เพิ่งเห็นข่าวไปแวบๆ ว่าช่วงนี้ตลาดคอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มกำลังพุ่งแรงมาก วันก่อนก็มีโอกาสได้ไป "ป๊ะกันแฮ๋ม" กับโครงการหนึ่งของทางอนันดาอย่าง "Ideo New Rama 9" มา มันน่าตื่นตาตื่นใจตรงที่หลายห้องถูกจับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว น่าจะเพราะว่าสาวรามของเราเค้า “แรง” พอตัว
1. Ideo New Rama 9 เป็นคอนโด High Rise สูง 24 ชั้น ผุดขึ้นมารับแสงตะวันแถวซอยรามคำแหง 7 รูปแบบเป็นตึกแนวกว้างที่เน้นความสงบไม่จอแจวุ่นวาย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความคึกคัก ตัวคอนโดติดถนนใหญ่ หาง่าย แต่ทำเลดีมั้ยก็ยังแอบครุ่นคิด เพราะมันค่อนข้างเงียบอยู่นะ!
เอางี้... พูดให้เห็นภาพคือ คนมีรถยนต์ส่วนตัวน่าจะชอบมากกว่าเพราะใกล้ทางด่วน แต่ใครต้องใช้ขนส่งสาธารณะคงต้องเผื่อเวลาไว้บ้างเพราะแม้จะใกล้ Airport Link แต่ก็ไม่ใกล้พอจะเดินไหว ยังไงก็ตามในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มแล้ว (ฮูเร่!) ไม่แน่อาจจะสะดวกขึ้นมาอีกนิดก็ได้ อันนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป
2. "วิวดีๆ" ในตัวโครงการก็มีเยอะอยู่นะ โดยเฉพาะส่วนกลางของ Ideo New Rama 9 ที่ถึงแม้จะเน้นไปที่ชั้นแรกชั้นเดียวแต่ก็มีจุดขายของเค้าอย่างสระว่ายน้ำ อันนี้ต้องชมว่าทำได้ดีจริงๆ รู้สึกว่าเหมือนจะเป็นโครงการแรกของทางอนันดาที่อาจหาญยกเอาสระว่ายน้ำมาไว้ด้านล่างแบบนี้ด้วย มันทำให้ตัวโครงการมีความรีสอร์ทเบาๆ ว่ามั้ย นี่ยังได้ยินมาเหมือนกันว่าบรรดาคนที่จับจองห้องของโครงการนี้จะเป็นพวกพ่อแม่ซื้อให้ลูก หรือคนที่ทำงานมาสัก 3-4 ปีทำนองนี้มาซื้อหากันเยอะ
วันที่ไปอากาศเป็นใจ ไม่มีแดดเลย ได้แช่น้ำเวลานั้นคงจะมีความสุขดี แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าวันอื่นๆ หรือเวลาที่พระอาทิตย์ตรงหัวนี่จะมีปัญหามั้ย แต่ตัวอาคารกับต้นไม้ที่ล้อมไว้น่าจะเข้ามาช่วยบังแดดให้ในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ยังเพิ่มความเป็น Jungle อีกนิดกับสะพานที่เชื่อมพื้นที่ส่วนกลางไปยังห้องฟิตเนสที่อยู่ชั้น 2 แอบมองขึ้นไปแล้วเห็นว่าทางอนันดากรุกระจกไว้ด้วย ถ้ามองลงมาก็จะเห็นวิวตรงส่วนของสระว่ายน้ำแบบเต็มตาไปอีกกก
3. มาพูดถึงตัวห้องกันดีกว่า ห้องในโครงการ Ideo New Rama 9 มีหลายแบบ แต่ชุด Hybrid Series นี่ขายหมดเกลี้ยงไปแล้วเรียบร้อย วันที่ไปดูเลยได้เห็นแค่ห้องเปล่า (แอบเสียดาย) โดยในตระกูล Hybrid เนี่ยเค้าจะแบ่ง Type ห้องออกไปอีก 2 แบบคือห้องขนาด 26 ตร.ม. ซึ่งจะมีชั้นลอยด้านบนขนาด 11 ตร.ม. ฟังก์ชั่นใช้งานจะเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะจ๊ะเอ๋กับเคาน์เตอร์ครัวด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านเป็นห้องน้ำพอดี
