ปลายปี 2560 มีข่าวใหญ่เรื่องการเสนอขาย "สถานฑูตออสเตรเลีย" บนที่ดินทำเลเทพ ติดถนนสาทร ห่าง MRT ลุมพินี ไม่กี่ร้อยเมตร ท่ามกลางคู่แข่งมากมาย ในที่สุด "ศุภาลัย" หรือ "โกวศุ" ของผมก็เข้าวิน คว้าชิ้นปลามันมาครองได้สำเร็จ (อ่านเรื่องวันสุดท้ายของสถานฑูตจิงโจ้ได้ตามนี้เลย
"เมื่อป้าศุพาไปดูจิงโจ้" ) และกลางปี 2562 นี้ ก็ได้ฤกษ์เผยโฉมของโครงการที่จะมาเปลี่ยนโฉมสถานฑูตอันเป็นตำนานให้กลายมาเป็นโครงการระดับ "Icon" ของกรุงเทพมหานคร
"คุณประทีป ตั้งมติธรรม" กล่าวว่า "ศุภาลัย แปลว่า ที่อยู่อาศัยที่ดี" แต่ "Supalai Icon Sathorn" คือที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดที่ "ศุภาลัย" เคยสร้างมา โครงการนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ตามมา ผมจะเล่าให้ฟัง
1. ปลายปี 2560 ตอนที่ "สถานฑูตออสเตรเลีย" ประกาศขายที่ดิน ระยะเวลาค่อนข้างกระชั้น เพราะทางสถานฑูตต้องการโอนก่อนสิ้นปี ซึ่งปัญหาก็คือเงินสดจำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ในเวลาเร่งด่วน สุดท้ายแล้ว "ศุภาลัย" ที่มีความพร้อมทางด้านการเงินก็ชนะประมูลที่ดินตรงนี้ไป ซึ่งในอีกทางนึงก็แสดงถึงศักยภาพในทางธุรกิจของบริษัทอีกด้วย
2. หากยังนึกกันไม่ออก ทำเลของ
"Supalai Icon Sathorn" ตั้งอยู่ต้นถนนสาทรฝั่งซอยเลขคี่ คือมาจากถนนวิทยุตรงขึ้นมาผ่าน
MRT ลุมพินี (ประมาณ 800 เมตร) ตรงมาเรื่อยๆ ผ่าน "โรงแรมบันยันทรี" นิดเดียวก็เจอเลย เอา
MAP ไป
3. "Supalai Icon Sathorn" เป็นคอนโดมิเนียม 56 ชั้น จำนวน 787 ยูนิต โดยมีแบบห้องและขนาดตามนี้เลย
- แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 42 – 61 ตร.ม.
- แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 65- 98 ตร.ม.
- แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 100.5-343 ตร.ม.
- แบบ 4 ห้องนอน ขนาด 206.5-350 ตร.ม.
- แบบ PENT HOUSE ขนาด 970 ตร.ม.
4. นอกจาก "คอนโดมิเนียม" แล้ว ในโครงการยังประกอบไปด้วย "ออฟฟิศ" และ "ร้านค้า" ด้วย (สามารถเรียกว่า "Mix Used" ได้เลยนะ) ซึ่งถือเป็นข้อดีกับคอนโดนะ โดยเฉพาะร้านค้าที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี
5. เรื่องทำเลของโครงการว่าใกล้กับอะไรบ้างคงไม่ต้องพูดถึงหรอก "สาทรก็คือสาทร" ทำเลเทพอยู่แล้ว แต่ที่ผมชอบก็คือ ถนนสาทรฝั่งที่ "Supalai Icon Sathorn" ตั้งอยู่เป็นฝั่งที่ "รถไม่ติด (หรือติดน้อยที่สุด)" ละ นึกภาพตาม "ถนนสาทรฝั่งคี่" ช่วงก่อนถึง "สี่แยกนราธิวาส" รถจะ "โฟลว์" มาก แล้วค่อยไปติดตอนที่เลยสี่แยกไป ขณะที่ "ฝั่งคู่" มุ่งหน้า "ถนนวิทยุ" ไม่ต้องพูดถึง หนึบเกือบตลอดเวลา ที่สำคัญฝั่งเลขคี่ยังสามารถทะลุทะลวงไปออก "ถนนพระรามสี่" หรือมีเส้นทางลัดเลาะมากมายเลย .... สรุปคือ การจราจรเป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยมาก
6. มาที่ตัวโครงการกันบ้าง เรื่องการวางผังโครงการ ผมเคย Post ลงไปแล้วว่ามีการคำนึงถึงตึกเก่ารอบข้างด้วยนะ โดยวางตึกให้ไม่บัง (หรือบังไม่มาก) และมีการเอาส่วนกลางของโครงการมาเป็นวิวให้กับตึกรอบข้างด้วย โดยเส้นสาย ลวดลาย ของอาคารได้แรงบันดาลใจมากจาก "ประเทศออสเตรเลีย" (เคารพสถานที่เดิม สถานฑูตออสเตรเลีย - มีจิงโจ้ด้วยนะเออ)
7. ที่บอกว่านี่เป็นโครงการที่ดีที่สุดของ "โกวศุ" ไม่ใช่เรื่องเกินเลย เพราะมีการใช้บริการของตัว Top มาช่วยในการออกแบบโครงการหลายเจ้าเลย
- Lanscape ใช้บริการบริษัทชื่อดังอย่าง "Beaumont"
- Interior ใช้ของบริษัท "DWP Cityspace" เป็นบริษัทที่มีสาขาอยู่ในประเทศออสเตรเลีย มีความเชี่ยวชาญในความเป็นจิงโจ้แน่นอน
- มีการใช้บริษัท "lightbox" ที่เชี่ยวชาญการออกแบบแสงไฟ มาออกแบบแสงไฟให้กับโครงการโดยเฉพาะเลยนะ ตอนกลางคืน ผ่านไปผ่านมา สวยแน่นอน
- กระจกอาคารใช้แบบ "Double Glaazing" คือ เป็นกระจก 2 ชั้นประกบกันโดยมีช่องอากาศอยู่ข้างใน ช่วยเรื่องกันความร้อนเป็นอย่างดี! (เหมาะกับตอนนี้เลย!!!)
