เมื่อไม่กี่วันก่อน มีโอกาสแวะเวียนเข้าไปที่โครงการ "Life Asoke - Rama9"
เป็นโครงการที่ใครหลายคน น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วเนอะ บางคนอาจถึงขั้นสนิทมาก เพราะเหมาทั้งชั้นไป อิอิ
พอดีเห็นโครงการมีออกโปรโมชั่นใหม่ ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้
ประกอบกับ เฮ้ย ผมเองก็ยังไม่เคยทำรีวิวที่นี่เลย!!! พลาดไปได้ไงนิ 555
เลยถือโอกาส เอามาพิมพ์แนะนำกันซะเลย เผื่อจะมีใครตกหล่นเหมือนผมบ้าง แฮร่
1. ถึงแม้จะเป็นโครงการที่เปิดขายตั้งแต่ปลายปี 2017 แต่เผื่อหลายคนอาจยังไม่ทราบข้อมูล หรืออาจจะหลงเลือนไปตามกาลเวลา (แก่แล้ว ว่างั้น 555) เพราะฉะนั้น เรามาเริ่มกันที่ข้อมูลโครงการกันก่อนเลย
2. "Life Asoke - Rama9" เป็นคอนโด High rise 2 ตึก ตึก A สูง 42 ชั้น 1,298 ยูนิต และ ตึก B สูง 46 ชั้น 950 ยูนิต+2 ช้อป ห้องจะมีขนาดดังนี้ Studio ขนาด 25-27.5 ตร.ม. , 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม. , 1 Bedroom plus ขนาด 35-40 ตร.ม. และ 2 Bedrooms ขนาด 45-58 ตร.ม. บนขนาดที่ดิน 8-3-11.4 ไร่ มาพร้อมที่จอดรถประมาณ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
"Life Asoke - Rama9" พัฒนาโดย "พี่แอฟ (AP)" ซึ่งต้องบอกว่า โซนนี้พี่เขาคุม เท่าที่นึกๆได้ ไม่ต่ำกว่า 5 โครงการเข้าไปแล้ว
3 . การเดินทางสำหรับคนใช้รถ โครงการสามารถเข้าออกรถยนต์ได้ 2 ทางคือ ถ.จตุรทิศ และถ.อโศก-ดินแดง ใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัชไม่กี่ร้อยม. ลงจากทางด่วนมา เลี้ยวไปเข้าโครงการที่เส้นถ.อโศก-ดินแดงได้เลย
4. มาถึงการสัญจรหลักของคนกทม. พ.ศ.นี้ ที่ "ขาดเธอ ก็เหมือนขาดใจ อยู่ไกล ใจก็ถวิลหา" รถไฟฟ้านั่นเอง อิอิ
โดยรถไฟฟ้าสถานีที่เราไปเยือนบ่อยที่สุดก็คือ สถานีพระราม 9 ซึ่งห่างจากตัวโครงการราว 300 ม.เอง นอกจากนั้น โครงการยังห่าง Airport Rail Link สถานีมักกะสัน ประมาณ 500 ม. อีกด้วยน้า ซึ่งจะ Interchange กับ MRT สถานีเพชรบุรีด้วย เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ สะดวกกีบเลยทีนี้ 555
5. ที่ Sales Gallery มีห้องตัวอย่างแค่แบบ 1 Bedroom เท่านั้น หลายคนถามผมว่า "งบหมดเหรอ" 555 ไม่ใช่นะ คืองี้เดิมทีตอนช่วงเปิดขาย Pre sale มีหลายแบบกว่านี้นะ แต่ด้วยความที่โครงการขายดีมาก จนแทบจะเหลือแค่ห้องแบบ 1 Bedroom ที่ถ้านับกีบ (นิ้ว) ไม่ผิด จะเป็นแบบห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการนะ เขาเลยทำการยุบห้องแบบอื่น และแบ่งปันพื้นที่กับโครงการน้องร่วมสายเลือดอย่าง "Life Asoke Hype" ที่แทบคลานตามกันมาแทน เข้าใจตรงกันนะ ไม่ใช่งบหมดนา อิอิ
เพราะฉะนั้น ใครเข้าไปที่ Sales Gallery สอบถามน้องเซลล์ดูก่อนก็ดีครับว่า เป็นห้องของโครงการไหน กันพลาดๆ
