การตกแต่งบ้านใครว่าแค่ซื้อของมาแล้ววางๆ ก็จบเรื่อง มันมีเทคนิคสำคัญอยู่ไม่น้อยเนอะว่ามั้ย สำหรับวันนี้ที่พี่หมีอยากพูดถึงก็คือการใช้ไอเท็มแต่งบ้านมาช่วย "ยกระดับ" ให้ห้องหรือบ้านของคุณดูหรู ดูแพง ดูมีคลาสได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ลงทุนเพิ่มไอเท็มทั้ง 7 ตัวนี้ลงไปเท่านั้น

 

        จะมีอะไรบ้างพี่หมีไม่อยากให้เสียเวลา อ่านจบจะได้ไปเลือกซื้อกันถูก เพราะงั้นเลื่อนลงไปอ่านกันได้เลยจ้า!

 

        1. พรม

 

 

        เปิดตัวกันด้วย Item Must Have ที่มีอยู่ในทุกบ้านหรูจริงๆ อย่าง "พรม" พรมเนี่ยแหละที่เป็นตัวเลือกแรกในการช่วยให้บ้านของเราดูดีมีสไตล์ขึ้นได้จริงๆ ซึ่งข้อดีของการปูพรมนั้นนอกจากจะช่วยเปลี่ยนห้องธรรมดาให้ดูหรูหรามีรสนิยมมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบ้าน เพิ่มสัมผัสความอ่อนนุ่มให้เท้า ป้องกันการลื่นล้ม แล้วพี่หมีเคยอ่านเจอมา รู้สึกว่าพรมปูพื้นยังช่วยดูดซับเสียงและรักษาอุณหภูมิของห้องแอร์ไม่ให้พี่แอร์ต้องทำงานหนัก ประหยัดค่าไฟไปอีกกก

 

        ที่สำคัญคือ พรมสะท้อนถึงรสนิยมเจ้าของบ้านได้ดีด้วยเช่นกัน เพราะงั้นการเลือกพรมให้เข้ากับธีมสีห้องก็สำคัญนะ อย่างพรมสีอ่อน จะทำให้ห้องดูกว้างสบายตา พรมโทนสีกลางๆ ก็จะเข้ากับเฟอร์นิเจอร์แทบจะทุกแบบทุกสไตล์ ไม่โดดเด่นแต่ก็ไม่น่าเบื่อ ส่วนพรมสีเข้มอาจทำให้ห้องมืดลงบ้าง แต่จะบอกว่าพรมสีเข้มนี่แหละที่เพิ่มความ Luxury ให้ห้องได้ดีที่สุดเลยล่ะ

 

        2. ผ้าม่าน

 

 

        มีพรมแล้วก็ต้องมีผ้าม่าน การเลือกผ้าม่านก็ช่วยปรับอารมณ์ให้ห้องได้ไม่น้อยนะจ๊ะทุกท่าน อย่างเช่น ผนังห้องเราเป็นสีเทา จะเลือกผ้าม่านสีเดียวกันก็ดูตลกไปหน่อย แต่ถ้าลองใช้ผ้าม่านสีน้ำเงินเข้มมาตัดกัน ก็จะทำให้ห้องของเราสะท้อนความเรียบหรูดูดี เคร่งขรึมประหนึ่งห้องของท่านชายมีเงินยังไงยังงั้นแน่ะ 5555

 

        ส่วนลักษณะของผ้าม่านก็มีให้เราเลือกย่อยลงไปอีก ซึ่งก็ต้องพิถีพิถันหน่อย อย่างผ้าม่านกรองแสงจะเป็นผ้าสีอ่อน น้ำหนักเบาเพื่อให้แสงผ่านตามลายผ้าเข้ามาได้ เวลามองเราก็จะรู้สึกสบายตา แต่ม่านประเภทนี้ก็เก็บฝุ่นได้ไม่ย่อยไปกว่ากันเลย ส่วนผ้าม่านกันแสงก็นั่นแหละ...คือจะมีความทึบแสงหน่อย น้ำหนักมากและทำความสะอาดลำบากอยู่นิด เพราะงั้นจะเลือกม่านประเภทไหนก็ดูจากความต้องการของตัวเองเป็นหลักได้เลยนะ

