ยังคงเป็นกระแสกันอย่างต่อเนื่องสำหรับการออกมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่หลายคนและหลาย ๆ กระแสมองว่ามันไม่ดี และจะส่งผลทำให้ตลาดอสังหาในปีนี้เกิดการชะลอตัวลง แต่มันก็ไม่ได้แย่เสมอไปนะเออ เพราะวันนี้เค้าเริ่มมีแววดีออกมาบ้างแล้ว

 

         จริง ๆ ที่เค้าออกมาตราการ LTV มาก็เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องเงินทอนสินเชื่อบ้าน ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาการเกิดฟองสบู่ในระบบเศรษฐกิจ เค้าเลยพยายามตัดกลุ่มนักเก็งกำไรหรือกลุ่มหวังผลประโยชน์จากเงินทอนสินเชื่อบ้าน ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวนั่นเองจ้าา

 

         ที่จากมุมมองของกลุมธุรกิจอสังหาแล้วการที่มีมาตรการแบบนี้มันก็มีข้อดีอีกอย่างคือส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ปรับตัว โดยการนำบ้านสั่งสร้างกลับมาทำตลาดอีกครั้งนั่นเอง ซึ่งนั่นก็อาจจะเกิดขึ้นได้แต่ก็คงไม่ได้มีจำนวนมากมายอะไรนัก

 

         เพราะงั้นแล้วแม้กว่าการนำบ้านสั่งสร้างกลับมาทำตลาดจะมีส่วนช่วยเพิ่มกำลังซื้อลูกค้า แต่กลุ่มที่ต้องมีเงินดาวน์ 20% คือกลุ่มที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ซึ่งมีจำนวนไม่มากเท่าที่ทุกคนเกรงกลัวกันนะเออ ทั้งนี้จากการเก็บข้อมูลลูกค้าเฉพาะในส่วนของ "สัมมากร" พบว่าจากแบล็กล็อก 300 ล้านบาทในมือเป็นกลุ่มลูกค้าซื้อบ้านหลังแรกมาถึง 90-95% และมีเพียง 5% เท่านั้นที่เป็นกลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 หรือหลังที่ 3

         ผู้ที่จะได้รับผล กระทบจากมาตรการ LTV นั้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มผู้ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวและนักเก็งกำไร ซึ่งหวังเงินทอนสินเชื่อ โดยกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบ 100% ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มคือผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 เพื่ออยู่จริง ซึ่งอาจเป็นกลุ่มที่เคยซื้อคอนโดก่อนหน้า

 

         ต่อมาต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่มากขึ้น เนื่องจากมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่ม จึงขยายมาซื้อบ้านแนวราบแทนห้องชุด ซึ่งกลุ่มนี้หากมีการกูซื้อมาแล้ว 3 ปีหรือมากกว่าก็ถือว่าไม่เข้าเกณฑ์ตามมาตรการ LTV แต่หากอายุมีการกู้ซื้อยังไม่ถึง 3 ปี ก็จะอยู่ในกลุ่มที่เข้าเกณฑ์ ซึ่งจะต้องมีการวางเงินดาวน์ 20% ดังนั้น กลุ่มลูกค้าดังกล่าวอาจหันมาเลือกซื้อบ้านสั่งสร้างแทนนั่นเองงง