6. เรื่องการออกแบบแปลนห้อง นับเป็นจุดเด่นหนึ่งของ "พี่แอฟ" อยู่แล้ว ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเสมอ เช่น การทำห้องแบบ Interlock ที่มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนกับห้องที่ติดกัน เพื่อประโยชน์ใช้สอยที่ไม่ให้เสียเปล่า เป็นต้น ในโครงการนี้ ก็มีห้องแบบ Interlock เช่นกัน คือห้องแบบ Studio ขนาด 27.5 ตร.ม.และแบบ 1 Bedroom plus ขนาด 35.5 ตร.ม. แต่...!! อย่างทีบอกในข้อ 5 ไม่มีให้ดูแล้วนะ 555 (แต่ก็พอดูห้องจากโครงการ "Life Asoke Hype" ที่อยู่ใน Sales Gallery เดียวกันได้ Lay out ใกล้เคียงอยู่)
7. มาที่ห้องแบบ 1 Bedroom ที่ยังอยู่ในสายตาเราดีกว่า ถึงแม้ห้องนี้จะไม่ได้ออกแบบมาเป็นเด็กแนวอย่าง Interlock แต่ถ้าตามฮวงจุ้ย ห้องที่เป็นสี่เหลี่ยมเป๊ะๆ จะดีที่สุดนะ อิอิ เอาจริงๆก็คือ มันแต่งห้องง่ายด้วยแหละครับ มีเหลี่ยมมุมไม่เยอะ ดูแลง่าย
หลังจากพ้นประตูห้องมา เราจะปะกับโซน Living room ผมชอบตรงมีระยะระหว่างโซฟากับทีวีอยู่พอควร นานไป สายตาจะได้สดใหม่ ไม่เสีย ทางด้านขวามือเป็นห้องน้ำ หากมีแขกมาเยือนแล้วต้องการปลดทุกข์ ก็ไม่ต้องเดินเข้าห้องเราก่อน เหมือนห้องที่มีประตูห้องน้ำอยู่ในห้องนอน อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเด้อ
ถัดเข้ามาทางซ้าย เป็นห้องครัวแบบปิด (มีการกั้นประตูชัดเจน) หมดกังวลเรื่องกลิ่น ถึงขนาดจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็พอทำอาหารหนักได้นะ ทางโครงการออกแบบให้มีโต๊ะทานอาหารไว้ด้วย แต่เอาเข้าจริง ถ้าเป็นผม คงเอาไปนั่งโซ้ยที่ห้องนั่งเล่น พลางดู Netflix สบายใจเฉิบมากกว่า 555 เพราะฉะนั้นดัดแปลงตรงนี้เป็นที่เก็บของ ก็อาจจะเข้าทีนะ อ๋อ เกือบลืม ตรงห้องครัวจะสามารถออกไประเบียงได้นะ และสุดท้ายคือห้องนอน จะมีตู้เสื้อผ้าอยู่ในห้องด้วย ห้องนอนมีขนาดพอตัว วางเตียง King size ได้ ไม่ลำบากจ้า
8. ด้วยความที่โครงการมีจำนวนยูนิตอยู่พอตัว ส่วนกลางจึงเข้าขั้นมโหฬาร พื้นที่สีเขียวรวมกว่า 4 ไร่ , Rooftop Facility ส่วนกลางบนดาดฟ้า กว้างด้วยพื้นที่ประมาณ 2,400 ตร.ม. , Co-working area 1,000 ตร.ม. , สระว่ายน้ำ มีถึง 3 สระ พ่วงด้วย 2 ฟิตเนส , จุดชมวิวอื้อ และยังมีที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกเพียบเลย พิมพ์ไม่ไหว 555 แค่นี้พอนะ ไปหาอ่านเพิ่มในเว็บของ "พี่แอฟ" เอาได้เลย
9. เรื่องอาหารการกิน ในระยะเดินใกล้ๆต้องบอกว่าไม่ค่อยมีนะ ยังดีที่ว่า ทางโครงการจะมี ร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ (คาดว่า Family mart) มาเปิด จะอยู่ระหว่าง Life Asoke-Rama9 และ Life Asoke Hype นี่แหละ ปัญหาเรื่องนี้ก็จะหมดไป ที่เหลือก็ไปฝากท้องตามห้างเอาได้ไม่ยาก มีตัวเลือกเยอะเลย
เดินมาหาความบันเทิงให้กระเพาะที่ Fortune (มี Tesco Lotus) หรือ Central พระราม9 ได้สบายๆ มีทางเชื่อมจาก MRT เข้าตัวห้างชั้นใต้ดินของ Central ได้เลย อันนี้ชอบมาก อารมณ์เหมือนที่ญี่ปุ่นเลยแหะ ซึ่งของกินมีให้เลือกเพียบ
