VMPC ชี้สารพัดปัจจัยลบฉุดอสังหาฯ ปี 2562 ลุ้น “เสถียรภาพการเมือง-ต่างชาติย้ายฐานผลิตเข้าไทย” ดันเศรษฐกิจฟื้น
นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี.จำกัด (VMPC) เผยปี 2562 เศรษฐกิจไทยยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน มาตรการคุมเข้มปล่อยกู้ซื้อบ้าน
ในขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือหนี้เสีย (NPL) ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในอัตราค่อนข้างสูง โดยอยู่ที่ระดับประมาณ 4% และยังไม่เห็นสัญญาณบวกที่ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโต
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกจากภาวะเศรษฐกิจโลก กรณีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ทำให้บริษัทหลายแห่งที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐต้องย้ายฐานการผลิตจากจีน ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวและอาจจะกระทบการท่องเที่ยวและภาพรวมเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม จากการที่บริษัทหลายแห่งต้องย้ายฐานการผลิตจากจีนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการประกาศเก็บภาษีสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากจีน รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐกับอีกหลายๆ ประเทศ อาจทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตและการลงทุนมายังประเทศไทย เพื่อเปลี่ยนสถานที่ในการผลิตสินค้าให้สามารถส่งออกสินค้าได้ตามปกติ
ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในภูมิภาคเอเชียที่มีความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งเหมาะสม มีระบบสาธารณูปโภคและคมนาคมขนส่งที่เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนซึ่งจะเป็นแรงดึงดูดให้จีนและประเทศอื่นๆ เข้ามาขยายฐานการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC ) ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทราเริ่มมีความชัดเจนด้านการลงทุนต่างๆ มากขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ VMPC ยังคงยึดหลักการดำเนินธุรกิจโดยการบริหารอสังหาริมทรัพย์แบบ 2 ขา โฟกัสทั้งตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและให้เช่า ซึ่งถือเป็นการบริหารและกระจายความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจผันผวน โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 60% และอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า 40%
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ล่าสุดคือ “โอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนท์ ศรีราชา” โรงแรมระดับ 5 ดาว
สูง 48 ชั้น บนเนื้อที่ 12 ไร่ ใจกลางอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Oriental Style”
ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย บริษัทฯ เน้นเจาะตลาดระดับบนหรือกลุ่มไฮเอนด์ โดยแต่ละโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนสายหลัก อาทิ โครงการ “แอสเทรา ไพรด์ พระราม 2” บ้านเดี่ยวขนาด 3 ชั้น สไตล์ “Modern Style New Fangled Loft” พร้อมฟังก์ชั่นการใช้สอยครบครันที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต้นถนนพระราม 2 ติดถนนใหญ่ ราคายูนิตละ 35 – 50 ล้านบาท เนื้อที่โครงการประมาณ 12 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 1,400 ล้านบาท
โดยล่าสุดได้เปิดตัวบ้านซีรีส์ใหม่และได้รับการตอบรับที่ดีมาก นอกจากนี้ยังได้พัฒนาโครงการ “แอสเทรา เบลส” ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง ติดถนนพระราม 2 กม. 5 ราคายูนิตละ 8.49 – 9.89 ล้านบาท พื้นที่โครงการประมาณ 28 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 2,100 ล้านบาท ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “ทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ที่ไม่เหมือนใคร” เน้นความหรูหราในสไตล์โมเดิร์น ด้วยจุดเด่น “Free Space Design” ดีไซน์ทุกพื้นที่ภายในบ้านให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย โดยโครงการดังกล่าวได้เปิดขายไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และเริ่มเปิดขายเฟสที่ 2 และทยอยโอนกรรมสิทธ์ในปี 2561....