 

        3. โคมไฟ

 

 

        โคมไฟนี่ไม่ใช่ว่าจะเอามาเป็นพร็อพให้ห้องสวยงามเฉยๆ นะ เพราะแสงจากโคมไฟก็เป็นตัวกำหนดทิศทางการจัดแสงของทั้งบ้านได้เลยเหมือนกัน ใครอยากให้ห้องดูแพงไปเลยแน่นอนว่าต้องเลือกแชนเดอเลีย แต่หากอยากเสริมให้มีความโมเดิร์นแฝงอยู่เล็กน้อยในรายละเอียด ก็ใช้โคมไฟแบบติดผนังหรือติดเพดานก็ได้เหมือนกันจ้า

 

        ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะเลือกโคมไฟมาเป็นทัพเสริมของเราเนี่ย เราก็ต้องพิจารณาขนาดของห้องกับพวกเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในห้องด้วยว่าอยากให้อะไรเป็นจุดเด่น แล้วเลือกใช้โคมไฟที่จะสนับสนุนจุดเด่นที่ว่าเข้าไป แค่นี้ก็ทำให้ห้องดูมีดีเทลไม่ได้ดูหรูหราแบบกลวงๆ แล้วล่ะ เชื่อพี่หมีสิ!

 

        4. แจกัน

 

 

        แจกันนี่ถือเป็นไอเท็มลับที่หลายๆ คนอาจไม่ใส่ใจ แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้าแจกันนี่แหละที่เป็นพลทหารน้อยกู้ห้องของเราได้เลย เรามีโคมไฟแล้ว มีแสงจากโคมไฟมาช่วยแล้ว ดังนั้นวัตถุที่จะช่วยเสริมให้ห้องเรามีความระยิบระยับมากขึ้นก็คือแจกันนี่แหละ โดยเฉพาะแจกันที่มีความแวววาว มีความเมทัลลิกจะยิ่งขับกันได้ดีเลย

 

        การใส่ดอกไม้ไปในแจกันก็ถือเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่ทำให้ห้องเราดู Luxury นะ รู้หรือเปล่าว่าโทนสีของดอกไม้ที่เราใช้ หรือกระทั่งสีและรูปทรงของแจกันนี่ก็เป็นดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่จะสื่ออารมณ์ของห้องได้เป็นอย่างดี เพราะงั้นแต่งห้องครั้งหน้าอย่ามองข้ามไอเท็มลับที่ว่านี้นะทุกคน

 

        5. กระจก

 

 

        พี่หมียกให้กระจกเป็นอีกหนึ่งไอเท็มลับที่คนไม่ค่อยใส่ใจว่ามันมีความสำคัญในการทำให้ห้องดูแพงขึ้นแล้วกัน กระจกเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้ห้องขนาดเท่าแมวดิ้นตายของเรากว้างขวางขึ้นและมีมิติขึ้น ที่สำคัญกว่านั้นคือเราติดตั้งกระจกตรงไหน พื้นที่ตรงนั้นก็จะน่ามองและดูเรียบหรูโมเดิร์นขึ้นทันที

 

        แต่ว่าจะตกแต่งห้องด้วยกระจกยังไงดีล่ะ? พี่หมีขอแนะนำหลักๆ เลยแล้วกันคือเลือกติดกระจกเงาบานใหญ่ไว้บนผนังเลยก็ได้ ตรงนี้นอกจากจะทำให้ห้องโอ่อ่าขึ้นแล้วยังตอบโจทย์ห้องที่มีพื้นที่จำกัดอีกด้วย หรืออีกไอเดียที่น่าสนใจพอกันคือการแบ่งพื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องด้วยกระจกนี่แหละ ปกติเราใช้วัสดุทึบแสงอย่างพวกผนังไม้ ผนังคอนกรีตทั้งหลายมาใช้กั้นห้องใช่มั้ยล่ะ แต่ลองเปลี่ยนมาเป็นการใช้ประจกดูก็เก๋ไม่แพ้กัน อ้อ! แต่ตรงนี้ควรเลือกกระจกที่มีความแข็งแรงทนทานด้วยนะ มีปัญหาขึ้นมาจะได้ไม่ลำบาก

