ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าบ้านนี้เมืองนี้มีมนุษย์คอนโดแฝงตัวอยู่เยอะจริงๆ แล้วช่วงนี้สายกรีนกำลังมาแรง จะเห็นได้ว่าการปลูกต้นไม้ถือเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่น่าสนใจของปีนี้เลยแหละ แต่ว่าพระเจ้าช่วยกล้วยผ่าซีก ไอ้ห้องของเราที่มีอยู่ขนาดมันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย อยากจะปลูกต้นไม้ให้สบายตาเลยต้องคิดแล้วคิดอีกไม่น้อย

 

        แต่วันนี้พี่หมีสายกรีนจะมาเอาใจคนสไตล์เดียวกัน ขอเปิดคัมภีร์แนะนำกันอย่างจริงจังและจริงใจ เพราะการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ห้องที่มีจำกัดเนี่ยมันไม่ได้ยากเย็นอย่างที่คิดเลย มาๆ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

 

        1. เริ่มต้นกันที่กระถาง

 

        ถ้าห้องของเรามีขนาดไม่ใหญ่อยู่แล้ว การยัดเยียดกระถางที่ยังมีขนาดโอ่อ่าเข้าไปอีกก็ยิ่งทำให้ห้องเราแคบยิ่งขึ้นใช่มั้ยล่ะ เพราะงั้นจุดเริ่มต้นของเราควรจะเป็นกระถางต้นไม้ที่เราต้องพิถีพิถันเลือกกันหน่อย

 

 

        พี่หมีสายกรีนอยากจะบอกว่าตอนนี้งานเซรามิกทั้งหลายกำลังปังมากๆ วันไหนว่างๆ ลองไปเดินดูแถวจตุจักรก็ได้ ราคาไม่แพงแถมยังดีไซน์สวยอีกต่างหาก หรือใครไม่ชอบงานเซรามิกก็หากระถางดำธรรมดาๆ มาเลยก็ได้ แบบไหนก็สวยเหมือนกันขอแค่เราผู้เป็นเจ้าของอาณาจักรเล็กๆ แห่งนี้สบายใจ แต่จำไว้ว่าให้เลือกขนาดที่กะทัดรัดหน่อย เพราะนอกจากจะประหยัดพื้นที่แล้วยังเคลื่อนย้ายสะดวกอีกด้วยจ้า

 

        2. ถึงเวลาเสาะหาต้นไม้

 

        ได้กระถางแล้วก็ต้องเริ่มมองหาต้นไม้ ตรงนี้ก็ไม่ต่างกันกับการมองหากระถางนั่นแหละ คุณๆ ทั้งหลายอย่าได้เลือกต้นไม้ที่มันโตเร็วและกินพื้นที่มาเด็ดขาด ไม่งั้นห้องจะดูอึดอัดคับแคบขึ้นไปอีกเยอะเชียว เฮ้อ...แล้วเราควรหาต้นไม้อะไรมาประดับห้องน้อยกลอยใจของเราดีล่ะ อิอิ ตรงนี้ไม่ยาก พี่หมีสายกรีนมีคำแนะนำมาให้แว้วววว

 

 

        ต้นไม้ที่เราจะปลูกในคอนโดของเราควรเป็นต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่เลี้ยงดูไม่ยากและที่สำคัญคือไม่มีการเจริญเติบโตพรวดๆ แบบป๊อบอายกินผักโขม แล้วก็ควรเลือกต้นไม้ที่อยู่อาศัยในที่ร่มหรือที่ที่มีแสงแดดรำไรวิบวิบระยิบระยับได้ เพื่อนๆ อาจจะบ่นว่าโอ้โห แนะนำยากไปเปล่าเพ่ ไม่เลยๆ เลือกเป็นพวก พลูด่าง ลิ้นมังกร แคคตัส เคราฤาษี หัวใจแนบ แอฟริกันไวโอเลต ฯลฯ หรือจะเลือกปลูกผักสวนครัวไว้กินเองเล็กๆ น้อยๆ ยังได้เลยนะ เลือกปลูกพวกสะระแหน่ โรสแมรี่ หรือพวกผักชีทั้งหลายพี่หมีว่าก็เข้าท่า เพราะนอกจากจะสบายตาแล้วยังกินได้มีประโยชน์อีกต่างหาก

 

        3. จัดวางยังไงให้เซฟพื้นที่?