ในขณะที่ห้องที่สองจะกว้างขึ้นมานิดโดยมีพื้นที่ด้านล่าง 34 ตร.ม. ห้องนี้แตกต่างจากห้องแบบแรกตรงที่มีระเบียงให้และชั้นลอยด้านบนกว้างกว่ามาก ห้องแบบที่สองนี่ถ้าเอาเฟอร์นิเจอร์ใส่เข้าไปก็น่าจะยังมีพื้นที่เหลือให้ แต่ว่าทั้งสองห้องเหมือนกันตรงที่เค้าแถมสะบัดเลย ทั้งแอร์ แชนเดอเลีย ตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า ชุดครัว Build-in (แต่แชนเดอเลียสวยอ่ะ ฮ่าๆๆ)
4. มาต่อกันที่ห้องอีกหนึ่งแบบที่อนันดาดูเหมือนจะภูมิใจนำเสนอมากนั่นคือห้อง W-Series เป็นห้องแบบ 2 Bedroom 52 ตร.ม. ห้องนี้มันคือการเอาห้องเล็กสองห้องมา combine กันเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นนั่นแหละ ซึ่งส่วนตัวหลังจากที่ดูๆ มาหลายห้องก็รู้สึกว่าชอบห้องนี้ที่สุดแล้ว แต่ราคาแน่นอนว่าต้องสูงอยู่บ้างเพราะเริ่มต้น 5.3 ล้านคร้าบบ (ภายนอกยิ้มหวานแต่ในใจยิ้มแห้งแล้ววว)
แต่จุดเด่นของห้องที่เห็นๆ เลยคือการจัดครัวเก๋มาก เพราะเค้าเล่นรูปแบบของการทำเคาน์เตอร์ครัวเชื่อมติดกับโต๊ะทานข้าว เราดูแล้วก็รู้สึกว่าอืม...เข้าท่าดีเหมือนกัน ประหยัดพื้นที่ไปในตัว
ทีนี้... พอเปิดประตูเข้ามาก็เจอเคาน์เตอร์ครัว ข้างๆ เป็นห้องน้ำ ส่วนห้องนอนจะแยกกันคนละฝั่ง แบ่งเป็นห้องใหญ่กับห้องเล็ก ในส่วนของห้องเล็กนี่เราจะนอนเองหรือให้เด็กน้อยนอนก็ได้ไม่มีปัญหา เพราะแม้ขนาดจะเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับห้องนอนหลักอีกฝั่งหนึ่งแต่ห้องนี้ก็สามารถเอาเตียง 5 ฟุตใส่เข้าไปได้นะ เบาๆ หน่อยก็ 3 ฟุตครึ่ง สำหรับผู้ใหญ่นี่ถ้าไม่นอนดิ้นก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก
5. มาจบกันที่ห้องแบบสุดท้ายที่ได้เข้าไปดู เป็นห้องที่แยกออกเป็น 2 type อีกแล้ว นั่นคือแบบ Studio กับ 1 Bedroom สำหรับตัวห้อง Studio มีขนาดพื้นที่ 26 ตร.ม. ทุกอย่างเลยจะดูรวมๆ ปนๆ กันหน่อย
ถ้าเราเปิดประตูห้องเข้ามาก็จะเจอครัวและอีกฝั่งเป็นห้องน้ำเหมือนเดิม ตัวนี้เค้าจัดให้ห้องรับแขกอยู่รวมกับห้องนอน ซึ่งถ้าคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวอาจจะไม่ชอบรูปแบบการตกแต่งแบบนี้ก็ได้ แต่ถ้าต้องการประหยัดพื้นที่มันก็ดีในอีกแง่มุมหนึ่ง
ส่วน “วิว” ห้องนี้วิวดีจริงๆ แม้จะไม่เห็นฝั่งถนนแต่ในส่วนของโต๊ะทำงานเลือกเอากระจกบานใหญ่มาติดทำให้แสงแดดเข้าถึงได้ดี ด้านข้างก็เป็นระเบียง สองส่วนนี้ถ้ามองลงไปจะเห็นสระว่ายน้ำส่วนกลาง เวลานั่งทำงานเหนื่อยๆ น่าจะทำให้สบายตาสบายใจขึ้นเยอะ
ส่วนห้องแบบ 1 Bedroom จะมีขนาด 31 ตร.ม. ใหญ่ขึ้นมาอีกนิดทำให้จัดห้องเป็นสัดส่วนได้มากกว่า อย่างครัวก็จะแยกไปอีกส่วนหนึ่งเลย ในห้องครัวจะมีเคาน์เตอร์ครัวแยกกับโต๊ะทานข้าวอีกที
ในส่วนของด้านหลังที่เป็นระเบียงเราจะเห็นสะพานเชื่อมส่วนกลางแต่ไม่เห็นสระว่ายน้ำทั้งหมด อาจจะเห็นแค่อะไรแวบๆ สีฟ้าๆ มาทิ่มตาบ้างเท่านั้นแต่ไม่ได้เห็นเต็มตาอย่างห้องแรก พูดง่ายๆ คือได้อย่างเสียอย่างอ่ะเนอะ เพราะงั้นมันเลยจะเกิดอาการรักพี่เสียดายน้องไม่มากก็น้อย อิอิ
อ่านรีวิวชาวดอยจบแล้วใครสนใจอยากเข้าไปดูโปรโมชั่นต่างๆ กับรายละเอียดเพิ่มเติม
คลิกที่นี่ ได้เลยนะ ลองหาเวลาไปดูของจริงกับตาตัวเองอาจให้ความรู้สึกแตกต่างจากการอ่านรีวิวก็ได้