 

        6. งานอาร์ตในกรอบรูป

 

 

        พี่หมีชอบการยกระดับห้องให้หรูหราขึ้นด้วยการใช้กรอบรูปมากๆ ลองคิดดูว่าหากผนังบ้านเราเป็นผนังโล่งๆ ไม่มีอะไรเลยมันก็ดูน่าเบื่อไปใช่มั้ยล่ะ แทนที่จะปล่อยไว้แบบนั้นไม่สู้หางานศิลปะดีๆ หรือกรอบรูปสวยๆ สักอันมาอัพเกรดห้องของเรา ต่อให้เป็นห้องแนวโมเดิร์นหรือเน้นงานเรียบๆ แต่หากเสริมงานอาร์ตในกรอบรูปเข้าไปรับรองว่ามันจะทำให้ห้องดูมีคลาสขึ้นมาไม่น้อยจริงๆ

 

        การเลือกภาพให้เข้ากับ Mood & Tone ของห้องก็สำคัญ เราอาจจะเลือกภาพแนว Abstract หรือผลงานศิลปะจากศิลปินขึ้นชื่อสักคนมาใส่กรอบก็ได้ แล้วเลือกสีผนังหรือวอลเปเปอร์ที่จะช่วยขับกัน แค่นี้ห้องของเราก็ดูมีรสนิยมไม่ดูน่าเบื่อแล้ว

 

        7. ต้นไม้

 

 

        ยุคนี้สมัยนี้มันต้องมีความกรีนๆ หน่อยแล้วปะ? ไม่ว่าห้องจะกว้างหรือแคบ แต่แซมต้นไม้ไปสักนิดก็ทำให้ห้องดูสบายตาแถมยังทำให้สดชื่นผ่อนคลายขึ้นไม่น้อยจริงๆ โดยเฉพาะตอนนี้เราเริ่มนิยมหาต้นไม้กระถางเล็กๆ มาประดับบ้านหรือคอนโดฯ เราด้วยแล้ว คุณเองก็จะพลาดไม่ได้เหมือนกันนะ

 

        ต้นไม้ที่พี่หมีแนะนำอยากให้เป็นต้นไม้เล็กๆ ไม่ใหญ่มาก พลูด่างหรือลิ้นมังกรเนี่ยเป็นไม้ประดับยอดนิยมสำหรับนำมาวางในห้องมากที่สุดเลย หรือใครอยากได้ไอเท็มความกรีนมาช่วยกรองแสงก็เลือกปลูกต้นเคราฤาษีที่ริมระเบียงไว้ก็ได้ ต้นไม้ชนิดนี้ไม่ต้องการพื้นที่ ไม่สนกระถาง แค่แขวนเค้าไว้ในตำแหน่งที่ต้องการแล้วรดน้ำให้เป็นประจำก็อยู่ได้แล้ว

 

        ไอเท็มสำคัญที่จะยกระดับให้ห้องเราหรูหรามีคลาสมากขึ้น หลักๆ พี่หมีก็แนะนำกันประมาณนี้เนอะ สำคัญที่สุดที่พี่อยากบอกส่งท้ายคือ การจะเลือกไอเท็มสักอย่างมาตกแต่งห้อง ต้องดู Mood & Tone ของห้อง เยอะไปก็จะรกตา น้อยไปแต่ก็ต้องใส่ดีเทลด้วย แต่งห้องไม่ยากแต่ต้องพิถีพิถันกันหน่อย วันนี้ลากันตรงนี้ คราวหน้าไว้เจอกันใหม่เมื่อห้องของคุณต้องการเรา บ๊ายบายจ้าาา