 

        ตรงนี้น่าสนใจมากว่าเราจะจัดวางต้นไม้น้อยๆ ของเรายังไงให้ประหยัดพื้นที่ห้องของเรา ห้องคุณผนังว่างหรือเปล่า? ถ้าว่างแล้วก็จัดการแขวนต้นไม้ไปเล้ย! ไอ้การแขวนในที่นี้ทำได้ง่ายมากๆ ลองไปหาซื้อตะแกรงแขวนผนังมาสิ แล้วจัดการแขวนกระถางไว้ติดผนังเลย (ระวังน้ำหนักของกระถางด้วยนะ เตือนแล้ว! 5555) จะแขวนแบบกระถางเดี่ยวหรือจะจัดวางตามไอเดียเราแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น

 

 

        ใครไม่อยากแขวนแต่มีพื้นที่อยู่มุมห้อง ลองหาบันไดวางต้นไม้หรือซื้อชั้นวางของเก๋ๆ มาเพิ่มสักชิ้นแล้ววางกระถางต้นไม้ตกแต่งเข้าไปเลยก็สวยอีกเหมือนกัน แต่ถ้าไม่อยากซื้อตู้เพิ่มลองดูว่าในห้องมีตู้อะไรที่มีพื้นที่เหลือ ถ้ามีชั้นหนังสือก็วางแทรกเข้าไปสักกระถาง แค่นี้ห้องของเราก็ดูมีดีเทลเพิ่มแล้ว เห็นมะ ง่ายมั่กๆ!

 

        4. จัดต้นไม้ไว้ตรงไหนห้องถึงจะดูมีสไตล์มากขึ้น?

 

        เมื่อกี้บอกไปแล้วเนอะว่าถ้ามีชั้นว่างก็แทรกต้นไม้เข้าไปได้ แต่ก็นั่นแหละ บางคนไม่ได้อยากวางไว้ตรงนั้น แต่ว่าเราจะวางไว้ตรงไหนได้อีกล่ะ ที่ห้องมีโต๊ะทำงานมั้ย? โต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆ ก็ได้ ถ้ายังพอมีพื้นที่ส่วนนั้นทำไมไม่ลองเอาต้นไม้ไปประดับดูล่ะ อาจจะเป็นแคคตัสสักต้นพอให้กระชุ่มกระชวยหัวใจก็ดีเหมือนกัน

 

 

        ถ้าไม่วางต้นไม้ในส่วนของพื้นที่รับแขก ลองวางไว้ที่ห้องนอนก็เหมาะ แต่ถ้าห้องใครมีพื้นที่ส่วนที่เป็นระเบียงกว้างหน่อย พี่หมีสายกรีนอยากแนะนำให้ลองแขวนต้นไม้ที่ระเบียงดู เลือกเป็นพวกไม้เลื้อยก็เข้าท่าดีไม่หยอก อ้อ! แล้วพี่หมีเห็นชาวตะวันตกเค้านิยมเอาต้นไม้ไปประดับในห้องน้ำเหมือนกันนะ ตรงนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยแฮะ แต่ว่าระวังอย่าให้รกและอย่าให้ต้นไม้เราไประรานสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเชียว

 

        5. ขั้นตอนสุดท้าย...การดูแลน้องๆ

 

        น้องๆ ต้นไม้ถูกจัดวางเข้าที่เข้าทางแล้วก็อย่าลืมใส่ใจและให้ความดูแลน้องๆ ด้วย ถึงเราจะเลือกต้นไม้ที่ทนทายาดและไม่จำเป็นต้องได้รับความใส่ใจมากนักก็ตาม แต่ต้นไม้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้องการน้ำต้องการแสงแดด

 

 

        ซึ่งน้องๆ แต่ละต้นก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน บางต้นไม่ได้รับแสงแดดที่เพียงพอก็อาจจะแกร็นไปหน่อย บางต้นได้รับมากไปก็อาจจะใบเหลือง ยังไงคอยสังเกตพวกเค้าแล้วขยับเปลี่ยนตำแหน่งให้เหมาะสม ส่วนเรื่องการให้น้ำนั้นก็ให้วันละหนึ่งครั้งก็ได้ แต่ถ้าอากาศร้อนอบอ้าวก็เพิ่มการให้น้ำขึ้นมาอีกเป็นวันละสองครั้ง นานๆ ทีก็อย่าลืมสเปรย์น้ำในอากาศด้วยล่ะ น้องๆ จะได้ชุ่มฉ่ำชุ่มชื่น~

 

        เห็นมั้ยว่าเอาจริงๆ แล้วการลงมือปลูกต้นไม่ในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดนั้นก็ไม่ได้ยากเสียทีเดียว อยู่คอนโดไม่ได้แปลว่าจะเป็นสายกรีนรักษ์ธรรมชาติไม่ได้ ยังไงวันนี้พี่หมีขอตัวลาไปก่อน มีต้นไม้ที่ต้องไปเล็มกิ่ง เอาไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้านะคร้าบบบบ