนั่นละ 555 แต่ถ้าเอาตาชั่งมาวัด ระหว่าง "ค่าส่วนกลาง" ที่เพิ่ม กับ "ที่จอดรถ" ที่มากขึ้น 30-50% (แล้วแต่ระบบ) จากเดิม ผมขอเลือกการมี "Auto Parking" นะ เพราะ "ค่าส่วนกลาง" ที่เพิ่ม เรายังพอหาเงินมาจ่ายได้ไม่ต่างจากเดิมเท่าไรนัก (แล้วแต่ระบบ) แต่ "ที่จอดรถ" โอกาสที่จะสร้างเพิ่มทีหลัง ยากกว่าเยอะครับ แถมยังจะใช้เงินเพิ่มมากกว่าพอตัวเลย

 

        18. บางที การใช้ "Auto Parking" ก็คงเหมือนเรื่องลิฟท์ หรือรถไฟฟ้า นั่นละครับ ที่ช่วงแรกเริ่ม คนก็ไม่ค่อยอยากใช้เท่าไร รู้สึกว่า แพง ไร้ประโยชน์ แล้วมาดูตอนนี้สิ เป็นสิ่งที่แทบขาดไม่ได้ไปแล้ว จะเร็วจะช้า ผมว่าอย่างไร "Auto Parking" ก็ต้องมา ด้วยพื้นที่ที่ดินที่ลดน้อยลงทุกที บางทีเราควรเปิดใจ "ศึกษา" มัน เพื่อให้เราได้สิ่งที่ดีที่สุด มีคุณภาพที่สุด น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า อย่างน้อย "Auto Parking" ก็ทำให้เราได้คอนโดที่มีที่จอดรถเพิ่มขึ้นในราคาที่(อาจ)ถูกลง

 

        ยังมีรายละเอียดเรื่อง "Auto Parking" อีกหลายอย่างเลย ผมรู้สึกว่า "การเขียน" บทความ อาจจะยังทำให้ไม่เห็นภาพมากนัก เลยตัดสินใจจะทำเป็น VDO พาไปดูที่จริง เปรียบเทียบกันไปเลย รอติดตามกันนะ