ช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปเยี่ยม Yelo House มา

 

        ที่นี่เป็นโกดังเก่าในซอยเกษมสันต์ 1 ที่ปรับเปลี่ยนจากโกดังขนาด 480 ตารางเมตรให้เป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะสำหรับคนที่ชื่นชอบการทิ้งเวลาไปกับงานอาร์ตแล้วให้ศิลปะปลอบประโลมเรา

 

        ...ฟังดูศิลปินจัง เขินแฮะ 5555 แต่เรื่องจริงก็คือเพิ่งเคยไปที่นี่เป็นครั้งแรกเพราะมี Exhibition ที่รู้สึกสนใจอยู่ แต่เอาเข้าจริงก็แอบเดินหลงเข้าไปผิดซอยเหมือนกัน (ต้องโทษ Google Map แล้วอ่ะงี้ จะว่าเราเป็นนักหลงทางตัวยงไม่ได้นะ 5555) เอาล่ะ! วันนี้เลยขอมารีวิวกันตั้งแต่ต้นทางเอาใจคนที่สนใจอยากไปแต่ไม่เคยไปมาก่อนก็แล้วกัน จะได้ไม่มีใครหลงเหมือนกันกับเราเนอะ

 

        เริ่มแรกเลยการเดินทางถือว่าสะดวกมาก ตัว Yelo House ตั้งอยู่ติดทางเดินข้างคลองแสนแสบ ใครถนัดนั่งเรือก็นั่งมาลงที่ท่าสะพานหัวช้างได้ หรือใครอยากได้สะดวกกว่านั้นก็แนะนำให้ขึ้น BTS มาลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติเหมือนเราแล้วเดินออกทางฝั่งหอศิลป์ฯ แต่ว่าเราจะไม่เข้าหอศิลป์ฯ นะ เราจะเดินลงมาแล้วขยับขาก้าวออกมาอีกนิด เงยหน้าเข้าไว้แล้วจะเห็นป้ายซอยเกษมสันต์ 1 พอเจอแล้วเราก็เลี้ยวเข้าไปในซอยนั้นแหละ

 

 

 

 

 

        ทางเดินจะเป็นซอยแคบๆ ตรงนี้อย่าเดินเพลิน ให้ระวังรถหลังด้วยนะจ๊ะเดี๋ยวจะพลาดท่าเกิดอุบัติเหตุไม่รู้ตัว

 

        เดินเข้าซอยประมาณ 2 นาทีก็ถึงแล้ว สังเกตุได้จากตัวโกดังสีดำ-เหลืองเด่นๆ เลย ด้านในไม่ถือว่ากว้างนะ แต่ส่วนตัวแค่การตกแต่งก็ดึงดูดเราได้แล้วอ่ะ รู้สึกว่าโครงสร้างหรือพื้นผิวของที่นี่ยังคงสภาพเดิมไว้คือเป็นแบบสไตล์ Loft ดิบๆ หน่อย เปิดประตูเข้ามาจะเห็นเลยว่าด้านล่างเป็นร้านขายงานอาร์ต งานคราฟ์ทั้งหลายเผื่อใครอยากซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับบ้าน

 

 

 

 

 

 

 

 

        ส่วนวันนี้ที่มามีจุดมุ่งหมายคือจะมาดู Exhibition ของคุณอร ทองไทย ที่ชื่อว่า AT HOME คร้าบบบบ

 

        สำหรับนิทรรศการนี้ตัวศิลปินตั้งคำถามให้เราคิดหาคำตอบไว้ว่า “เมื่อพูดถึงคำว่า ‘บ้าน’ คุณจะนึกถึงอะไร?” ซึ่งการถ่ายทอดผลงานของตัวศิลปินในครั้งนี้ต้องการที่จะสื่อสารถึง ‘บ้าน’ ในมุมมองของเค้านั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

  

        อย่างที่เห็น... ‘บ้าน’ ในมุมมองของอร ไม่ใช่แค่บ้านที่เป็นเพียงสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่หรือจำกัดเพียงแค่สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง แต่บ้านของอร (หรือกระทั่งของเราทุกคน) บางครั้งก็หมายความรวมถึงสถานที่ที่ได้ไปมา สิ่งของบางอย่างที่มีความทรงจำร่วมกับมัน ความคิดหรือความรู้สึกบางขณะที่อบอุ่นใจ หรือกระทั่งช่วงเวลาเพียงเสี้ยวเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจเหมือนได้อยู่บ้าน