นั่ง MRT เพียง 1 สถานี ไปลงสถานีศูนย์วัฒนธรรม ก็มีตัวเลือกอย่าง Esplanade รัชดา , Big C Extra และ The Street (แหล่งรวมของแซ่บ 24 ชม.) หรือจะเลือกนั่ง MRT 2 สถานีไปที่เส้นสุขุมวิท สถานีอโศก แวะ Terminal 21 กระซวกของอร่อยสังเวยลิ้นที่ Food Court ชื่อกระฉ่อน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นทางเลือกที่ดีทั้งนั้น ทั้งการหาซื้อของกิน และของใช้
10. มาถึงเรื่องราคาค่าตัว ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้ มีการโปรยราคามาว่า เริ่มที่ 4 ล้านบาท สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม. หารแล้วตก 125,000 บ./ตร.ม. อืม ไม่แพงนะ ถ้าเทียบกับเมื่อตอนเปิดตัว อาจมีการปรับราคาขึ้นบ้างตามกาลเวลา แต่ผมก็ยังรู้สึกว่า "ราคาเป็นมิตร" กว่าหลายโครงการ "คู่แข่ง" อยู่ดี เอ... ไม่เรียก "คู่แข่ง"ดีกว่ามันดูเหมือนจะทะเลาะยังไงไม่รู้ เรียก "เพื่อนร่วมโซน" ละกัน 555
เดี๋ยวนี้ ราคาต่อตร.ม.ประมาณนี้ คอนโดใหม่ๆกระเด็นไปแถวๆพวกบางนาเป็นต้นไปละ พวกรถไฟฟ้าส่วนตัวขยายแถวฝั่งธน บางส่วนราคายังแซงไปแล้วเลย
กลับมาที่คอนโดในละแวก ส่วนใหญ่ไปแถว 1 แสนกลางๆออกปลายๆกันหมดละ 2 แสนอัพก็ยังมี (แต่ทำเลก็ดีกว่านะ) เอาตรงๆถ้าคอนโดล็อตนี้ของ "พี่แอฟ" หมดไป คงยากที่จะได้เห็นคอนโดใจกลางเมืองราคาแบบนี้อีกแล้ว ระยะถึงรถไฟฟ้าก็แค่ 300 ม.เอง เดินได้สบายๆ แหล่งงานก็เยอะแยะ การเดินทางก็หลากหลาย
และด้วยความที่โซนนี้ ยังจะมีความเจริญมาเสริมทัพอีก เอาที่ชัวร์ๆก่อนเลยก็คือ แปลงที่ดินอดีตตึก Super Tower ที่ทาง CP คว้าไป ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม มีผลกระทบในเชิงบวกแน่นอน ไหนจะการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่จะเป็นการเพิ่มเครือข่ายการเดินทางอีก ส่วน "มักกะสัน" ไม่ค่อยอยากพูดถึงเท่าไร เพราะนานแล้ว ยังไม่ทำซะที 555 แต่ถ้าทำเมื่อไร จะเปลี่ยนพื้นที่โซนนี้ขึ้นไปอีกระดับเลย เพราะฉะนั้น ระยะยาวยังไปต่อได้อีกสบายๆ แต่การปล่อยเช่าอาจจะเหนื่อยหน่อยนะ เพราะมีคู่แข่งเยอะ
11. ถ้าดีขนาดนี้ ทำไมถูกละ? ต้องยอมรับว่า จำนวนยูนิตที่เยอะนี่ละครับ คือสาเหตุหนึ่ง การทำโครงการใหญ่ๆแบบนี้ Cost หลายอย่างก็ลดลง การทำส่วนกลางต่างๆ ก็ต่อเนื่องได้ และแถวนั้น จัดว่าเป็นดงคอนโดที่มีหลากหลายแบรนด์มาเข้าสมรภูมิ เรื่องของ "วิว" แน่นอนว่าคงมีการบังกันบ้าง
แต่ถ้าใครไม่ติดเรื่อง "วิว" ขึ้นไปสูดอากาศ เทควิว จากส่วนกลางที่ดาดฟ้าแทนละกัน อิอิ ผมว่านี่คือ "โอกาส" เกือบจะสุดท้ายแล้ว ที่เราจะได้เป็นเจ้าของคอนโดใจกลางเมืองในราคาแบบนี้ หมดแล้วหมดเลย
12. อะ สำหรับคนที่สนใจ คลิกที่นี่ ไปลงทะเบียนกันก่อนเลย และตั้งเตือนไว้เลยว่า วันที่ 1-9 มิ.ย.นี้ ที่ Sales Gallery มีโปรเขย่าราคา ผ่อน 0% สูงสุด 1 ปี* X2 จับแจกรางวัลใหญ่สูงสุด 500,000 บ.*ลดสูงสุด 1 ล้าน* 1 ห้องนอน 32 ตร.ม. เริ่ม 4 ล้าน* แอบบอกว่า ของเหลือน้อยแล้วจริงๆนะเออ