2. ถ้าผมไม่ได้เป็นคน "ความจำสั้น แต่รักฉันยาว" ชะอุ้ย 555 "Ideo Mobi Asoke" น่าจะเป็นโครงการแรกในตระกูล Ideo , Ideo Mobi เลยนะ ที่อาจหาญ ใส่กระจกโค้งที่โด่งดังของ "Ashton Asoke" ในตำนาน (นานจนตอนนี้ยังไม่ได้เข้าอยู่เลย อิอิ แต่ขอบอก คนโอนเพียบ) มาไว้ในห้อง แถมยังมีห้องแบบ Duplex ยอดนิยมอีก เพราะแบบนี้กระมัง ถึงได้ไปกระตุ้นต่อม "อยากได้" ของใครหลายคน 555

 

 

 

 

 

 

        3. ในโครงการ เท่าที่ผมดูส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ "หน้ากว้าง" ซึ่งมีข้อดีที่ทำให้ห้องแลดูกว้างกว่า ขนาดที่แท้จริงของมัน

 

        ห้องที่ผมสะดุดตามากที่สุด เห็นจะไม่พ้น แบบ 2 Bedroom เพราะมีการออกแบบให้หน้ากว้างมากๆ ร่วม 10 ม. เลย!!! แถมเป็นกระจกเกือบทั้งหมด และยังมีส่วนที่เป็นระเบียงขนาดใหญ่ (หรือจะเรียกห้องนั่งเล่นก็ยังได้ ตั้งวงเล่นป๊อกเด้งกันได้เลยนะ 555) "เทควิว" กันให้แสบตาไปเลย 

 

        ห้องนี้ มีห้องน้ำห้องเดียวนะ แต่มี 2 ประตู เข้าได้จากห้องนอนหลัก และห้องครัว (แบบปิด) ที่ผมชอบก็คือ ห้องน้ำมีการแบ่งสัดส่วนแบบมีที่กั้น ระหว่างโซนอาบน้ำ และห้องน้ำ จึงทำให้เราสามารถนั่งแช่ ปล่อยเรือดำน้ำ ได้อย่างสบายอุรา โดยที่อีกคนก็ยังอาบน้ำไปด้วยได้ แต่ อย่าลืมปิดที่กั้นละ อิอิ

 

        4. โครงการนี้ยังมี สิ่งที่น่าจะตอบโจทย์ ใครหลายคนในยุคนี้ก็คือ "Smart Living" นั่นเอง เราสามารถสั่งงาน เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างในห้องของเรา ผ่าน App ของทาง Ananda อย่างเช่น

 

        - Digital Door Lock & Door Sensor เราสามารถดูใน App ได้ว่า ประตูยังล็อคอยู่ดีหรือไม่ อันนี้ดีมากๆเลย

 

        - หลอดไฟ ใครกลัวความมืด ก็เปิดไฟก่อนเข้าห้องได้ หรือก่อนนอน เราก็สามารสั่งปิดไฟจากเตียงได้เลย ไม่ต้องลุกมาผลาญพลังงานเล่นๆ อิอิ

 

        - แอร์ มีประโยชน์กับเมืองร้อนอย่างเรามาก สั่งเปิดแอร์ก่อนเข้าห้องได้เลย หมดปัญหาเรื่องเข้าห้องมาแล้วร้อนของฝั่งทิศตะวันตก สามารถปรับอุณหภูมิได้ด้วยนะ

 

        - มีระบบตรวจจับน้ำรั่วตรงบริเวณซิงค์ล้างจานด้วย ซึ่งจะเด้งมาที่ App ในมือถือเราเลย เวลาที่มีปัญหา

 

        - IP camera สามารถสอดส่องในห้องได้ตลอดเวลา ใครแอบหิ้วกิ๊กมา อาจมีซวยได้ อย่าเผลอเชียว 555 

 

 

 

 

 

 

 

 