 

        อย่างตัวของศิลปินเองเชื่อมโยงความรู้สึกเหล่านั้นผ่านเทคนิคที่หลากหลายจนเราเองก็บอกไม่ได้ว่ามุ่งเน้นไปที่รูปแบบใดกันแน่ เพราะเราเจอทั้งงาน painting, ceramics, installation, mixed media, และ neon แต่กิมมิคและดีเทลเล็กๆ ของมันกลับทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้ง่ายๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

        จากการเดินดูในพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เรารู้สึกได้ว่าเราสามารถเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับสิ่งที่ศิลปินต้องการจะสื่อได้ไม่ยาก เพราะถ้าให้พูดจริงๆ แล้วก็ต้องยอมรับว่าเราทุกคนมี “บ้านทางใจ” กันไม่น้อย พอได้มายืนดูนิทรรศการในครั้งนี้เลยทำให้เราหวนคิดถึงบางสิ่งบางอย่างหรือช่วงเวลาบางขณะที่ทำให้เราผ่อนคลายเหมือนกับอยู่บ้านเมื่อครั้งวันวานยังหวานอยู่ (อิอิ)

 

        ออกตัวนิดหนึ่งว่าตอนที่ไปมีเปิดแผ่นเสียงด้วย ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นแผ่นเสียง Soundtrack จากเรื่อง JUNO ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้แฮะแต่เพลงถูกจริตมากกกกก (เก็บเข้าลิสต์ไว้ดูช่วงวันหยุดยาวเลย) เข้ากับบรรยากาศของตัวนิทรรศการไปอีก ยืนอยู่โซนนั้นได้แบบไม่มีเบื่อ ไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแผ่นเสียงไปตามแต่ละวันหรือเล่นแผ่น JUNO ไปตลอดงานนะ ยังไงฝากทุกคนลองไปหาคำตอบแล้วมาบอกกันหน่อยละกัน

 

 

 

 

 

 

 

        ส่วนตัวรู้สึกประทับใจที่นี่และนิทรรศการนี้ แต่ตินิดหนึ่ง...ไม่ได้ติงานหรือสถานที่ แต่ขอติคนที่เข้ามาดูหน่อย คือพื้นที่แสดงงานศิลปะบางส่วนถึงแม้จะตั้งโซฟาไว้ให้เราไปนั่งได้แต่มันคือ “พื้นที่แสดงงานศิลปะของตัวศิลปิน” เด็กๆ อย่าไปนั่งแช่สิจ๊ะ คุณพี่เองเดินผ่านไปผ่านมาอยู่นานหวังจะเข้าไปชมงานตรงส่วนนั้นบ้างแต่เด็กๆ ไม่ลุกกันเลย เอาแต่นั่งเอนหลังเล่นมือถือกันแบบรากงอก ตรงจุดนี้เลยแอบเฟลนิดๆ เหมือนกัน สุดท้ายใช้สกิลมนุษย์ป้า ในเมื่อเธอไม่ลุกฉันก็จะทำเป็นไม่สนใจเธอ เดินเข้าไปชมงานโซนนั้นเองแบบไอดอนท์แคร์ค่ะ 555

 

        เอาเถอะ ดื่มด่ำพอให้คิดถึงบ้านกันแล้วใครอยากชมวิวคลองแสนแสบมโนตัวเองเป็นเรียมกำลังชะเง้อรอเจอขวัญก็สามารถเดินไปชั้นล่างได้ ทะลุไปด้านหลังของตัวโกดังจะมีพื้นที่เล็กๆ ให้ชมวิวตรงทางเดินเลียบคลองแสนแสบ หรือจะเข้าไปนั่งหาเครื่องดื่มดื่มไปชมวิวไปผ่านกระจกบานใหญ่ที่นี่ก็มีคาเฟ่เล็กๆ ชื่อ "Thirsty You" ให้เข้าไปนั่งด้วยเหมือนกัน

 

 

 

 

 

        อ้อ! สำหรับใครที่อยากจะไปทิ้งเวลาดื่มด่ำหาความเป็น ‘บ้าน’ ในแบบของตัวเองแล้วล่ะก็ สามารถไปเดินชมนิทรรศการ AT HOME ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 เมษายนนี้นะจ๊ะ

 

        เช็ควันเปิดปิดดีๆ แล้วไป Make yourself at home กันที่นี่ได้เล้ยยยย