- เรื่อง Home Automation ไม่ต้องห่วง ที่นี่ใช้บริการของ "Schneider Home Automation" เจ้าดังจากเยอรมัน
- สุขภัณฑ์จาก Kohler The intelligent toilet ตัว Top (ที่มีโฆษณาออกมาเป็นครอบครัวหุ่นยนต์เข้าห้องน้ำกันน่ะ) ที่สำคัญมีให้ทุกยูนิต ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
8. ส่วนกลางอยู่ชั้น 11 นะครับ ลองอ่านกันดูก่อนว่ามีอะไรบ้าง เริ่ม! Maldives Swimming Pool (2 สระ), Jacuzzi, Pool Deck, Double Space Fine Fitness, Table Tennis Space, Flying Yoga, Yoga & Aerobic, Boxing Kangaroo, Group Cycling, Milky wat Theatre & Karaoke, Aqua Hydrotherapy, Suana & Steam, Wisdom Library & Co-Living Space, Kid's Club, Playground, Mini Climbling Simulation และ Opal Sky Lounge ........... โอ้ย เยอะ! แถมมีของแปลกๆ หลายอย่าง เช่น "Boxing Kangaroo" ต่อยมวยแบบจิงโจ้!!!
9. ตอนนี้ Sale Gallery โครงการพร้อมแล้วนะ อยู่ที่ไซต์โครงการเลย โดยมีห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน 45 ตร.ม. และ 3 ห้องนอน 115 ตร.ม. (มีรูปให้ดู สวยเชีย)
10. "โกวศุ" เค้าจะ
PRESALES วันที่ 25 - 26 พฤษภาคม 2562 นี้นะจ๊ะ ใครสนใจมากด
ลงทะเบียน กันก่อนได้เลย เพราะโกวเค้าฝากมาบอกว่า Sale เค้าจะต้อนรับผู้สนใจแบบ Exclusive หน่อย ดังนั้นถ้าดุ่มๆ เดินเข้ามาเอง อาจจะบริการได้ไม่เต็มที่นะ (ลงทะเบียนไปก่อนเท้อะ ไม่เสียหายอะไร)
11. อ้าว! เล่ามาถึงตอนขายของ ยังไม่บอกราคาเล้ยยยย อิอิ ราคาเริ่มต้นคือ 8.2 ล้านบาท (กับห้องขนาด 40 กว่าตร.ม. ราคาไม่แรงอย่างที่คิดนะ) เห็นว่ามีแสนปลายๆ ต่อตารางเมตรด้วยนะ แต่จะเป็นห้องใหญ่หน่อย แถมน่าจะมีส่วนลดช่วงพรีเซลอีกด้วย (ไปต่อรอง Sale กันเองเน้อ) เฉลี่ยทั้งโครงการน่าจะ 2 แสนต้นๆ ต่อตร.ม. (ห้อง Penthouse ชั้นบนสุด ที่แพงที่สุดแค่ 26x,xxx ต่อตร.ม. เอง ผมว่าไม่แรงไปนะ)
ซึ่งสำหรับโครงการที่ทำเลติดถนนสาทรและจะเสร็จในอีก 5 ปีข้างหน้าแบบนี้ ผมว่าไม่แพงและราคามีโอกาสไปต่อได้อีกแน่นอน
#PRSpecial #SupalaiIconSathorn
#ศุภาลัยไอคอนสาทร #คอนโดติดดอย
แบบ 3 ห้องนอน 115 ตร.ม.
Perspective Supalai Icon Sathorn