        5. เรื่องส่วนกลาง เรื่องถนัดของ Ananda เลยละ ครบถ้วน และจัดเต็ม เช่น Dynamic Gargen , Mezzanine floor Sky Lounge , Cloud Fitness , Steam room and Sauna ที่โดดเด่นเด้งดึ๋งก็มี 

 

        - Urban Trail Running ทางวิ่งที่พาเราจากชั้นหนึ่งไปสู่ชั้นที่ 7 ได้เลย แนะว่าใครยังไม่ชำนาญ เดินขึ้นดีกว่านะ ถ้าไม่อยากกลิ้งลงจุ๊บกับพื้น อิอิ

 

        - Panoramic Skypool สระว่ายน้ำ ไม่พูดไม่ได้ เพราะออกแบบมาได้โดดเด่นจริงๆ โดยจะแบ่งเป็น 3 ชั้น น้ำจะไหลลงมาทีละชั้น แบบม่านน้ำตกด้วย วิวดีทีเดียว ไม่มีอะไรมาบดบังในระยะใกล้ๆเลย

 

        - ลิฟท์ !! ไม่น่าพูดถึงใช่ไหม 555 จริงๆแล้ว ที่น่าสนใจคือ จอทีวีที่อยู่บริเวณโถงลิฟท์ในแต่ละชั้นพักอาศัยต่างหาก ตัวจอจะฉายภายในลิฟท์แต่ละตัวให้เราได้เห็น ข้อดีคือ ทำให้เราสามารถหลบเลี่ยงการปะหน้ากับแฟนหลัก ระหว่างที่ยืนรอลิฟท์กับกิ๊กได้(555) เอ้ย ไม่ใช่สิ จุดประสงค์ก็คือการเพิ่มความปลอดภัยนี่ละครับ และเรายังสามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เวลาเกิดเหตุไม่ปกติในลิฟท์ได้ด้วย เออ จะว่าไป ไม่น่าพากิ๊กหลบได้เนอะ เพราะเสร็จ แฟนหลักตั้งแต่ IP Camera ในห้องแล้ว 555 ยังจะอุตส่าห์วกกลับมาเรื่องนี้อีกนะ 

 

 

 

        6. "วิว" ต้องยอมรับว่า คนออกแบบโครงการ ทำการบ้านมาดี ทั้งๆที่ "Ideo Mobi Asoke" ถูกขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่งเลย แต่สามารถออกแบบมาให้มีวิวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้ามองจากด้านบนตัวตึก จะมีลักษณะ ตัว "L" ที่ดูยึกยือ ทิศเหนือ(เฉียงตะวันตก) วิวค่อนข้างเคลียร์ทีเดียว วิวจะเป็น ถนนเพชรบุรี มักกะสัน

 

        7. ทิศใต้ เห็นคลองแสนแสบ และ มศว. วิวใช้ได้ แอบส่องนศ.สบายเลย 555 ตรงนี้มีท่าเรือด้วยนะ เดี่๋ยวไปขยายตรง "การเดินทาง" อีกที

 

        8. ทิศตะวันออก มีการบิดองศาตึกหลบ "เพื่อนบ้าน" My Resort แต่เอาจริงๆ มันก็ยังบังน่ะแหละ แต่แทนที่จะบังมิด ก็กลายเป็นบังบาง(หลาย)ส่วน ถ้าจะเอาโล่ง ต้องชั้นสัก 30 ขึ้นไป

 

        9. ทิศตะวันตก อันนี้ก็จะติดเพื่อนบ้าน "ป้าศุ" แต่ไม่บังเท่าทิศตะวันออก ทิศนี้ผมโอเคนะ อาจจะติดเรื่องแดดบ้าง ก็ไปหาม่านกันซะ หรือไม่ก็จิ้ม App เปิดแอร์สู้ อิอิ

 

 

 

