เดี๋ยวนี้คอนโดขึ้นกันเยอะรายวัน แต่อีกหนึ่งอสังหาที่ยังมาแรงไม่มีตกก็คงหนีไม่พ้นบ้านหรู เพราะตลาดบ้านซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่คู่แข่งน้อยอุปทานมีแค่ 10% เท่านั้นเอง แถมที่ดินในเมืองตอนนี้ก็น้อยลงทุกที การจะมีบ้านเดี่ยวกลางเมืองเป็นเรื่องที่ควรรีบกับนเลย ยิ่งนานไปมีแต่แพงขึ้นเป็นเท่าตัว

 

         สำหรับผลกระทบต่อบ้านหรูจาก มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกเกณฑ์ LTV ใหม่มาเริ่มมีผลบังคับให้วันที่ 1 เม.ย. 2562 บริษัทอย่างชาณอิสสระกลับมองว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านหรูส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และลูกค้าส่วนใหญ่ของชาญอิสสระฯ ที่ซื้อบ้านหรูนั้นส่วนใหญ่ใช้เงินสดซื้อในสัดส่วน 60-70% มากกว่าการใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน

 

         ขณะที่ผล กระทบของ LTV อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะระดับกลาง-ล่าง ที่มีการแข่งขันสูง ทำให้หลังจากมาตรการ LTV มีผลบังคับใช้จะส่งผลต่อการขายของตลาดกลาง-ล่างจะเกิดการชะลอตัวลง แต่ตลากระดับบนก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเรื่องสินเชื่อคงไม่ใช่ปัญหาของลูกค้ากลุ่มนี้

 

         ถ้าเราสำรวจจากข้อมูลโดยละเอียดแล้ว จะเห็นได้เลยว่าการแข่งขันตลาดบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่เปิดตัวแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่มีราคาตั้งแต่ 70 ล้านบาทขึ้นไป ว่ามีจำนวน 7 โครงการเท่านั้น หรือคิดเป็นบ้าน 271 หลัง

 

         โดยทำเลที่ตลาดกลุ่มนี้ตั้งอยู่แบ่งเป็น 3 ทำเลหลัก ได้แก่ ทำเลใจกลางเมือง หรือซีบีดี อาทิ สุขุมวิท สาทร ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นกลาง อาทิ รัชดาภิเษก-พระราม 9 พัฒนาการตอนต้นและทำเลชานเมืองโดยรอบ เช่น เกษตรนวมินทร์ กรุงเทพกรีฑา บางนา