        10. "ทำเล" โครงการ “Ideo Mobi Asoke” วางตัวเองติดกับถนนเพชรบุรีเลย คนมีรถนับว่า "สะดวก"

 

        ออกจากโครงการมาทางซ้าย ถ้าเราจะเข้า "สุขุมวิท" ก็ให้เลี้ยวซ้ายตรงแยกได้เลย หรือถ้าอยากไปพระราม9 รัชดา ก็เลี้ยวขวาตรงแยกแทน หรือถ้าขับตรงไปเรือยๆก็จะออกประตูน้ำ แวะช้อปปิ้ง ที่ "Platinum Mall" สบาย

 

        ถ้าจะไปทางขวาของโครงการ เพื่อมุ่งไปทางคลองตัน เราจะเลี้ยวขวาทันทีไม่ได้ ต้องเลี้ยวไปทางซ้ายก่อน แล้วไปกลับรถใต้สะพาน แค่ราวๆ 200 กว่าม.เอง ไม่ไกลนะ แถวนี้ต้องทำใจเรื่องรถติดหน่อยนะ สาหัสบ่อยมาก 5555 อย่างไร ถ้าจะไปไหนสำคัญๆ ควรเผื่อเวลาไว้หน่อยก็ดี

 

        11. ถ้าใครเบื่อรถติด การเดินทางสาธารณะมีให้เลือกเพียบ ทั้ง MRT , Airport Rail link , รถเมล์ , วินมอเตร์ไซค์ และเรือ เรียกได้ว่ามีอาวุธ "ครบมือ" เลยละ โดยระยะห่างจาก MRT (สถานีเพชรบุรี) จะอยู่ที่เกือบๆ 300 ม.(ฝั่ง Q Asoke) แต่แนะว่า เดินไปทางขาที่เชื่อมกับ Airport Rail Link ดีกว่า ไกลกว่ากันสัก 10 กว่าม.ได้มั้ง แต่ข้ามถนนง่ายกว่ากันเยอะ แถมมีร้านของกินอร่อยๆฝังตัวอยู่ตรงทางเชื่อมด้วยนะ ร้าน "Gold Curry" ที่ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณ และความอร่อย ของเมนูประเภทข้าวแกงกะหรี่ นั่นเอง แต่ถ้ารออีกหน่อย เห็นว่า Q2/2019 นี่แหละ จะมีขา MRT มาผุดอยู่ตรงหน้า "สิงห์คอมเพล็กซ์" เลย จะทำให้ปัญหาเรื่องการข้ามถนนหมดไป และยังย่นระยะห่างจากโครงการถึง MRT ไปได้อีกด้วย 

 

        รถเมล์ กับ วินมอเตอร์ไซค์ อยู่ติดกันเลย ห่างจาก โครงการแค่ไม่กี่สิบก้าวเท่านั้น ส่วนท่าเรือ จะอยู่ในซอยทางขวามือที่ติดกับโครงการเลย เดินเข้าไปสุดซอยจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งอีกฝั่งก็เป็นท่าเรือละ ท่ามศว.ประสานมิตร จะไปรามหรือ ประตูน้ำ ก็สบายๆ แวะช้อปปิ้ง ที่ "Platinum Mall" ได้อีกแล้ว 555

 

 

 

 

        12. ส่วนเรื่อง อาหารการกิน ของกินของใช้ อยากบอกว่า "หายห่วง" เนื่องด้วยเพราะติดกับท่าเรือที่มีคนใช้งานมาก เน้นอีกครั้ง นศ.เพียบ อิอิ บรรดาของกินจึงมีมากอย่างไม่ต้องสงสัย มีตั้งแต่บริเวณท่าเรือยาวมาถึงหน้าปากซอยที่ติดกับโครงการเลย จะกินหนักซัดเบา ได้หมด แต่ถ้าเป็นวันหยุด ร้านค้าตรงนี้จะบางลงหน่อยนะ แต่ไม่เป็นไร 7-Eleven อยู่ติดกับโครงการเลย เป็นสาขาขนาด 2 ห้องด้วย เดินต่อไปอีกแค่ไม่กี่ก้าว จะเจอะกับ CP Freshmart ที่ตรงด้านหน้า จะมีพวกรถเข็นมาขายของอีกพอตัว ผมทดลองสั่ง "ชิ้นปิ้ง" มาทดลองใส่กระเพาะแทนแฟนเพจแล้ว ขอบอกว่า "แซ่บหลาย" พวกพี่วินก็มากบดานอยู่ตรงนี้น่ะแหละ

 

        ถ้าแค่นี้ ยังไม่สาแก่กระเพาะ ก็ให้แวะ "Metro Mall" ที่อยู่ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ได้เลย มีร้านค้าเจ๋งๆอีกเป็นสิบ เช่น A&W , กาแฟนางเงือก , โอชายะ , แดรี่ควีน , The Waffle , ฮั่วเซ่งฮง , Lawson 108 และ Gourmet to go (มาร์ทพรีเมียมขนาดย่อม) เป็นต้น หรือจะเลือกไปเดินโซนร้านค้าของ "สิงห์คอมเพ็ลกซ์" ก็ได้นะ มี Tops Daily มีที่นั่งด้วย , Kamu และร้านอาหารมากมาย (ค่อนไปทางอาหารญี่ปุ่น)

 

        ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินห้าง พึ่ง MRT เลยครับ แค่ 1 สถานีเท่านั้น ไปลงพระราม 9 เดินจากสถานีเชื่อมเข้า เซ็นทรัล พระราม 9 ชั้นใต้ดินได้เลย (เหมือนที่ญี่ปุ่น) หรือจะเลือกไปลงสถานีสุขุมวิท (อโศก) มีทางเชื่อมลอยฟ้าเข้า "Terminal 21" ห้างที่มีของอร่อยเพียบ และ Food Court ราคาถูกมากกกก

 

        13. สำหรับการอยู่เอง ผมให้ไปเลย 3 ผ่าน ส่วนการปล่อยเช่า เท่าที่ผมหาข้อมูลมา ที่นี่ค่าเช่าจะสูงกว่าเหล่าเพื่อนบ้าน ห้องแบบ Studio จะได้ค่าเช่าประมาณ 20,000-22,000บ./เดือน จะได้ยิลด์ประมาณ 4-5% หลังหักค่าใช้จ่าย 2 เดือนแล้ว ผลตอบแทนอยู่ในเกณฑ์ตามยุคสมัย อาจไม่มากเท่าไร แต่ก็จะได้เปรียบเรื่องความสดใหม่ ใสปิ๊ง ได้วิวนศ.มศว.ด้วยนะ เอ้ย ไม่ใช่ๆ 555 ได้เปรียบเรื่องความใหม่ ความทันสมัย และความปลอดภัยที่เยี่ยมกว่าจาก "Smart Living" และส่วนกลางที่เจ๋งกว่าด้วยนะ ทำให้ผมคาดว่า หาคนเช่าได้ไม่ยากแน่

 

        และเนื่องด้วยการที่มีปัจจัยพื้นฐานในการอยู่อาศัยที่ดี และ "ราคา" ในส่วนที่พักอาศัยของพี่สิงห์ใกล้ๆที่ไปหลัก 3 แสนบ./ตร.ม.แล้ว บวกกับความเจริญในอนาคตตรงมักกะสัน ผมเชื่อว่า "ราคา" ยังไปต่อได้นะ

 

        14. ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว ใครอยากได้ รีบไปที่โครงการได้เลย ตอนนี้มีจัดโปรโมชั่นด้วย 1 Bedroom ราคาเดียว 5.79 ล้านบ. ผ่อน 0 บาท 0% นาน 2 ปี ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน วันที่ 1-10 มี.ค. 2562 นี้เท่านั้น